คำถามเรื่อง (อดีต) พระอลงกตเดินสาย "ขอเรี่ยไร-รับบริจาค" ที่สำนักพุทธฯ -มหาเถรฯ ปิดตาข้างเดียว ?
สังคมคุ้นชินกับภาพที่อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อุ้มบาตรไปรับบริจาคตามโรงเรียน บริษัท หรือหน่วยงานราชการ แต่คำถาม คือ เหตุใด ผ่านมากว่า 30 ปีที่พระอลงกตใช้วิธีเรี่ยไรให้ผู้ป่วยเอดส์ เปิดมูลนิธิและกองทุนจำนวนมาก กระทั่งสะสมเงินทุนมากพอ ไปซื้อที่ดินซุกในชื่อคนใกล้ชิด
- พบ "พระอลงกต" หนีทหารจริง แต่คดีหมดอายุความแล้ว
- "หมอบี" อ้างเงิน 3 ล้านที่พบในบ้านเป็นเงินจากผู้มาขอคำปรึกษา
- "พระอลงกต" ยอมสึกแล้ว "บิ๊กเต่า" นำสอบยังไม่ให้ร่วมมือบางประเด็น
หากหน่วยงานรับผิดชอบ ทั้งมหาเถรสมาคม หรือกระทั่งสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ มีการตรวจสอบเข้มงวดแต่แรก ปลายทางของเรื่องราว จะจบแบบสะเทือนหัวใจผู้ศรัทธาเช่นวันนี้หรือไม่ ?
กรณี (อดีต) พระอลงกต สั่นสะเทือนศรัทธาชาวพุทธแน่นอน เพราะอย่างน้อย ๆ หลายคนเคยบริจาค ทั้งการควักเงินสดใส่บาตรพระโดยตรง จนถึงโอนบริจาคผ่านมูลนิธิ เข้าบัญชีกองทุน ตั้งแต่ก่อนได้หักลดหย่อนภาษี จนถึงเป็น E-Donation เต็มรูปแบบ แต่ผู้ศรัทธาไม่มีทางรู้เลยว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่บริจาคไป จะถูกใช้จ่ายถูกวัตถุประสงค์หรือไม่
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เราต่างรับรู้ว่า อดีตพระอลงกต มีคุณูปการทางสังคม ในการดูแลผู้ป่วยเอดส์ในยุคที่สังคมยังไม่เปิดรับทางทัศนคติเท่าทุกวันนี้ เพราะยุคนั้นผู้ช่วยยังไม่มีสิทธิ์เข้าถึงการรักษาเช่นปัจจุบัน เผชิญปัญหาสังคม-ครอบครัวทอดทิ้ง แต่อีกด้านหนึ่ง มีข้อเท็จจริงว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน การกระทำของพระอลงกตหลายกรณี ถูกตั้งคำถามจากกลุ่มขับเคลื่อนสิทธิผู้ป่วยเอดส์ เช่น การสร้างพิพิธภัณฑ์ชีวิต เอาศพผู้ป่วยเอดส์มาแสดงกึ่งประจาน เพราะระบุรูปภาพ ประวัติ อาชีพ ก่อนติดเชื้อ เมื่อถูกเรียกร้องให้นำศพไปฌาปนกิจตามขั้นตอน ก็มาพบทีหลังว่าศพถูกเก็บไว้โดยไม่ทราบวัตถุประสงค์
และจากปากคำของอาสาสมัครในอดีต (ซึ่งอดีตพระอลงกตไม่ชี้แจงเรื่องนี้ในขณะที่ยังมีโอกาส) การสั่งห้ามพยาบาลชาวต่างชาติจ่ายยาต้านไวรัสเอชไอวี และปิดศูนย์จ่ายยาต้านฯ ให้ผู้ป่วยภายในวัดขณะนั้นซึ่งก่อตั้งโดยแพทย์-พยาบาลอาสาสมัคร ในยุคที่ยังไม่มีสิทธิบัตรทอง การหายาต้าน และอาสาสมัครต้องวิ่งหาโควต้า รวมถึง "สมุดนภา" ของโครงการเพื่อนพึ่งพายามยาก เพื่อพาผู้ป่วยไปรับยาต้านอย่างยากลำบากในหลายจังหวัด
จนเกิดคำถามว่า ทางอดีตเจ้าอาวาสยินดีให้ผู้ป่วยอยู่ในสภาพที่ดีขึ้นหรือไม่ หรือต้องการให้ภาพลักษณ์ผู้ป่วย น่าเวทนาสงสารเหมือนเดิมต่อไป เพื่อใช้หาประโยชน์ นำภาพพวกเขาไปใช้ขอเรี่ยไร
แน่นอนว่า ปัญหาที่หลบซ่อนใต้รั้ววัด ไม่ใช่ว่าสื่อไม่เคยขุดคุ้ย มีสื่อมวลชนจำนวนมากเคยพยายามตรวจสอบ แต่เผชิญแรงเสียดทานจากกลุ่มชาวพุทธที่ศรัทธาอดีตพระอลงกต สร้างกำแพงอคติและกล่าวหาว่าเป็นขบวนการล้มล้างศาสนา และจนถึงขั้นมีผู้สื่อข่าวถูกยิงบ้านมาแล้ว
เมื่อสื่อตรวจสอบไม่ได้ ก็ต้องตั้งคำถามกับหนวยงานของรัฐ ซึ่งก็มีปัญหาอีกว่า หลายหน่วยงานเข้าไปสร้างความร่วมมือผลักดันโครงการต่าง ๆ อันมาจากภาพลักษณ์ "เทพเจ้าเอดส์" จนยากที่จะมีใครกล้าตั้งคำถาม การสอบถามเรื่องวัดพระบาทน้ำพุ จากหน่วยงานราชการในจังหวัด จึงมีแต่ด้านบวกเท่านั้น
สุดท้ายแล้ว หนีไม่พ้นที่ "มหาเถรสมาคม" และ "สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ" ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่า ที่ผ่านมา การใช้ภาพลักษณ์ผู้ป่วยเอดส์ไปขอเรี่ยไรเงินบริจาคจากหน่วยงานต่าง ๆ นั้นกระทำอย่างถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ เพราะตั้งแต่ปี 2548 ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ได้รับสิทธิ์เข้าถึงยาต้าน-รักษาฟรี และคุณภาพยาต้านก็ดีพอจะทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้
ส่วนผู้ป่วยยากไร้ที่วัดดูแล ควรมีหน่วยงานสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ รับไปดูแลต่อได้ ฉะนั้นคำถามเรื่องการออกเรี่ยไร ควรมีการตรวจสอบมาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว
เรื่องนี้มีกติกาอย่างชัดเจน คือ คำสั่งมหาเถรสมาคม เรื่อง ควบคุมการเรื่ยไร พ.ศ.2539 ตามมาตรา 15 ตรี แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มีคำสั่งอย่างละเอียด เรื่องห้ามพระเณรเรี่ยไรทั้งทางตรงและทางอ้อม เว้นแต่การบำเพ็ญกุศลหรือมีกิจกรรมในวัด คือ ห้ามเรี่ยไรนอกวัด ให้กระทำในวัดได้เท่านั้น ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไร ทั่วประเทศ ถ้ามีกรณีจำเป็นจะต้องทำการเรี่ยไรนอกบริเวณวัดต้องขอนุญาตตามลำดับขั้น และสั่งให้รายงานยอดรายรับรายจ่าย เงินและทรัพย์สินในการเรี่ยไรเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับ จนถึงคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไร ซึ่งหากฝ่าฝืนคำสั่ง มีโทษทางวินัยจนถึงความผิดทางอาญาด้วย
ที่ผ่านมาเราเห็นแต่จับพระเล็กพระน้อย แต่กรณีพระอลงกตออกเรี่ยไรทุกวัน แต่ละวันติดต่อกันหลายสถานที่ หลายหน่วยงาน จนแทบไม่ได้ทำกิจวัตรของสงฆ์ กลับไม่เคยถูกตรวจสอบว่า ได้ยื่นขออนุญาตอย่างถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ หากยึดตามคำให้สัมภาษณ์ของ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ วันนี้ก็ยอมรับว่า ไม่เคยตรวจสอบ เพราะบอกว่าจะกลับไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
คำถามคือ เรื่องนี้ เหตุใดจึงปิดตาข้างหนึ่งมาโดยตลอด
เรื่อง : ณรรธราวุธ เมืองสุข
บรรณาธิการข่าวสังคม และสถานการณ์ทั่วไป
สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : "จรูญเกียรติ" เผยเงินหมุนเวียนกว่า 1 พันล้าน คดี "อดีตพระอลงกต-หมอบี" ยักยอกทรัพย์
จับแล้ว "พระอลงกต-หมอบี" ยักยอกเงินวัดพระบาทน้ำพุ
"หมอบี" อ้างเงิน 3 ล้านที่พบในบ้านเป็นเงินจากผู้มาขอคำปรึกษา