Karate Kid: Legends การกลับมาของตำนานหนังกังฟูยุค 80 และ 'เฉินหลง'
สำหรับคอหนังยุค 80 The Karate Kid (1984) คือหนึ่งในภาพยนตร์ที่เป็นตัวแทนแห่งยุคสมัย กับเรื่องราวอันน่าประทับใจของเด็กหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน-อิตาลีที่ย้ายตามแม่มาอยู่แอลเอ ได้ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้จากอาจารย์ชาวญี่ปุ่นเพื่อเอาไว้ป้องกันตัวยามถูกบูลลี่ในโรงเรียน และมีชัยในการแข่งคาราเต้เหนือคู่อริ
ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างล้นหลามก่อกำเนิดแฟรนไชส์ภาพยนตร์ The Karate Kid ที่มีการสร้างภาคต่อตามมาถึง 5 ภาค จนถึง The Karate Kid (2010) แล้วก็หยุดไป
ผ่านมา 15 ปี นับจากภาค 5 และเป็นเวลานานถึง 41 ปี นับจากภาคแรกออกฉาย หนังเรื่องล่าสุดในแฟรนไชส์นี้ที่ชื่อว่า Karate Kid: Legends (2025) ก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมสองนักแสดงที่เคยสร้างตำนานให้กับแฟรนไชส์นี้ ได้แก่
นักแสดงหนังกังฟูระดับตำนานชาวฮ่องกง เฉินหลง หรือ แจ็คกี้ ชาน ที่เคยรับบท มิสเตอร์ฮัน อาจารย์สอนกังฟูใน The Karate Kid (2010)
ราล์ฟ มัชชิโอ พระเอก The Karate Kid ภาคแรกที่กลับมารับบทแดเนียล ลารุสโซ อีกครั้ง
Karate Kid: Legends คาราเต้ คิด ผนึกพลังตำนานนักสู้ เป็นเรื่องราวของ ลี ฟง (เบน หวัง นักแสดงจาก American Born Chinese) เด็กหนุ่มอัจฉริยะด้านกังฟูที่ย้ายตามแม่ไปอยู่นิวยอร์ก เขาได้พบมิตรภาพใหม่กับเพื่อนร่วมชั้นและพ่อของเธอ แต่ความสงบสุขที่เพิ่งค้นพบกลับอยู่ได้ไม่นาน เมื่อลีกลายเป็นหนามทิ่มแทงตาของแชมเปี้ยนคาราเต้ที่น่าเกรงขามในท้องถิ่น
ด้วยความปรารถนาที่จะปกป้องตัวเอง ลีเข้าร่วมการแข่งขันสุดยอดนักคาราเต้ภายใต้คำชี้แนะจากมิสเตอร์ฮัน (แจ็คกี้ ชาน) ครูสอนกังฟูผู้เป็นลุงของเขา และแดเนียล ลารุสโซ (ราล์ฟ มัชชิโอ) นักแสดงคาราเต้ คิดในตำนาน
ลีได้ผสมผสานสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศาสตร์ทั้งสอง กังฟูและคาราเต้ เข้าด้วยกันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประลองศิลปะการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่
“คาราเต้ คิดคนใหม่” ก้าวเข้าสู่สังเวียน โดยมีทีมนักสู้ในตำนานหนุนหลังเขาอยู่
โคลัมเบีย พิคเจอร์ส ภูมิใจเสนอ Karate Kid: Legends ผลงานสร้างโดยซันสเว็ป เอนเตอร์เทนเมนต์ นำแสดงโดยแจ็คกี้ ชาน, ราล์ฟ มัชชิโอ ร่วมแสดงโดยเบน หวัง, โจชัว แจ็คสัน, ซาดี้ สแตนลีย์ และหมิง-นา เวน กำกับโดยโจนาธาน เอนท์วิสเทิล อำนวยการสร้างโดยคาเรน โรเซนเฟลท์ เขียนบทโดยร็อบ ลีเบอร์
เมื่อสองตำนาน กังฟู-คาราเต้ มาเจอกัน
ผู้กำกับโจนาธาน เอนท์วิสเทิลกล่าวถึงไวบ์ของ Karate Kid: Legends เอาไว้ว่ามีความโน้มเอียงไปทางหนังแบบเฉินหลงมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการตัดต่อ อารมณ์ขัน การใช้ทักษะทางกาย แต่เหนือสิ่งอื่นใด หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับการผสมผสานโลกทั้งสองใบเข้าด้วยกัน เมื่อสองแรงผนึกกำลังกันเพื่อสร้าง “หนึ่งต้นแกร่ง” ขึ้นมา
ขณะที่คาเรน โรเซนเฟลท์ ผู้อำนวยการสร้าง พูดถึงการนำเฉินหลงกลับมาร่วมงานกับราล์ฟ มัชชิโออีกครั้งว่าการนำตำนานทั้งสองคนมาเจอกันเป็นอะไรที่ยิ่งกว่าความฝันสำหรับผู้อำนวยการสร้าง
“สิ่งที่แปลกใหม่และโดดเด่นเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้คือทั้งมิสเตอร์ฮันและแดเนียล ลารุสโซกำลังฝึกเด็กหนุ่มชาวจีนที่พูดภาษาจีนกลาง มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวและการค้นพบสิ่งที่สำคัญอีกครั้ง และคุณสามารถดูหนังเรื่องนี้ได้แม้ว่าจะไม่เคยดูหนังเรื่อง Karate Kid มาก่อนเลยก็ตาม แต่ในขณะเดียวกัน สำหรับคนที่เป็นแฟนของแฟรนไชส์นี้ มันยังเป็นจดหมายรักสำหรับคนที่คอยสนับสนุน The Karate Kid มาตั้งแต่ปี 1984 ด้วยค่ะ”
ตำนานทั้งคู่ต่างกลับมารับบทเดิมของตัวเองในแฟรนไชส์ Karate Kid โดยมัชชิโอรับบท แดเนียล ลารุสโซ อดีตแชมเปี้ยนคาราเต้เด็กที่ตอนนี้กลายเป็นอาจารย์ในลอสแองเจลิส ส่วนบทของเฉินหลงคือ มิสเตอร์ฮัน ปรมาจารย์กังฟูในปักกิ่ง
ทั้งสองคนได้ร่วมมือกันฝึกฝนลี ฟง หลานชายของฮัน ที่เข้าร่วมทัวร์นาเมนต์การแข่งขันคาราเต้เดิมพันสูงในนิวยอร์ก โดยสอนให้เขาผสมผสานคาราเต้และกังฟูเข้าด้วยกันให้กลายเป็นสไตล์การต่อสู้ที่จะทำให้เขากลายเป็นแชมเปี้ยน
มัชชิโอบอกว่าการออกแบบท่าต่อสู้ที่ดุเดือดไปจนถึงการแสดงความเคารพต่ออาจารย์มิยากิ ครูสอนคาราเต้ในหนังภาคแรกซึ่งเป็นไอคอนของแฟรนไชส์นี้ ทำให้ภาพยนตร์ Karate Kid: Legends สามารถดึงดูดใจได้ทั้งผู้ชมกลุ่มใหม่และแฟน ๆ ดั้งเดิม
เราต่างอยากมี “มิสเตอร์ฮัน” เป็นของตัวเอง
เบน หวัง (American Born Chinese) หนุ่มอเมริกันเชื้อสายจีนผู้รับบท ลี ฟง ตัวเอกของ Karate Kid: Legends เข้าถึงความรู้สึกของตัวละครนี้เป็นอย่างดี
“ไอเดียของการไปอยู่ในที่ใหม่โดยสิ้นเชิง ต้องเริ่มต้นใหม่และค้นหาคนที่จะช่วยเหลือคุณระหว่างนั้น คือความหมายของหนังเรื่องนี้ครับ เบื้องหลังกังฟูและคาราเต้คือเรื่องเจ๋ง ๆ เกี่ยวกับการตามหาหนทางของตัวเอง เรียนรู้ที่จะทำตัวกลมกลืนและค้นพบอาจารย์ดี ๆ น่ะครับ”
ทีมผู้สร้างและนักแสดงต้องค้นหาสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างการบอกเล่าเรื่องราวใหม่เอี่ยมกับการให้เกียรติตำนานที่เก่าแก่ยาวนานถึง 40 ปีเข้าด้วยกัน
“สิ่งที่เราสร้างขึ้นมาคือหนังที่มีทั้งหัวใจ อารมณ์ขันและแอ็กชัน มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อครอบครัวของคุณ หรือการเรียนรู้ว่าเราต่อสู้เพื่ออะไร ผมคิดว่านั่นเป็นข้อคิดที่สำคัญที่สุด เพียงแต่มันถูกห่อหุ้มอยู่ในหนังศิลปะการต่อสู้จริง ๆ เป็นหนังแอ็กชันผจญภัยจริง ๆ ที่มีเรื่องอบอุ่นหัวใจ มีฉากใหญ่ๆ มากมายของผู้คนที่เรียนรู้ถึงความหมายของการเติบโตขึ้นน่ะครับ”
ผู้กำกับ โจนาธาน เอนท์วิสเทิล กล่าว
ปิดท้ายด้วย คาเรน โรเซนเฟลท์ ผู้อำนวยการสร้าง ที่กล่าวถึงหัวใจของหนัง The Karate Kid เอาไว้ว่า
“เราทุกคนต่างก็หวังว่าจะมีมิสเตอร์ฮันหรือมิสเตอร์มิยากิในชีวิตของเราค่ะ การเป็นคนนอกที่มีความฝัน ความต้องการจะรักษาอัตลักษณ์ของตัวเองแต่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของที่ใดที่หนึ่ง มันเป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถเข้าถึงได้ค่ะ”
Karate Kid: Legends คาราเต้ คิด ผนึกพลังตำนานนักสู้ มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 17 กรกฏาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
แต่ถ้าใครอยากย้อนกลับไปทบทวนเรื่องราวในภาคเก่า ๆ Prime Video มีภาพยนตร์ The Karate Kid ภาคแรก, ภาคสอง และภาค 5 ให้ได้รับชมกัน