"แพทองธาร"ยัน ปะทะกัมพูชา ไม่ใช่ศึก 2 ตระกูล แฉปมแค้นปราบแก๊งคอล

ที่กระทรวงวัฒนธรรม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและรมว.วัฒนธรรม แถลงว่า ย้ำที่นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย แถลง ว่าสิ่งที่กัมพูชาทำเป็นอาชญากรรม ขัดหลักมนุษยธรรม อย่างรุนแรง เป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่อยากให้เกิดขึ้น และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน และดำเนินการตลอด จนกระทั่งกัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อนเมื่อวันที่ 24 ก.ค.

ทั้งนี้สำนักข่าวต่างประเทศ ตั้งข้อสังเกตว่าเรามีหลักฐานหรือดิจิทัลฟุตปริ๊นต์ ว่าใครเริ่มก่อน และเป็นที่สังเกตว่านักเรียนเราไปปกติ แต่นักเรียนกัมพูชาไม่ได้ไป จึงตั้งข้อสังเกตว่าถ้าเรารู้ว่าจะยิง ก็คงต้องแจ้ง แต่กัมพูชารู้หรือไม่ จึงให้เด็กหยุดเรียน

น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ตอนนี้แม้ปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ แต่ก็รับฟังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยังติดตาม เมื่อวานไปอัดคลิปที่เอ็นบีที ก็อัพเดตกับรมช.กลาโหม ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ท่านยืนยันว่าเรื่องยุทโธปกรณ์ต่างๆ ไม่ต้องเป็นห่วง เรามีพร้อม การใช้F-16 ตอบโต้ เพราะกัมพูชายิงมาถึงแหล่งชุมชน และกระทบต่อชีวิต

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขั้นตอนจากนี้รัฐบาลกับกองทัพประสานงานอย่างต่อเนื่อง หากถามว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อ ก็ให้ทางหน้างานดู แต่เราก็ต้องพยายามที่สุดที่จะปกป้องอธิปไตย เพราะเราไม่ได้เริ่มก่อน เราไม่ต้องการความ รุนแรง

แต่ถ้าความรุนแรงมาถึงเราก็สู้ไม่ถอยเช่นกัน ยืนยันไม่อยากให้เกิดความรุนแรง แต่ความรุนแรงถูกเริ่มโดนกัมพูชา 100 เปอร์เซ็นต์ เหตุการณ์นี้ตนสนับสนุนให้คนสามัคคีกันในชาติ และทะเลาะกับคนต่างประเทศก่อน ในประเทศรอได้ แต่นอกประเทศรอไม่ได้ เชื่อว่าคนไทยรักคนไทยเองอย่างมาก

ส่วนเรื่องคำครหา ทางการเมืองมีคนมาใช้ปลุกปั่น อาทิ ว่าเป็นเรื่อง 2 ตระกูลทะเลาะกัน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เมื่อหลายเดือนปราบคอลเซ็นเตอร์จริงจัง ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตัวเลขความเสียหายลดลง โดยไทย ลาว พม่า ได้ทำไตรภาคีปราบคอลเซ็นเตอร์ ก็ได้โทรไปคุยส่วนตัว แต่ไม่ถูกอัดคลิป ตอนนั้นก็ไม่ทราบว่าเสียประโยชน์หรือไม่

เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลที่ต้องทำ พอคุยกัน ก็ถามว่าทำไมไม่ทำกับกัมพูชา ก็บอกว่าจะบวกไปด้วย ก็บอกว่าไม่ต้องร่วมกัน เดี๋ยวทำกัน 2 ประเทศไทยกัมพูชาพอ พอมาคิดย้อนก็เป็นความไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้น ก็คิดว่าเราไปขัดผลประโยชน์บางอย่างหรือไม่

รัฐาลที่เข้ามาไม่ว่านามสกุลชินวัตรหรือไม่ ก็ต้องปราบ เพราะกระทบกับผลประโยชน์คนไทย เช่นเดียวกับยาเสพติด ไม่ทำก็ไม่ได้ อันนี้คงทำให้เกิดหลายๆเรื่องตามมา