โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

KTB ประเมินค่าเงินบาทวันนี้

ทันหุ้น

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

#ทันหุ้น – นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.30 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยน แปลง” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง ในลักษณะ Sideways แถวโซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.29-32.33 บาทต่อดอลลาร์) เนื่องจากตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันหยุด Labor Day ส่งผลให้ปริมาณการทำธุรกรรมในตลาดการเงินเบาบางลง สะท้อนผ่านการเคลื่อนไหวไร้ทิศทางเช่นกัน ของเงินดอลลาร์ และราคาทองคำ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลการจ้างงาน เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองสินทรัพย์อย่างชัดเจน

แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการเนื่องในวันหยุด Labor Day ทว่า ผู้เล่นในตลาดยังคงอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวอยู่ สะท้อนผ่าน สัญญาฟิวเจอร์สของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways และมีจังหวะปรับตัวลดลงเล็กน้อยราว -0.10% โดยผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดได้อย่างมีนัยสำคัญ

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 รีบาวด์ขึ้น +0.23% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมทหาร-การบิน อาทิ Rheinmetall +3.5% จากรายงานข่าวว่า ทางสหภาพยุโรปได้เตรียมแผนสนับสนุนทางการทหารที่ชัดเจนกับทางยูเครน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของหลักประกันความมั่นคง หลังการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนบ้าง จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นยาขนาดใหญ่ อย่าง Novo Nordisk +1.8% จากรายงานผลการวิจัยยา Wegovy ที่มีแนวโน้มดีกว่ายาของบริษัทคู่แข่ง

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวไร้ทิศทางในกรอบ Sideways ท่ามกลางปริมาณการทำธุรกรรมที่เบาบาง จากวันหยุด Labor Day ของตลาดการเงินสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ส่งผลให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) เคลื่อนไหวแถวโซน 97.7 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 97.5-97.8 จุด) ในส่วนของราคาทองคำ ปริมาณการทำธุรกรรมที่เบาบางลงจากฝั่งตลาดการเงินสหรัฐฯ ทำให้โดยรวม ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. 2025) เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ก่อนที่จะทยอยปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย สู่โซน 3,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงเช้าของตลาดการเงินฝั่งเอเชีย

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing PMI) ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคม ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะใช้ประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ผ่านสัญญาณการจ้างงานของภาคการผลิตอุตสาหกรรมในรายงานดัชนี ISM PMI ภาคการผลิต แรงกดดันเงินเฟ้อจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และภาวะโดยรวมของภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯ โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดให้โอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ ราว 20% และประเมินเฟดมีโอกาสราว 24% ที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีก 4 ครั้ง ในปี 2026

ส่วนในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาสถานการณ์การเมือง ทั้งแนวโน้มการยุบสภาโดยรัฐบาลรักษาการปัจจุบันของพรรคเพื่อไทย และแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งมีตัวแปรที่ต้องติดตาม คือ มติของพรรคประชาชน ว่าจะจับมือจัดตั้งรัฐบาลใหม่กับพรรคการเมืองใด ระหว่างฝั่งพรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาท (USDTHB) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยอาจยังติดโซนแนวต้าน 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับก็ไม่ควรจะต่ำกว่าโซน 32.30 บาทต่อดอลลาร์ ไปมากนัก โดยเฉพาะในช่วงก่อนตลาดรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ (ไฮไลท์สำคัญ คือ ข้อมูลการจ้างงาน) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ได้อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ดี เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าได้ในระยะสั้นนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทย ที่อาจทำให้ บรรดานักลงทุนต่างชาติต่างทยอยขายทำกำไรสินทรัพย์ไทยเพิ่มเติมได้ (จากการประเมินจังหวะการเข้าลงทุนในหุ้นและบอนด์ของบรรดานักลงทุนต่างชาติในปีนี้ เรามองว่า นักลงทุนต่างชาติยังพอมีโอกาสเดินหน้าขายสินทรัพย์ไทยได้พอสมควร หากสถานการณ์การเมืองไทยมีแนวโน้มวุ่นวายมากขึ้น)

ทั้งนี้ แม้เงินบาทจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าบ้าง ทว่า เงินบาทก็อาจพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่า หากราคาทองคำยังสามารถทยอยปรับตัวสูงขึ้นทดสอบโซนแนวต้านสำคัญ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้ อย่างไรก็ตาม เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดก็ควรระวังความผันผวนของราคาทองคำ ซึ่งอาจส่งผ่านมายังความผันผวนของเงินบาทได้ โดยเฉพาะหากราคาทองคำ ขาดปัจจัยหนุนเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดก็ปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำได้พอสมควร และยิ่งสร้างแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทได้

เราขอแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนของตลาดค่าเงิน ในช่วงทยอยรับรู้รายงานดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟด

นอกจากนี้ เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ในส่วนของ Transshipment Tariffs และสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.25-32.50 บาท/ดอลลาร์

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

'กลุ่มแบงก์' มุมมอง บล.ดาโอ หลังดัชนีรถยนต์มือสอง ก.ค. ร่วง -5%

27 นาทีที่แล้ว

หุ้นไทยพักเที่ยงวันนี้(2 ก.ย.) บวก 4.36 จุด ซื้อ PTTGC-BH-TOP

28 นาทีที่แล้ว

BBL แจงระบบ IT ขัดข้องทำยอดเงินในบัญชีลูกค้าบางรายหาย เร่งแก้ไขภายในเวลา 14.00น.

28 นาทีที่แล้ว

ซื้อบ้านด้วย Bitcoin ได้จริง RAK Properties UAE เปิดเกมใหม่รับคริปโต

46 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

MC วางเป้ารายได้ปี 69 โต 6% ลุยขายหน้าร้าน-ออนไลน์

หุ้นวิชั่น

SMD100 ลุยพิสูจน์ผลลัพธ์จริง เปิดตัวโครงการทดลองใช้ ThermoFrost สำหรับสโมสรฟุตบอลอาชีพ

Share2Trade

“แมกซ์มาร์ท” มินิมาร์ทในปั๊มน้ำมัน PT ฉลองวันเกิดตลอดเดือนก.ย.-ต.ค.68 “9.9 Birthday MaxMart” ลดมันส์ฉลองเดือนเกิด”

Share2Trade

GFC รับเกียรติบัตร ESG DNA เดินหน้าองค์กรยั่งยืน

หุ้นวิชั่น

READY เสริมพลังติดอาวุธ ร่วม SME ต้องรอด 2025

หุ้นวิชั่น

'กลุ่มแบงก์' มุมมอง บล.ดาโอ หลังดัชนีรถยนต์มือสอง ก.ค. ร่วง -5%

ทันหุ้น

หุ้นไทยพักเที่ยงวันนี้(2 ก.ย.) บวก 4.36 จุด ซื้อ PTTGC-BH-TOP

ทันหุ้น

ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์ DA Custodian กดภาระต้นทุนลดลง ยกระดับระบบนิเวศของโทเคนดิจิทัล

The Better

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...