สธ. เผยสถานการณ์สู้รบ ไทยกัมพูชา รพ.ในพื้นที่สีส้ม เจอปัญหาขาดงบประมาณ
สธ. เผยสถานการณ์สู้รบ ไทยกัมพูชา รพ.ในพื้นที่สีส้ม เจอปัญหาขาดงบประมาณ ไม่เพียงพอต่อจำนวนเคสที่เพิ่มมากขึ้น เร่งแจ้ง รมต.หาทางแก้ไข
วันที่ 26 ก.ค.2568 นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังจากที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) ออกมาตราการรองรับการช่วยเหลือทางการแพทย์ให้กับประชาชนในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยประณามการโจมตีโรงพยาบาล (รพ.) และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ว่า
การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอนุสัญญาเจนีวาอย่างร้ายแรง ถือเป็นอาชญากรสงคราม ส่งผลให้ รพ.อำเภอหลายแห่งถูกประกาศเป็นพื้นที่สีแดงต้องปิดทำการชั่วคราว เพื่อป้องกันความสูญเสียของบุคลากรทางการแพทย์รวมถึงผู้ป่วยด้วย
ตนได้รับคำสั่งเร่งด่วนจาก นายสมศักดิ์ ให้ลงพื้นที่ ดูแล ประสานงานกับโรงพยาบาลในเขตพื้นที่สีส้มและสีเขียวสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเปิดรองรับการให้บริการทางการแพทย์กับประชาชนที่มาจากเขตพื้นที่สีแดง และให้รายงานปัญหาต่างๆ เป็นการเร่งด่วน
นายจิรพงษ์ เปิดเผยอีกว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ เขต 4 พรรคเพื่อไทย และ นายมฆวาน บัวบุตร คณะทำงานฯ นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ติดตามสถานการณ์ชายแดน พร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์
ผู้ป่วยเก่าและใหม่ที่ส่งต่อมาจาก รพ.กันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ ไปยัง รพ.โนนคูณ 21 ราย รพ.เบญจลักษ์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 31 ราย และ รพ.ศรีรัตนะ 20 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเคสสีเหลืองและเคสสีเขียว
ส่วนในกรณีผู้ป่วยเคสสีแดง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของทหารกัมพูชาในอำเภอกันทรลักษ์นั้น ถูกส่งตัวไปยัง รพ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับจังหวัด ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด 8 ราย ยังรักษาตัวอยู่อีก 8 ราย รักษาหายดีและกลับบ้านได้แล้ว 7 ราย
สธ. เผยสถานการณ์สู้รบ ไทยกัมพูชา รพ.ในพื้นที่สีส้ม เจอปัญหาขาดงบประมาณ
ส่วนสถานการณ์ใน อ.ภูสิงห์ นั้น ทาง รพ.ภูสิงห์ ได้ถูกปิดทำการชั่วคราว เพราะอยู่ในพื้นที่ระยะยิงปืนใหญ่ของฝังกัมพูชา โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยัง รพ.ปรางค์กู่ 5 ราย รพ.ห้วยทับทัน 7 ราย และ รพ.วังหิน 12 ราย โดยประชาชนชาว อ.ภูสิงห์ สามารถรับบริการทางการแพทย์จาก รพ. 3 แห่งที่กล่าวมา
นายจิรพงษ์ กล่าวว่า ตนยังเดินทางไปเยี่ยมศูนย์ EMS ชั่วคราว ที่จัดตั้งเพื่อเตรียมรับมือสภาวะฉุกเฉิน และแผนส่งต่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัดศรีสะเกษ โดยนพ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย ผู้อำนวยการโรงพยาบาล รวมถึงหน่วยกู้ภัย
รายงานว่า ผู้ป่วยที่ย้ายมาจาก รพ.ในเขตพื้นที่สีแดง ผู้ป่วยใหม่จากศูนย์อพยพ และประชาชนทั่วไปสามารถเข้ารับการรักษาตาม รพ.ในเขตต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยใช้สิทธิบัตรทองใน โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่
ซึ่งทาง รพ. ในจังหวัดศรีสะเกษ มีการบูรณาการร่วมกัน จัดสรรแพทย์จาก รพ. ทั่วจังหวัดศรีสะเกษ ช่วยกันพลัดเปลี่ยนรักษาผู้ป่วยใน รพ.เขตสีส้มที่ย้ายมาเพิ่มมากขึ้น รวมถึงผู้ป่วยใหม่ในกรณีฉุกเฉินและหญิงตั้งครรภ์ที่รอคลอดด้วย
“แต่ปัญหาหน้างานส่วนใหญ่ในขณะนี้คือการขาดแคลนเตียงผู้ป่วย เครื่องควบคุมการให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ Infusion Pump และเครื่องมือสื่อสารของหน่วยกู้ภัย และปัญหามากกว่านั้นคือ รพ. ในเขตพื้นที่สีส้มส่วนใหญ่มีขนาดกลางถึงเล็ก งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรเข้าไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ เงินบำรุงของ รพ. ไม่เพียงพอต่อจำนวนเคสที่เพิ่มมากขึ้น ตนจึงนำเรียนปัญหาดังกล่าวกับ นายสมศักดิ์ แล้วเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป” นายจิรพงษ์ กล่าว
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สธ. เผยสถานการณ์สู้รบ ไทยกัมพูชา รพ.ในพื้นที่สีส้ม เจอปัญหาขาดงบประมาณ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th