จีนโชว์รถไฟความเร็วสูงวิ่งได้ 400 กม./ชม. พร้อมต้นแบบรถไฟแม็กเลฟ 600 กม./ชม.
นายหวัง ลี่ซิน รองผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มบริษัท China State Railway Group ระบุว่า รถไฟความเร็วสูง รุ่น CR450AF/BF ที่เปิดตัวในงานนี้ประกอบด้วยตู้โดยสาร 8 คัน ถูกออกแบบให้มีแรงต้านอากาศลดลง 22% ประสิทธิภาพแรงขับเคลื่อนดีขึ้น 4% น้ำหนักโดยรวมเบาลง 10% และใช้พลังงานน้อยลง 20% เมื่อเทียบกับรถไฟความเร็วสูงรุ่นล่าสุดที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน
แม้ยังไม่มีกำหนดเวลาชัดเจนในการให้บริการเชิงพาณิชย์ของรุ่นใหม่นี้ แต่หวังยืนยันว่าจีนยังเดินหน้าขยายศักยภาพระบบรางความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงของจีนครอบคลุมระยะทางกว่า 48,000 กิโลเมตร คิดเป็นกว่า 70% ของเส้นทางรถไฟความเร็วสูงทั่วโลก และเชื่อมต่อกับเมืองที่มีประชากรตั้งแต่ 500,000 คนขึ้นไปได้แล้วกว่า 97% ของประเทศ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะขยายถึง 50,000 กิโลเมตร และแตะ 70,000 กิโลเมตรภายในปี 2578
รายงานจากการประชุม World High-Speed Rail Congress ซึ่งจัดขึ้นในกรุงปักกิ่งระบุว่า จีนมีระบบรถไฟความเร็วสูงที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วปัจจุบันอยู่ที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ครอบคลุมเส้นทางรวมกว่า 8,100 กิโลเมตร โดยรถไฟตระกูล Fuxing ได้รับการออกแบบมาให้รองรับสภาพการเดินรถที่หลากหลาย และยังเป็นเจ้าของสถิติโลกในการเดินรถเชิงพาณิชย์ที่ความเร็ว 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนเส้นทางความเร็วสูงถึง 17 สาย
นายหวัง ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากทุ่มเทวิจัยและพัฒนารถไฟความเร็วสูง ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี จีนสามารถพัฒนา “ระบบนิเวศทางรางความเร็วสูงแบบครบวงจร” ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน ตัวรถ ระบบควบคุม แรงขับเคลื่อน ระบบบริหารจัดการ และมาตรฐานความปลอดภัยที่ผลิตเองภายในประเทศได้ทั้งหมด
ขณะเดียวกัน จีนยังเดินหน้าขยายความร่วมมือกับต่างประเทศผ่านโครงการ Belt and Road Initiative โดยหนึ่งในความร่วมมือที่เห็นผลชัดคือเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกรุงเบลเกรดของเซอร์เบียกับกรุงบูดาเปสต์ของฮังการี ซึ่งจีนมีบทบาทหลักในการก่อสร้าง เส้นทางดังกล่าวเปิดใช้งานมาแล้วกว่า 3 ปี และมีผู้โดยสารใช้งานรวมกว่า 11 ล้านคนในอินโดนีเซีย จีนยังให้การสนับสนุนเทคโนโลยีสำหรับเส้นทางเชื่อมกรุงจาการ์ตากับเมืองบันดุง ซึ่งสามารถลดเวลาการเดินทางจาก 3 ชั่วโมง เหลือเพียง 46 นาที หากใช้ระบบของจีนอย่างเต็มรูปแบบ
การเปิดตัวรถไฟความเร็วสูงรุ่นใหม่และต้นแบบแม็กเลฟในครั้งนี้ สะท้อนถึงเป้าหมายของจีนในการรักษาความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบรางของโลก พร้อมผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศและความร่วมมือระดับนานาชาติ
ที่มา Yicaiglobal