สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 28 มิ.ย. 68
1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.เชียงราย (214 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.หนองคาย (94 มม.) ภาคตะวันตก : จ.ประจวบคีรีขันธ์ (47 มม.) ภาคกลาง : จ.ชัยนาท (53 มม.) ภาคตะวันออก : จ.สระแก้ว (86 มม.) ภาคใต้ : จ.นราธิวาส (87 มม.)
วันนี้ : ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบนและภาคเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 29 - 30 มิ.ย. 68 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 56% ของความจุเก็บกัก (45,243 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 36% (21,107 ล้าน ลบ.ม.)
3. พื้นที่ประสบอุทกภัย : สถานการณ์อุทกภัย วันที่ 27 มิ.ย. 68 ในพื้นที่ 3 จังหวัด 8 อำเภอ ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.พญาเม็งราย เวียงเชียงรุ้ง เวียงชัย ขุนตาล และเทิง) จ.น่าน (อ.เชียงกลาง และปัว) และ จ.อุดรธานี (อ.เมืองอุดรธานี)
4. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (27 มิ.ย. 68) นายชุมลาภ เตชะเสน ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานร่วมการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไทย–เนเธอร์แลนด์ ครั้งที่ 1 (1st Joint Steering Committee Thailand - Netherlands)
การประชุมในครั้งนี้ได้หารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเห็นชอบกรอบการดำเนินงานตามแผนดำเนินงานระยะ 5 ปี ค.ศ. 2026 – 2030 (5-Year Action Plan) ซึ่งกำหนดทิศทางการทำงานร่วมกันในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการจัดการและพัฒนาเพื่อป้องกันการรุกล้ำของน้ำทะเลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การส่งเสริมแนวทางการแก้ไขปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นฐาน (Nature-based Solutions: NbS) การศึกษาระบบภาษีน้ำและกองทุนน้ำ (Water Fund) และการจัดการน้ำท่วมและระบายน้ำ รวมถึงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เป็นต้น
ทั้งสองฝ่ายได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือในระยะยาวที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะความเชี่ยวชาญของเนเธอร์แลนด์ ที่จะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์และเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาสู่การพัฒนาการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 27 มิ.ย. 68