โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"โรม" ซัด “รัฐบาล-กต.” อืด หนังสือท้วงก็ยังไม่ทำ-เชิญทูตก็ไม่เห็น ปล่อย ขรก.ทำกันเอง ปมทุ่นระเบิด

สยามรัฐ

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 22 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีการวางทุ่นระเบิดฝั่งชายแดนไทยและมีทหารได้รับบาดเจ็บว่า ในวันพฤหัสที่ 24 ก.ค. จะพูดคุยในภาพรวมทั้งหมด และจะขอมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อใช้อำนาจ เรียกนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ รวมถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ซึ่งไม่ได้สนใจ แต่ตนทำหน้าที่ของตน เพราะสิ่งที่ตนทำไปทั้งหมดหลักคิดง่ายนิดเดียวเพราะเรื่องคลิปเสียง การสนทนาระหว่างน.ส.แพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็ก และพยายามปลดให้จบไม่ต้องไม่ต้องมีการทำอะไรต่อ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่ตนรับไม่ได้ ดังนั้นตนเป็นประธานกรรมาธิการความมั่นคงฯ จึงจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะเรื่องนี้เป็น จุดเปลี่ยนที่สำคัญในหลายเรื่องของรัฐบาล ที่ไม่สามารถเดินต่อได้ ในการทลายความขัดแย้งที่เป็นอยู่กับกัมพูชา

นายรังสิมันต์กล่าวว่า การที่เราเห็นปราสาทตาเมือนธม ที่มีคนขึ้นไปแล้วแทบจะเป็นเวทีมวยตลอดเวลา ตนไม่คิดว่าเป็นบรรยากาศที่ดี ขอถามว่าหากความขัดแย้งขยายใหญ่โตจากปัญหาของ 2 ตระกูลที่เกิดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ สุดท้ายคนทั้ง 2 ประเทศจะต้องเข่นฆ่ากัน ซึ่งถือเป็นความไม่รับผิดชอบของนางสาวแพทองธาร และนายทักษิณ และทำให้สุดท้ายประเทศไทยเสี่ยงกับการ เจอวิกฤตทางการเมืองที่เราเป็นอยู่ จึงคิดว่าปัญหาตามแนวชายแดนควรจะมีแนวทางที่จะต้องหาทางออกได้แล้ว ไม่ควรปล่อยแบบนี้ต่อไป โดยที่เรื่องต่าง ๆ ที่รัฐบาลหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการเจรจากับชาติอื่น รวมถึงแก๊งคอร์เซ็นเตอร์ก็มีความคืบหน้าค่อนข้างน้อยมาก ในขณะที่ล่าสุดที่มีการวางกับดักระเบิดก็ชัดเจนว่าผิดอนุสัญญาออตตาวา จะรอเดือนธันวาคมที่มีที่การประชุม ก็เป็นไปไม่ได้ และท่าทีของกระทรวงการต่างประเทศถือว่าล่าช้าไปมาก เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่ผันแปรไป ดังนั้นความล่าช้าต่างๆ ก็เติมไฟให้ความรู้สึกของประชาชน และหากสถานการณ์ บานปลายถึงขั้นลบกันก็ไม่มีใครได้ ทุกคนเสียหมด

เมื่อถามว่าล่าสุดกัมพูชาตอบโต้ว่าใครไม่มีหลักฐาน ว่าเป็นทุนระเบิดของกัมพูชา นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หลักฐานก็คือระเบิด ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องรวบรวม หากเป็นระเบิดที่วางกับดับโดยกัมพูชาจริง ตนถือเป็นเรื่องใหญ่ แม้ตามอนุสัญญาในแง่ของบทลงโทษที่ชัดเจน ไม่ได้ขนาดนั้น แต่ต้องยอมรับว่าใครก็ตามที่ละเมิดอนุสัญญา ก็เสียหาย การยอมรับในเวทีนานาชาติ ก็ต้องเรียกได้ว่าน่าจะได้รับความเสียหายมาก ตนจึงคิดว่าเรื่องนี้ประเทศไทยอยู่เฉยไม่ได้ และต้องทำงาน โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศและฝ่ายความมั่นคงจะต้องทำงานอย่างเป็นเอกภาพ เพราะการทำงานในวันนี้มีปัญหามาก และถามว่าเรื่องนี้รัฐบาลจะแก้ไขหรือไม่ ก็เห็นว่าไม่คิดจะแก้ ซึ่งสถานการณ์พัฒนาไปค่อนข้างเร็วขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจะมีการประณามก็ออกมาช้า แม้กระทั่งส่งหนังสือประท้วงก็ยังไม่ได้ทำ ควรเชิญมาตำหนิก็ยังไม่ได้ทำ ดังนั้นคิดว่ากระบวนการหลายอย่าง ค่อนข้างล่าช้าอยู่มาก จึงคิดว่ารัฐบาลอาจจะมีปัญหา จะไปรอให้หน่วยปฏิบัติ ทำเองทุกอย่าง ก็ไม่ได้ ถ้าอย่างนี้ก็ไม่ต้องมีรัฐบาลก็ได้ แล้วให้การบริหารงานไปโดยข้าราชการ หลังจากมีคลิปเสียง รัฐบาลก็พูดอะไรมากไม่ได้ หากยุ่งมากก็จะมีปัญหาเรื่องความชอบธรรม จึงทำให้รัฐบาลไปยุ่งหรือไปกำกับอย่างที่ควรจะเป็น ปล่อยให้ฝ่ายประจำทำและสุดท้ายก็ช้าไปหมด ขณะนี้เราเหมือนจะอยู่ในสถานการณ์ที่เพลี้ยงพล้ำ นี่ยังไม่นับว่า พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนได้รับความเดือดร้อน

“จริงๆ เราเห็นภาพที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม เป็นความขัดแย้งชิงไหวชิงพริบกัน แต่พี่น้องตามแนวชายแดน กังวลว่าจะมีสงครามหรือไม่ กังวลว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ในขณะที่ ฝั่งอรัญประเทศก็กังวลเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ดังนั้นหากปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังแบบนี้ เดินต่อลำบากจริงๆ ดังนั้นรัฐบาลต้องกำกับ ให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างเป็นเอกภาพ ฝ่ายความมั่นคงก็ทำงาน การสื่อสารของฝ่ายความมั่นคง รัฐบาลก็ต้องทำงาน ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศก็ต้องไม่ช้า ซึ่งเห็นว่าตอนนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศทำงานช้ามาก”

เมื่อถามว่าจะมีอะไรฝากถึง นางสาวแพทองธารหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าถ้าไปต่อไม่ได้ก็มี วิถีทางการเมืองอยู่ คือวันนี้ท่านต้องรู้จักพอ ท่านต้องพอได้แล้ว และคืนอำนาจให้กับประชาชน เมื่อไหร่ ที่นางสาวแพทองธารและนายทักษิณไม่รู้จักคำว่าพอ และไม่รู้จักเข้าใจว่าสถานการณ์นี้ไปต่อไม่ได้จริงๆ ประเทศจะเดินต่อไม่ได้ จึงอยากให้อย่างน้อยที่สุดมองเห็น ภาพรวมของประเทศชาติ และคิดเสียถือว่าหากสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้ ที่ไปต่อไม่ได้ บางทีการหันไปสู่การเลือกตั้ง อาจจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดก็ได้ตนคิดว่าเมื่อมีการเลือกตั้ง ทุกอย่างจะคลี่คลายกว่านี้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

ระอุ! "แพรรี่-สมปอง-จตุรงค์" แฉใครตั้ง ‘ทิดแย้ม’ เจ้าคณะภาค 14 - เงิน 15 ล้าน มีจริงหรือ?

17 นาทีที่แล้ว

กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต ยกทัพสุดยอดผลิตภัณฑ์ และบริการตรวจสุขภาพ ร่วมงาน “วันประกันแห่งชาติ ครั้งที่ 24”

20 นาทีที่แล้ว

กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มุ่งส่งเสริมพัฒนาอาชีพด้วยภูมิปัญญาบัญชี

21 นาทีที่แล้ว

TFS จัดสัมมนาพิเศษ “เฉือนกันขาด ด้วยศาสตร์ตัวเลข” เปิดมุมมองใหม่ ใช้พลังตัวเลขวางแผนชีวิต สุขภาพ และธุรกิจอย่างมีชั้นเชิง

24 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

‘นิพนธ์’ เปิดบ้านทำบุญวันเกิดครบ 67 ปี ‘เนวิน – อนุทิน’ ส่งตัวแทนมอบดอกไม้ทอดไมตรี

THE STATES TIMES
วิดีโอ

เริ่มแล้ว! ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล 'นายใหญ่ทักษิณ' มาด้วย

THE ROOM 44 CHANNEL

‘กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย’ เน้นย้ำประชาชนพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม ติดตามข่าวสารทางราชการใกล้ชิดเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

เดลินิวส์

‘อนุทิน’ ยันไม่เกี่ยวนักธุรกิจลำปาง ร้องถูก ‘ที่ปรึกษาหลอก’ เรียกเงินแลกสิทธิรับเหมา

เดลินิวส์

ภท.จ่อถกฝ่ายค้าน ชงอภิปรายม.152 ปม'ภาษีทรัมป์' ก่อน1ส.ค.

กรุงเทพธุรกิจ

"กมธ.ศาสนาฯ" เล็งคุม "พระแชท-วิดีโอคอลหาสีกา" สกัดปัญหา "ลับหู" ชี้กระทบศรัทธาวงการสงฆ์ พร้อมรื้อกฎหมาย คุมเข้มเงินวัด!

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม