ทั่วโลกเกิดอะไรขึ้นบ้างสัปดาห์นี้ 14-19 กรกฎาคม 2568

อัพเดต 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

สภาพอากาศแปรปรวนและภัยพิบัติได้เกิดขึ้นหลายประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่กำลังเผชิญพายุหนักจนทำให้มีผู้เสียชีวิต และน้ำทะลักเข้าสถานีรถไฟใต้ดินนิวยอร์ก ส่งผลให้ขนส่งสาธารณะบางแห่งต้องหยุดชะงักในคืนวันจันทร์

อีกประเด็นที่หลายประเทศต้องเผชิญความท้าทายไปพร้อมกันคือ ความก้าวหน้าและภัยคุกคามจากเทคโนโลยี บอดี้การ์ดผู้นำสวีเดนเปิดเผยสถานที่ส่วนตัวของผู้นำโดยไม่ตั้งใจจากการบันทึกการออกกำลังกายผ่านแอปพลิเคชั่น Strava และนักศึกษาชายฮ่องกงได้แอบนำภาพถ่ายนักศึกษาหญิงและอาจารย์กว่า 700 ภาพไปให้ AI ทำภาพอนาจาร

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นละเมิดสิทธิแรงงานในอุตสาหกรรมแฟชั่นจากการที่ศาลมิลานตรวจพบว่า แบรนด์โลโร เปียนา ในเครือของ LVMH ละเมิดสิทธิแรงงานชาวจีนในมิลาน

ติดตามการสรุปข่าวอื่นๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้ในสัปดาห์นี้

Iceland

ภูเขาไฟปะทุในไอซ์แลนด์เป็นครั้งที่ 12 ในรอบ 4 ปี แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบกับประชากรและเมือง

ประเทศเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือมักถูกเรียกว่าดินแดนแห่งน้ำแข็งและไฟ เพราะเต็มไปด้วยธารน้ำแข็งและภูเขาไฟมากมาย เช่นเดียวกับภูเขาไฟซุนดานุกูร์ในไอซ์แลนด์ที่ปะทุในวันที่ 16 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่น

แมกมาพุ่งทะลุเปลือกโลกขึ้นมา ทำให้เกิดรอยแยกที่มีความยาวระหว่าง 700 ถึง 1,000 เมตร และยังทำให้เกิดภาพของเหลวสีส้มที่แผ่ราบไปตามพื้นดิน นี่ถือเป็นการปะทุครั้งที่ 12 นับตั้งแต่ปี 2021 ที่ระบบธรณีวิทยาคาบสมุทรเรคยาเนสระบุว่าภูเขาไฟพื้นที่แห่งนี้จะกลับมาปะทุอีกครั้ง

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของไอซ์แลนด์แถลงการณ์ว่าปรากฏการณ์นี้ไม่ได้คุกคามหรือส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานใดๆ และจากการวัดด้วย GPS และสัญญาณการเสียรูป ถือว่าการปะทุครั้งนี้ค่อนข้างเล็ก อย่างไรก็ตาม ได้มีการอพยพประชาชนและนักท่องเที่ยวก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากภูเขาไฟแห่งนี้อยู่ระหว่างหมู่บ้านชาวประมงกรินดาวิกและบลูลากูนที่มีสปาน้ำพุร้อน

New York

พายุฝนกระหน่ำนิวยอร์กทำให้น้ำทะลักเข้ารถไฟใต้ดิน

ผู้โดยสารต้องปีนขึ้นที่นั่งบนรถไฟ ทันทีที่เห็นภาพน้ำกำลังทะลักเข้าสถานีรถไฟใต้ดินและเริ่มซึมเข้ามาในขบวนรถไฟเพิ่มมากขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องประกาศบนรถไฟว่าไม่สามารถเปิดประตูรถไฟได้

น้ำเหล่านี้เป็นผลมาจากพายุโหมกระหน่ำนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บ้านเรือนจำนวนมากอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำ การเดินทางเป็นไปด้วยความลำบาก ทั้งขนส่งสาธารณะและรถยนต์ส่วนตัว มีผู้เสียชีวิตบนรถในช่วงพายุแล้ว 2 คน

ส่วนสถานีรถไฟใต้ดินของนิวยอร์กต้องปิดให้บริการ 20 สถานี และ 16 สถานีให้บริการล่าช้า เหตุการณ์เหล่านี้บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ ในขณะที่ระบบรถไฟนิวยอร์กมีอายุใช้งานมากว่าศตวรรษ เจ้าหน้าที่ขนส่งสาธารณะกล่าวว่า สำนักงานขนส่งมหานครลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงโครงข่ายตามมาตรการรับมือกับสภาพภูมิอากาศแล้ว แต่การแก้ปัญหาน้ำท่วมรถไฟอาจต้องใช้เวลาหลายปี รวมทั้งต้องร่วมมือกับหน่วยงานหลายด้าน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้ำท่วมเต็มสถานีรถไฟ ผู้โดยสารอย่างแลร์รี โอควนโด วัย 67 ปี ให้สัมภาษณ์กับเดอะนิวยอร์กไทมส์ว่า เมื่อปีที่แล้ว เขาเคยอยู่ในสถานการณ์ที่ทุกคนในสถานีรถไฟ แม้กระทั่งหนู พยายามเอาตัวรอดจากน้ำท่วมสถานีด้วยการปีนขึ้นบันไดสถานีรถไฟ

ทำไมน้ำถึงไหลไปสู่สถานีรถไฟใต้ดิน? ระบบการระบายน้ำบนดินของนิวยอร์กเชื่อมไปสู่ระบบท่อและอุโมงค์ใต้ดิน และมันสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้ประมาณ 1.75 นิ้วต่อชั่วโมง รวมทั้งช่องเปิดทุกช่องในสถานีรถไฟ ตั้งแต่บันไดไปจนถึงช่องลิฟต์ ล้วนเป็นช่องทางให้น้ำฝนไหลเข้า ตามข้อมูลของเคลาส์ เจคอบ นักธรณีฟิสิกส์และศาสตราจารย์กิตติคุณประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ผู้เคยทำงานร่วมกับเมืองในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมรถไฟใต้ดินกล่าวว่า มีตะแกรงเปิด 39,000 อันสำหรับระบายอากาศในสถานีรถไฟใต้ดิน และหลายช่องต้องปิดด้วยมือ ซึ่งเปิดโอกาสให้น้ำไหลเข้ามา การออกแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่แล้ว จึงต้องได้รับการปรับปรุงเพื่อรับมือกับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21

อย่างไรก็ตาม สำนักงานขนส่งมหานคร กล่าวว่า แม้จะมีเหตุการณ์น่าตกใจในวันจันทร์ แต่ระบบยังใช้งานได้ดี ทำให้ทุกอย่างกลับมาดำเนินการตามปกติได้ในเช้าวันอังคาร

นอกจากนี้ พื้นที่อื่นๆ ในนิวยอร์กก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน สวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์กมีปริมาณน้ำฝน 2.64 นิ้ว ทำลายสถิติของปี 1908 ที่มีปริมาณน้ำฝน 1.47 นิ้ว

Italy

Loro Piana แบรนด์แคชเมียร์ภายใต้เครือ LVMH ถูกศาลตรวจสอบการใช้แรงงานผิดกฎหมาย

ลูกจ้างโรงงานจีน ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์แบรนด์โลโร เปียนา แจ้งความว่าถูกทำร้ายร่างกาย เพราะไปทวงค่าจ้าง 10,000 ยูโร ทำให้ต้องรักษาตัวกว่า 45 วัน

ตำรวจหน่วยคุ้มครองแรงงานมิลานจึงได้เข้าจับกุมเจ้าของโรงงานชาวจีน และพบว่ามีแรงงานชาวจีนกว่า 10 คน และมี 5 คนที่เป็นแรงงานอพยพผิดกฎหมาย ถูกบังคับให้ทำงานมากถึง 90 ชั่วโมงตลอด 7 วัน โดยได้รับค่าจ้าง 4 ยูโรต่อชั่วโมง และหลับนอนในที่พักโรงงานที่ผิดกฎหมาย

จึงนำมาสู่การสืบสวนภายใต้ศาลมิลาน พบว่า โรงงานแห่งนี้ผลิตแจ็กเก็ตให้กับแบรนด์แคชเมียร์ โลโร เปียนา โดยรับช่วงงานจ้างเหมาแทนบริษัทอีกสองแห่ง ซึ่งน่าจะเป็นเพียงบริษัทบังหน้าในเอกสารจ้าง

เจ้าของบริษัทรับเหมาช่วงถูกสอบสวนในข้อหาเอาเปรียบแรงงานและจ้างงานบุคคลภายนอกแล้ว ศาลจึงมุ่งหน้าสอบสวนแบรนด์โลโร เปียนาต่อไป โดยใช้เวลา 1 ปีในการตรวจสอบ

ในแถลงการณ์ โลโร เปียนา กล่าวหาว่าซัพพลายเออร์รายหนึ่งรับช่วงงานโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ถือเป็นการละเมิดข้อผูกพันทางกฎหมายและสัญญา และระบุว่าได้ยุติการทำงานกับซัพพลายเออร์รายดังกล่าวทันทีที่ทราบเรื่องนี้ในเดือนพฤษภาคม

“เราได้ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและจะเสริมสร้างกิจกรรมการควบคุมและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพและจริยธรรมของบริษัทตลอดห่วงโซ่อุปทาน” บริษัทระบุในแถลงการณ์

LVMH ได้เข้าถือหุ้นแบรนด์ โลโร เปียนา จำนวน 80% ในปี 2013 และแบ่งหุ้นให้ตระกูลผู้ก่อตั้งจำนวน 20% เฟรเดอริก อาร์โนลด์ บุตรชายของเบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LVMH เข้ารับตำแหน่งประธานบริหาร โลโร เปียนา ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้แบรนด์ลักชัวรีที่ถูกตรวจสอบการจ้างแรงงานผิดกฎหมายประกอบด้วย วาเลนติโน, ดิออร์, อาร์มานิ (Armani), และแบรนด์กระเป๋าสัญชาติอิตาลีอย่าง Alviero Martini และจากการสืบสวนที่ผ่านมา ศาลระบุว่า การจ้างเหมารับช่วงกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดต้นทุนแรงงาน มุ่งหวังเพิ่มผลกำไรสูงสุดด้วยต้นทุนการผลิตต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ บริษัทจึงต้องรับผิดทางอาญาและทางแพ่งเกี่ยวกับความปลอดภัยของคนงาน

ตามรายงานของศาล เจ้าของบริษัทตัวกลางแห่งหนึ่งระบุว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอผลิตเสื้อแจ็กเก็ตประมาณ 6,000-7,000 ตัวต่อปีให้กับ โลโร เปียนา ในราคาตกลงกันไว้คือ หากสั่งซื้อมากกว่า 100 ตัวจะอยู่ในราคาตัวละ 118 ยูโร หากสั่งซื้อน้อยกว่านั้นจะอยู่ที่ตัวละ 128 ยูโร ในขณะที่แบรนด์นำมาขายหน้าร้านราคา 3,000-5,000 ยูโร

“ตัวเลขต้นทุนที่รายงานไม่ได้สะท้อนถึงจำนวนเงินที่โลโร เปียนาจ่ายให้กับซัพพลายเออร์ และไม่ได้พิจารณามูลค่าเต็มขององค์ประกอบทั้งหมด รวมถึงวัตถุดิบและผ้า” บริษัทโต้แย้ง

ในเดือนพฤษภาคม แบรนด์แฟชั่นหลายแห่งได้ร่วมลงนามข้อตกลงไม่เอารัดเอาเปรียบแรงงานกับหน่วยงานด้านกฎหมายในอิตาลี แต่ผลการสอบสวนของศาลในกรณีโลโร เปียนา ตอกย้ำว่าอุตสาหกรรมนี้ยังมีปัญหาที่ต้องแก้ไข

Sweden

บอดี้การ์ดเปิดเผยตำแหน่งของผู้นำสวีเดนโดยไม่ตั้งใจ เพราะบันทึกการออกกำลังกายในแอป Strava

หนังสือพิมพ์ Dagens Nyheter ได้ติดตามการออกกำลังกายมากกว่า 1,400 ครั้งของบอดี้การ์ด 7 คน ที่ดูแลราชวงศ์สวีเดนและนายกรัฐมนตรีสวีเดน เนื่องจากบอดี้การ์ดได้บันทึกเส้นทางการออกกำลังกายใน Strava แอปพลิเคชั่นออกกำลังกายที่เปิดให้ผู้ใช้งานบันทึกเส้นทางการวิ่งได้ ตำรวจความมั่นคงบางส่วนยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับบางคน แม้บางส่วนปฏิเสธยืนยันข้อมูลดังกล่าว

การบันทึกออกกำลังกายของบอดี้การ์ดแสดงให้เห็นที่พักของผู้นำ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนตัว เช่น พบข้อมูลบอดี้การ์ดวิ่งรอบรีสอร์ทหรูในหมู่เกาะมหาสมุทรอินเดีย ประเทศเซเชลส์ ซึ่งเป็นช่วงที่สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวียเสด็จพระราชดำเนินไปพักผ่อนในเดือนมีนาคม ปี 2023

ยังมีเส้นทางที่บอดี้การ์ดเผลอเปิดเผยวิธีการผ่านพระราชวังดรอตต์นิงโฮล์ม ที่ประทับถาวรนอกกรุงสตอกโฮล์มของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และสมเด็จพระราชินีซิลเวีย ราชสำนักสวีเดนระบุในอีเมลสอบถามข้อมูลของเดอะนิวยอร์กไทมส์ว่าจะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย

รวมถึงสถานที่นัดพบอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำ เช่น การประชุมระดับสูงระหว่างอุล์ฟ คริสเตอช็อน นายกรัฐมนตรีสวีเดน และผู้นำของนอร์เวย์และฟินแลนด์ ที่ประเทศนอร์เวย์เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สำนักนายกรัฐมนตรีไม่แสดงความคิดเห็นและยืนยันเกี่ยวกับประเด็นด้านความปลอดภัยดังกล่าว ส่วนตำรวจรักษาความปลอดภัยของสวีเดนกล่าวว่ากำลังสอบสวนผลกระทบของข้อมูลที่เผยแพร่

นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางวิ่งริมชายหาดในเมืองเทล อาวีฟของบอดี้การ์ดคนหนึ่ง ซึ่งตรงกับที่จิมมี อเคลสัน หัวหน้าพรรคฝ่ายขวาจัดของสวีเดนได้เยือนอิสราเอลโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า

ก่อนหน้านี้ Strava กลายเป็นแอปพลิเคชั่นด้านการออกกำลังกายที่สร้างความกังวลให้ฝ่ายความมั่นคงหลายประเทศ ในปี 2018 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามใช้ Strava ในเขตสู้รบ หลังจากนักวิเคราะห์พบว่าข้อมูลของแอปเปิดเผยตำแหน่งและความเคลื่อนไหวของทหารในซีเรียและอัฟกานิสถานโดยไม่ได้ตั้งใจ ในปี 2023 ตามรายงานของ CNN ผู้บัญชาการเรือดำน้ำชาวรัสเซียที่แชร์ข้อมูลการออกกำลังกายบน Strava เสียชีวิตขณะกำลังวิ่ง

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ Le Monde ในฝรั่งเศสยังได้เผยแพร่บทความข่าวสืบสวนว่าแอปฯ Strava สามารถใช้ติดตามผู้นำโลกได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน หรืออดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน รวมทั้งตำแหน่งของเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส และปฏิบัติการของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล

ทางแอปฯ Strava ออกมาชี้แจงว่า นี่ไม่ใช่ข้อมูลรั่วไหลที่มาจากความผิดของแอปฯ พวกเขามีระบบปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่ผู้ใช้สามารถกำหนดความเป็นส่วนตัวของตนเองบนแอปได้

“เราคาดหวังว่าผู้ใช้ Strava ที่ทำงานในด้านอาชีพที่ละเอียดอ่อนจะใช้ประโยชน์จากการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวที่มีให้” โฆษกแอปฯ Strava แถลงผ่านอีเมลถึงเดอะนิวยอร์กไทมส์

Belgium

ไฟไหม้เวทีหลักในเทศกาลดนตรี Tomorrowland

เวทีหลักของเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ Tomorrowland เป็นไฮไลต์ของงาน เพราะได้รับการออกแบบอย่างประณีต อลังการ และประกอบด้วยพลุไฟ โดยธีมปีนี้คือ Orbyz จักรวาลมหัศจรรย์ที่มาจากน้ำแข็ง

แต่ในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดเหตุไฟไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ ทำลายเวทีหลักเสียหายอย่างมาก แม้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะสามารถควบคุมไฟได้ภายใน 3 ชั่วโมง แต่พวกเขาก็ต้องอยู่เฝ้าทำงานทั้งคืน

“เวทีหลักของงาน Tomorrowland Belgium 2025 ซึ่งเกิดจากความหลงใหล จินตนาการ และความทุ่มเทอย่างแท้จริง ไม่มีอีกต่อไปแล้ว เราไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของเราออกมาเป็นคำพูดได้” ทีมงานระบุข้อความดังกล่าวบนเว็บไซต์

“นี่ไม่ใช่แค่เวที แต่มันคือโลกที่มีชีวิตชีวาและหายใจได้ ตั้งแต่ภาพร่างแรกบนหน้ากระดาษเปล่า ไปจนถึงเวลาอันยาวนานนับไม่ถ้วนของการออกแบบเชิงแนวคิด การทำงานร่วมกันทางศิลปะ วิศวกรรมศาสตร์ การประดิษฐ์ และการสร้างสรรค์ ทุกชิ้นส่วนของ Orbyz ล้วนมีจิตวิญญาณของเราอยู่”

ทีมงานระบุว่า ส่วนอื่นๆ ไม่ได้รับความเสียหาย และเทศกาลจะเริ่มจัดในวันศุกร์ตามกำหนดเวลาเดิมต่อไป

แฟนๆ ส่วนใหญ่เสียดายบรรยากาศของเวทีหลัก แต่บางส่วนมองว่า ถ้าเกิดเพลิงไหม้ในวันงาน อาจจะสร้างความเสียหายมากกว่านี้

Taiwan

ชาวไต้หวันหยุดงานทั้งเมืองเพื่อซ้อมหลบภัยประจำปี

ไต้หวันเป็นประเทศที่ต้องเผชิญทั้งภัยธรรมชาติและภัยความมั่นคงทางการเมืองจากข้อพิพาทกับจีน รัฐบาลจึงมีมาตรการซ้อมหลบภัยทุกปี จัดขึ้นตลอดหนึ่งสัปดาห์ โดยมีการแบ่งช่วงเวลาการฝึกซ้อมในแต่ละวัน ประชาชนทุกคนต้องเข้าร่วม หากใครฝ่าฝืนจะถูกปรับเงิน สัญญาณการฝึกซ้อมจะเริ่มต้นเมื่อเสียงไซเรนเตือนภัยทั่วเมือง ประชาชนต้องเข้าหลุมหลบภัย หากใครขับรถอยู่ต้องจอดรถ และหลบเข้าที่ปลอดภัย ทหารจะออกมาตระเวนทั่วพื้นที่ หน่วยแพทย์จะเข้ามาทำงานในการจำลองผู้บาดเจ็บ และยังมีการจำลองขีปนาวุธหรือระเบิดอาคาร

การฝึกซ้อมครั้งนี้ยังจริงจังมากขึ้นด้วยการจัดซ้อมคู่กับ ‘ฮั่นกวง’ หรือการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ที่ไต้หวันดำเนินการอย่างเข้มข้นมากขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทั้งยังเพิ่มกองกำลังทหารประมาณ 50% มีการฝึกซ้อมป้องกันเกาะไต้หวันทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ มีการทดสอบยุทโธปกรณ์ทางทหารที่เพิ่งได้รับมาใหม่จากสหรัฐฯ เช่น ระบบขีปนาวุธเคลื่อนที่ Himars และจรวดที่ผลิตในไต้หวัน และยังมุ่งเน้นการซ้อมรบไปที่การต่อสู้กับสงครามเกรย์โซนและข้อมูลที่บิดเบือนจากจีน รวมถึงการฝึกซ้อมการป้องกันทางทหารในเมือง เช่น กองทหารซ้อมเติมเชื้อเพลงและติดอาวุธใหม่ให้กับเฮลิคอปเตอร์ Black Hawk และ Apache ในสวนสาธารณะริมแม่น้ำในเขตชานเมืองไทเป เปลี่ยนโรงเรียนมัธยมปลายในเถาหยวนให้เป็นสถานีซ่อมรถถัง และฝึกซ้อมการต้อนกองกำลังข้าศึกกลับไปยังถนนในเมืองไถจง

ในการซ้อมหลบภัยและซ้อมรบประจำปีนี้ ยังมีเรย์มอนด์ กรีน หัวหน้าสถาบันอเมริกันแห่งไต้หวัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นสถานทูตสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วย เนื่องจากไต้หวันโต้วาทะกับจีนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมทั้งหลังจากการเลือกตั้งของไต้หวันที่ได้วิลเลียม ไหล ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ก็ทำให้จีนไม่พอใจมาตลอด เพราะจีนมองว่าเขาคือ ‘ผู้แบ่งแยกดินแดน’ นอกจากนี้ยังมีรายงานจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าสี จิ้นผิงต้องการให้ทหารจีนบุกไต้หวันภายในปี 2027 ชาวไต้หวันบางส่วนไม่คิดว่าจีนจะบุกเข้ามาจริงๆ แต่พวกเขาคิดว่าการซ้อมรบและหลบภัยยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น

“เราหวังว่าการเตรียมพร้อมสำหรับสงครามจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงสงคราม และบรรลุเป้าหมายสันติภาพ” วิลเลียม ไหลกล่าวในช่วงท้ายของการซ้อมหลบภัย “ด้วยการเตรียมพร้อม เราจะมีพลัง”

จากการซ้อมรบคู่กับการซ้อมหลบภัยประจำปีของไต้หวัน ทำให้จีนวิจารณ์ว่าไต้หวันกำลังหลอกลวงตัวเอง และกล่าวว่ารัฐบาลของไหลมีเป้าหมายเพื่อผลักดันวาระการเรียกร้องเอกราช

South Korea

อัยการไม่ฟ้องมินฮีจิน โปรดิวเซอร์วง NEWJEANS เพราะไม่พบความผิด

มิน ฮีจิน อดีตซีอีโอของ ADOR และโปรดิวเซอร์วง NewJeans พ้นผิดจากข้อกล่าวหาละเมิดความไว้วางใจที่ค่ายแม่อย่าง HYBE เคยยื่นฟ้องร้องเมื่อปีที่แล้ว

เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ HYBE กล่าวหาว่ามิน ฮีจินพยายามยึดครอง ADOR ผู้เดียว ในเดือนสิงหาคม ปี 2024 เธอจึงถูกปลดออกจากตำแหน่งซีอีโอค่ายดังกล่าว ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายที่ส่งผลต่อการทำงานของ NewJeans ในเวลาต่อมา ทั้งการฟ้องร้องละเมิดสัญญากับค่าย ADOR และการพิจารณากรณีกลั่นแกล้งในที่ทำงานระหว่าง NewJeans และ HYBE ในสภาเกาหลี

ระหว่างนี้ ตำรวจได้สอบสวนข้อกล่าวหาละเมิดความไว้วางใจระหว่างมิน ฮีจินและค่าย HYBE ตลอด 1 ปี โดยทีมทนายของมิน ฮีจินได้แถลงว่า "ข้อกล่าวหาละเมิดความไว้วางใจที่ HYBE ยื่นฟ้องเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ตำรวจพบว่าไม่มีมูลเหตุเพียงพอที่จะตั้งข้อหาทางอาญา ตำรวจได้สรุปการสอบสวนหลังจากพิจารณาแล้วว่า ไม่มีหลักฐานการกระทำผิด"

HYBE กล่าวว่าจะยื่นคำคัดค้านต่ออัยการทันที โดยแถลงว่า “หลังจากการสืบสวนของตำรวจ มีความคืบหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้น รวมถึงคำประกาศยกเลิกสัญญาของสมาชิก NewJeans และมีการยื่นหลักฐานใหม่จำนวนมากในกระบวนการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้อง” พวกเขาจะนำหลักฐานเหล่านี้ประกอบการยื่นฟ้องมิน ฮีจินอีกครั้ง

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ชอง คยองซอก ทนายความจาก LIWU Law Group ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Korea Times ว่า การตัดสินว่ามิน ฮีจินชนะคดีในครั้งนี้อาจจะเร็วไป เพราะในขั้นการสืบสวนของตำรวจอาจจะไม่ยื่นเรื่องอัยการ แต่หาก HYBE อุทธรณ์กับอัยการ คดีนี้ก็จะถูกพิจารณาโดยอัยการแทน และกฎหมายเรื่องละเมิดความไว้วางใจเป็นคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง

Hong Kong

ทางการฮ่องกงสอบสวนนักศึกษาชายนำรูปเพื่อนและอาจารย์กว่า 700 ภาพให้ AI ทำภาพโป๊

นักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของฮ่องกงแจ้งกับทางมหาวิทยาลัยว่า พวกเขาตรวจพบภาพโป๊ที่มีใบหน้านักศึกษาและอาจารย์หลายคนในแล็ปท็อปของนักศึกษาชาย คณะนิติศาสตร์ โดยภาพเหล่านี้เกิดจากการนำภาพถ่ายของพวกเธอจำนวนกว่า 700 ภาพไปให้ AI ทำภาพอนาจาร

การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มหาวิทยาลัยจึงเรียกนักศึกษาหญิงเข้าสอบถามข้อมูลในเดือนมีนาคม จนกระทั่งเดือนเมษายนมหาวิทยาลัยแจ้งว่า นักศึกษาชายเขียนได้จดหมายขอโทษ 60 คำ และมหาวิทยาลัยได้ปรับชั้นเรียนของพวกเขา แต่เหยื่อกล่าวว่า การเพิกเฉยของมหาวิทยาลัยทำให้บางครั้งพวกเขายังได้มาเจอในห้องเรียนเดียวกันอยู่

มหาวิทยาลัยกล่าวในแถลงการณ์ว่า "ทางมหาวิทยาลัยได้ออกจดหมายเตือนและเรียกร้องให้นักศึกษาชายขอโทษอย่างเป็นทางการต่อเพื่อนร่วมรุ่นที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว"

นักศึกษาเริ่มไม่พอใจการจัดการปัญหาของมหาวิทยาลัยเป็นวงกว้าง นักศึกษาหญิงที่ตกเป็นเหยื่อจึงเรียกร้องไปยังสำนักงานกรรมาธิการความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของฮ่องกงเพื่อให้เกิดการดำเนินคดี

จอห์น ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของเมืองออกมาจี้ว่ามหาวิทยาลัยมีความรับผิดชอบในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของนักศึกษา จึงควรจัดการกับการประพฤติมิชอบของนักศึกษาอย่างจริงจัง ส่วนสำนักงานกรรมาธิการความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของฮ่องกงก็ได้ประกาศว่าจะสอบสวนนักศึกษาชายคนดังกล่าว

มหาวิทยาลัยได้ชี้แจงผ่าน South China Morning Post ว่า “ขณะนี้มหาวิทยาลัยกำลังพิจารณาคดีนี้เพิ่มเติม และจะดำเนินการเพิ่มเติมเมื่อเหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่ามีสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและเคารพซึ่งกันและกัน”

China

ร้านอาหารในจีนถูกวิจารณ์จัดเซ็ตดื่มชาพร้อมกอดลูกสิงโต

ร้านอาหาร Wanhui ในมณฑลชานซีเปิดบริการเซ็ตน้ำชาราคา 1,078 หยวนพร้อมกอดลูกสิงโตที่ร้านเลี้ยงเอาไว้ ทำให้ชาวจีนจำนวนมากต่างโพสต์รูปอวดใน Weibo และ WeChat นำมาสู่เสียงวิจารณ์ของผู้ที่เห็นภาพดังกล่าว

ร้าน Wanhui ขายตั๋วสำหรับเข้าชมลูกสิงโต 20 ใบต่อวัน ร้านอาหารแห่งนี้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่ามีลูกสิงโตอยู่ในร้านจริงๆ และได้รับการดูแลอย่างดีจากผู้ดูแลที่เชี่ยวชาญ โดยภายในร้านยังมีสัตว์ป่าอื่นๆ เช่น ลามะ เต่า และกวาง ทำให้ร้านถูกวิจารณ์ว่า กำลังทรมานสัตว์

เจสัน เบเกอร์ รองประธานอาวุโสขององค์กรปกป้องสัตว์อย่าง PETA ระบุว่า การพรากลูกสิงโตออกจากแม่เพื่อให้บริการคู่น้ำชาเป็นการมองสัตว์เป็นของเล่น สัตว์กลายเป็นเพียงพร็อพสำหรับโซเชียลมีเดียของคน ทั้งยังเสี่ยงต่อความปลอดภัยลูกค้าด้วย

ปีเตอร์ หลี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายจีนขององค์กร Humane World for Animals กล่าวว่า “แม้แต่ลูกสิงโตก็ยังอาจทำร้ายและทำร้ายมนุษย์ได้ ดังนั้นการปฏิบัติต่อสัตว์ป่าเสมือนเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากจึงเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ทางศีลธรรมและขาดความรับผิดชอบอย่างร้ายแรง”

ก่อนหน้านี้ โรงแรมแห่งหนึ่งในจีนก็ถูกสอบสวนจากเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อพวกเขามีบริการให้แพนด้าแดงขึ้นไปปลุกแขกในตอนเช้า

อ้างอิง: bbc.com, reuters.com, nytimes.com, nytimes.com, nytimes.com, reuters.com, nytimes.com, nytimes.com, bbc.com, koreatimes.co.kr, nbcnews.com