โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ตั้งวอร์รูม กอปภ.กลาง ติดตามประเมินสถานการณ์อุทกภัยอิทธิพลพายุวิภา

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม รวมถึงการเตรียมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบบเชิงรุก ที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุวิภา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อวางแผนรับมือและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึง สามารถลดผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 19 - 24 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จากอิทธิพลพายุวิภา ซึ่งเคลื่อนตัวพาดผ่านแนวร่องมรสุมที่พัดผ่านภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคกลางด้านตะวันตก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่

รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยที่อาจจะเกิดขึ้น จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจจะเกิดขึ้นและให้การดูแลพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบ วันนี้ จึงได้ประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ขึ้น เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่ม

รวมถึงการเตรียมการให้ความช่วยเหลือประสบภัยแบบเชิงรุก ตลอดจนประสานการปฎิบัติในการดำเนินงานเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในห้วงสัปดาห์นี้ให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และลดผลกระทบจากสถานการณ์ภัยที่อาจจะเกิดขึ้นต่อประชาชนให้มีน้อยที่สุด

นายภาสกร กล่าวว่า จากการติดตามเฝ้าระวัง ประเมินสถานการณ์ และแจ้งเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการคาดการณ์ของหน่วยด้านพยากรณ์และด้านการแจ้งเตือนภัย ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรธรณี และกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งมีปัจจัยในการบ่งชี้ว่าจะมีพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุวิภา

ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ AIS True และ NT ส่งข้อความแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast ควบคู่กับการส่งข้อความสั้น (SMS) ในลักษณะ Infomation Alert ดังนี้

“เตือน!พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขา ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่ม ขอให้ผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ยกของขึ้นที่สูงเตรียมอพยพหากจำเป็น เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปที่ปลอดภัย โดยพายุวิภามีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ในวันที่ 22 ก.ค. 68 และจะอ่อนกำลังลง อิทธิพลพายุทำให้ฝนตกหนักและมีลมแรงในวันที่ 22 - 24 ก.ค. 68 พื้นที่ น่าน พะเยา เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร หนองบัวลำภู เลย อุดรธานี กาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี จันทบุรี ตราด ให้ติดตามข่าวสารราชการอย่างใกล้ชิด“

นายภาสกร กล่าวต่อว่า ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพยากรณ์ แจ้งเตือน และคาดการณ์สถานการณ์ เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนไปยังประชาชนให้ทราบล่วงหน้าทันท่วงที ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้เตรียมพร้อมทีมเผชิญเหตุและเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมปฏิบัติงาน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงฝนตกหนักวันที่ 22-23 กรกฎาคม 2568 อาทิ รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัยพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสูบส่งระยะไกล รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย เรือพร้อมเครื่องยนต์ เรือท้องแบน ซึ่งขณะนี้ได้กระจายเครื่องจักรกลเข้าประจำพื้นที่จุดเสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นการล่วงหน้าแล้ว

พร้อมทั้งได้สั่งการให้ศูนย์ ปภ. เขต 2 สุพรรณบุรี และศูนย์ ปภ. เขต 16 ชัยนาท สนับสนุนทีมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ โดยมีศูนย์ ปภ.เขต 9 พิษณุโลก เป็นจุดระดมทรัพยากรเครื่องจักรกลสาธารณภัย (staging area) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จากนอกจากนี้ ในวันนี้ ปภ. ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) ส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำอากาศยานและทีมช่างประจำอากาศยาน หรือ “The Guardian Team” ไปประจำการที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมพร้อม (standby)

สำหรับการออกปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เข้าถึงยาก สำหรับการดูแลด้านการดำรงชีพเบื้องต้น ปภ. ได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเตรียมความพร้อมไว้แล้ว และในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค. 68 ผมและทีมงาน ปภ. ที่เกี่ยวข้อง จะลงพื้นที่ภาคเหนือเพื่อติดตามและสถานการณ์ พร้อมประสานการปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้เป็นไปอย่างครอบคลุม ทั่วถึง และเป็นธรรม”

นายภาสกร กล่าวต่อว่า กรมป้องกันและบรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้เน้นย้ำแนวทางการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนกลาง จังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น และท้องที่ เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น โดยแยกเป็น พื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย ให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามแผนเผชิญเหตุให้ครอบคลุมทุกมิติ รวดเร็ว และทั่วถึง โดยเฉพาะด้านการดำรงชีพ การดูแลความปลอดภัยและสภาพจิตใจของผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ซ่อมแซมบ้าน เรือนประชาชนและเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว ส่วนพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุวิภา ให้กำชับหน่วยงานในพื้นที่ในระดับท้องถิ่นและท้องที่ ติดตามสถานการณ์และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ในพื้นที่ที่อาจส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย รวมถึงข้อมูลข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐตามช่องทางต่างๆ อย่างใกล้ชิด

พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์และแนวทางการปฏิบัติอย่างปลอดภัยและเตรียมความพร้อมหากจำเป็นต้องมีการอพยพออกจากพื้นที่ หากได้รับการแจ้งเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานภาครัฐอย่างเคร่งครัด โดยให้พิจารณาอพยพกลุ่มเปราะบางเป็นอันดับแรก รวมถึงจัดพื้นที่รองรับการอพยพ/ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่มีมาตรฐานในการรองรับการอพยพของประชาชนและเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ประสบภัยทุกมิติอย่างเพียงพอ ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้นในพื้นที่ให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ โดยเร่งระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน จัดชุดปฏิบัติการเร่งคลี่คลายสถานการณ์และเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยจนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ โดยให้ความสำคัญกับการรักษาชีวิตของประชาชนและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเป็นลำดับแรก

สำหรับการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้ตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะพื้นที่ที่เกิดน้ำท่วมบ่อยครั้งหรือพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และกำหนดจุดเพื่อให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำไว้ในพื้นที่เสี่ยงเป็นการล่วงหน้า เพื่อให้พร้อมเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที สำรวจสิ่งก่อสร้าง วัสดุกีดขวางทางน้ำที่ทำให้เกิดอุทกภัย และดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำในพื้นที่ และเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ให้กำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประสานหน่วยงานต่างๆ สำรวจความเสียหายและจัดทำบัญชีความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน ทั้งด้านการดำรงชีพ ด้านการเกษตร ด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยให้ดำเนินการด้วยความละเอียดและรอบคอบ เพื่อป้องกันการตกสำรวจหรือการไม่ได้รับสิทธิการให้ความช่วยเหลือที่เป็นธรรม พร้อมเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร่งรัดดำเนินการจ่ายช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยโดยเร็ว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

แจ้ง 57 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันจากอิทธิพลพายุวิภา

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กระทรวงการต่างประเทศ แถลงการณ์ประณามวางทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กัมพูชา ครองแชมป์อันดับ 1 ประเทศที่มีอาชญากรรมสูงสุดอาเซียน ปี 68

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รัสเซีย แจ้งเตือนภัย ‘สึนามิ’ หลังเหตุเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.4 แมกนิจูด

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่นๆ

เปิด 10 โรงเรียน เข้ายากที่สุดในไทย เช็กที่ไหนคว้าอันดับ 1 ปี 2025

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

ลุงวัย 61 โดนดูดเข้าเครื่องตรวจ MRI ต่อหน้าภรรยา ก่อนเสียชีวิตสลด

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์
วิดีโอ

ดราม่ามรดก! โฉนด 217 แปลงเดือด อดีตรอง ผบ.ตร. ฟ้องอดีตเมียยักยอกทรัพย์

BRIGHTTV.CO.TH

ศทช.แถลงประณาม กัมพูชา จี้หยุดขัดขวางทหารไทย เก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน

Khaosod

ย้อนเส้นทาง ‘ยีนส์’ จากของต้องห้าม สู่แฟชั่นกระแสหลัก

TNN ช่อง16

อัปเดตเส้นทางพายุ "วิภา" 3 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน เตรียมอพยพหากจำเป็น

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

หมองูคนดังในหมู่บ้าน โดนงูเห่าฉก ลูก 2 คนกำพร้าทั้งพ่อ-แม่

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

สิ้นใจไปอีกคน คู่กรณีพ่อค้ากางเกงยีนมือสอง หลังถูกยิงอาการโคม่า ดับสลดรวม 2 ศพ

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...