อิทธิพลพายุวิภา“น่านวิกฤต”น้ำทะลักล้นตลิ่ง จ่อเข้าถึงตัวเมือง
“ฝนไม่หยุด - น้ำไม่รอ”
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2568 สถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดน่านเข้าสู่ภาวะวิกฤตจากฝนตกหนักตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา อิทธิพลพายุโซนร้อน “วิภา” ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนสะสมสูงเฉลี่ย 250–290 มม.
โดยเฉพาะในเขต อ.ปัว อ.เชียงกลาง อ.ภูเพียง และตัวเมืองน่าน จนทำให้แม่น้ำน่านทะลักล้นตลิ่งบริเวณสถานี N.64 บ้านผาขวาง สูงกว่า 4 ซม. และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ศูนย์เฝ้าระวังน้ำจังหวัดน่าน คาดว่า หากปริมาณน้ำจากสถานีผาขวาง (N.64) และน้ำยาว (N.49) รวมกันเกิน 1,066 ลบ.ม./วินาที น้ำจะล้นตลิ่งเข้าสู่เทศบาลเมืองน่านภายใน 7 ชั่วโมง ซึ่งจะกระทบโดยตรงต่อเขตเศรษฐกิจ ชุมชน และโรงพยาบาล
เปิดพื้นที่ “จมน้ำ” - ถนนตัดขาด
รายงานจากหลายอำเภอพบว่าเกิดน้ำป่าไหลหลาก-น้ำท่วมฉับพลันในหลายหมู่บ้าน เช่น
- อ.ปัว: บ้านขอน, บ้านร้อง, บ้านป่าหัด, บ้านเฮี้ย (ต.ศิลาแลง), บ้านนาก้อน้ำปัว
- อ.เชียงกลาง: บ้านดอนสบเปือ, บ้านงิ้ว, บ้านไฮหลวง
- อ.ท่าวังผา: บ้านน้ำไคร้ (ต.ยม), ต.จอมพระ
- อ.ทุ่งช้าง: คอสะพานบ้านน้ำสอดขาด, เส้นทางถูกตัดขาด
- อ.เวียงสา: น้ำว้าคาดว่าจะหลากเข้าท่วมสะพานท่าลี่ช่วง 19.00 น.
- เขตเมืองน่าน: น้ำเริ่มเอ่อล้นบริเวณแยกต้นโพธิ์ หน้าโรงเรียนศรีน่าน และใกล้สะพานนครน่านพัฒนา
โรงเรียนปิดฉุกเฉิน 5 แห่ง
เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร ทางจังหวัดน่านประกาศ ปิดโรงเรียน 5 แห่ง ได้แก่
- โรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร
- โรงเรียนบ้านดอนศรีเสริม
- โรงเรียนราชานุบาลน่าน
- โรงเรียนสมปัญญา
- โรงเรียนสตรีศรีน่าน
ตั้งแนวป้องกันน้ำ-ทหารระดมช่วย
นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน สั่งวางแนวกระสอบทราย (Big Bag) เร่งด่วน 3 จุดเสี่ยง
- พื้นที่รอยต่อ ต.ฝายแก้ว – บ้านน้ำล้อม
- สะพานนครน่านพัฒนา
- หน้าโรงเรียนศรีน่าน
ด้าน ทหาร มทบ.38 – ทหารพราน กองกำลังผาเมือง เตรียมกำลังช่วยขนย้ายผู้ประสบภัย พร้อมนำโดรนสำรวจพื้นที่อับสัญญาณในหุบเขา โดยเฉพาะหมู่บ้านสะปัน ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ ที่อาจถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
อ่างเก็บน้ำ “น้ำเกี๋ยน” วิกฤต – ดินเริ่มทรุด
เจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานตรวจพบ แนวทรุดตัวท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยเกี๋ยน อ.ภูเพียง หลังระดับน้ำทะลัก spillway จึงเร่งทำกาลักน้ำระบายออก เพื่อลดความดันน้ำก่อนดินทรุดซ้ำซ้อน
เตือน 15 อำเภอ เตรียมอพยพหากจำเป็น
ผู้ว่าฯ น่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ สั่งทุกอำเภอเข้าสู่โหมดเฝ้าระวังสูงสุด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงริมน้ำ ริมเขา พร้อมเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับหากต้องอพยพประชาชน
สถิติฝนตกหนักสุดในรอบ 47 ปี
ชาวบ้านบ้านปรางค์ ต.วรนคร อ.ปัว ระบุ น้ำท่วมครั้งนี้หนักที่สุดในรอบ 47 ปี น้ำมาเร็วและแรง โดยถนนสายหลักบางช่วงถูกตัดขาดแล้ว เช่น
- ทางเชื่อมบ้านปรางค์–บ้านร้อง
- บ้านพร้าว–บ้านก๋ง ต.ยม อ.ท่าวังผา
- สะพานบ้านดอนมูลใกล้วิกฤต
พยากรณ์: ฝนยังไม่หยุด 24 ก.ค.
กรมอุตุฯ คาดการณ์ วันที่ 24 ก.ค. 68 ภาคเหนือและอีสาน ยังมีฝนตกหนักถึงหนักมาก หลายพื้นที่ อาทิ น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ และเชียงราย ต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน-ดินถล่มต่อเนื่อง
คำเตือนถึงประชาชน:
เฝ้าติดตามประกาศจากหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด เตรียมย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และวางแผนเส้นทางเดินทางล่วงหน้า หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมพร้อมอพยพทันทีเมื่อมีสัญญาณแจ้งเตือน