GE หุ้นเด่นกลุ่มอากาศยาน-กลาโหม พื้นฐานแข็งแกร่ง-แนวโน้มโตต่อเนื่อง
GE Aerospace (GE) ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท General Electric ก่อนแยกตัวในปี 2024 ได้กลายเป็นหนึ่งในหุ้นที่น่าสนใจที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยานและกลาโหม (Aerospace & Defense) เนื่องจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดี การปรับเพิ่มประมาณการทั้งปี และความต้องการที่แข็งแกร่งจากทั้งภาคการบินพาณิชย์และกลาโหม
ซึ่งทำให้หุ้น GE เป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสการเติบโตอย่างมั่นคงกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง, และผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและนวัตกรรมด้านอวกาศยุคใหม่
โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 GE รายงานรายได้ที่ 11.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) และสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ราว 10.04 พันล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.03 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 60.2% YoY ขณะที่กำไรต่อหุ้นแบบปรับปรุง (adjusted EPS) เพิ่มขึ้น 38% YoY เป็น 1.66 ดอลลาร์ ผลประกอบการเหล่านี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพในการดำเนินงานของของบริษัท
ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตครั้งนี้ ได้แก่ธุรกิจเครื่องยนต์และบริการสำหรับการบินพาณิชย์ ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 30% YoY เป็น 7.99 พันล้านดอลลาร์ จากความต้องการเครื่องยนต์ใหม่, อะไหล่, และบริการซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ GE ยังรายงานคำสั่งซื้อคงค้างที่พุ่งขึ้นถึง 27–28% YoY อยู่ที่ประมาณ 11.7 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ที่สำคัญ กระแสเงินสดอิสระของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว แตะระดับ 2.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินและสนับสนุนการตอบแทนผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง
จากผลประกอบการแข็งแกร่ง บริษัทได้ปรับเพิ่มแนวโน้มทั้งปี โดยคาดว่ารายได้ปี 2025 จะเติบโตในระดับ mid-teens (ประมาณระหว่าง 13% - 17%) จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตในระดับเลขสองหลักต่ำ ๆ adjusted EPS ถูกปรับขึ้นเป็นช่วง 5.60–5.80 ดอลลาร์ จากเดิม ที่ 5.10–5.45 ดอลลาร์ ส่วนกำไรจากการดำเนินงานคาดว่าจะอยู่ที่ 8.2–8.5 พันล้านดอลลาร์ และกระแสเงินสดอิสระคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 6.5–6.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทั้งหมดสูงกว่าที่เคยประมาณการไว้ก่อนหน้า
นอกจากนี้ GE Aerospace ยังตั้งเป้าระยะยาวสำหรับปี 2028 โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตรายได้เฉลี่ยต่อปีเป็นเลขสองหลัก และกำไรจากการดำเนินงานจะแตะ 11.5 พันล้านดอลลาร์, กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ราว 8.40 ดอลลาร์, และกระแสเงินสดอิสระอยู่ที่ 8.5 พันล้านดอลลาร์
ด้านนักวิเคราะห์ หลายแห่งมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการและแนวโน้มของ GE โดย UBS ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 321 ดอลลาร์ จากความต้องการในตลาดที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นในแนวทางการบริหารของบริษัท ด้าน Deutsche Bank ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 315 ดอลลาร์ โดยชี้ถึงจุดแข็งด้านการดำเนินงานและการขยายอัตรากำไร
ขณะที่ Barclays ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 295 ดอลลาร์ และยังคงคำแนะนำ Overweight หลังได้พูดคุยกับผู้บริหาร ส่วน RBC Capital คงคำแนะนำ Outperform และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 300 ดอลลาร์ โดยชี้ถึงความต้องการจากทั้งภาคพาณิชย์และภาคกลาโหม
จากข้อมูลของ TipRanks หุ้น GE ได้รับคำแนะนำโดยเฉลี่ยที่ “Strong Buy” โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 278.10 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบันอยู่ประมาณ 5.8%