กสทช.ออกมาตรการควบคุมโดรน ต้องขึ้นทะเบียนก่อนครอบครอง
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 25 สิงหาคม 2568 เวลา 20.54 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 25 ส.ค. – กสทช.ออกมาตรการควบคุมโดรน ต้องขึ้นทะเบียนก่อนครอบครอง ป้องกันการลักลอบนำไปใช้ก่อเหตุ
พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตร.สอท., ปปง., DSI, CIB ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และสมาคมธนาคาร ได้ประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการแนวทางในการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคมฯ โดยมีการพิจารณาเรื่องสำคัญๆ เช่น มาตรการจัดการเรื่องเครื่องวิทยุคมนาคมสำหรับอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ป้องกันศัตรูหรือกลุ่มผู้ไม่หวังดีลักลอบขนโดรนผิดกฎหมายมาขึ้นบินปฏิบัติการในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ พร้อมทั้งหารือแนวทางการดำเนินการกับเครื่องบินบังคับดัดแปลงให้มีคุณลักษณะเดียวกับโดรน
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือปรับปรุงแนวทางในการกำกับการซื้อโดรน โดยห้ามไม่ให้ผู้ขายส่งมอบโดรนแก่ผู้ซื้อในทันที ผู้ซื้อต้องนําใบเสร็จรับเงิน หรือใบสั่งซื้อโดรนไปขอขึ้นทะเบียนกับสํานักงาน กสทช. ให้เรียบร้อยก่อนนําใบรับรองการขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วมารับสินค้าในภายหลัง เนื่องจากปัจจุบันได้เกิดสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และมีการนําโดรนขึ้นบินรบกวนการปฏิบัติงานของกองทัพ รวมทั้งมีการตรวจพบโดรนต้องสงสัยจำนวนมากบินในพื้นชั้นในของประเทศ อาจส่งผลในด้านความปลอดภัย มาตรการดังกล่าวจะทำให้เจ้าหน้าที่ทราบถึงเจ้าของที่แท้จริงของโดรนแต่ละตัว โดยอ้างอิงจากหมายเลขประจำเครื่อง (Serial Number) เป็นการควบคุมโดรนผิดกฎหมาย ควบคู่ไปกับการระดมกวาดล้างจับกุมโดรนที่ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน เพื่อป้องกันศัตรูหรือกลุ่มผู้ไม่หวังดีลักลอบนำโดรนผิดกฏหมายมาขึ้นบินปฏิบัติการในพื้นที่ชั้นใน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังพบว่ามีการนำเครื่องบินบังคับมาดัดแปลง โดยใช้คลื่นความถี่ที่สูงขึ้น เพิ่มระยะการบังคับให้ไกลขึ้น มีการเพิ่มอุปกรณ์ในการถ่ายภาพ ซึ่งหากอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าลักษณะเดียวกับโดรน ก็ต้องนำมาขึ้นทะเบียนกับ กสทช. เช่นกัน หากตรวจพบโดรนหรือเครื่องบินบังคับที่มีคุณลักษณะเดียวกับโดน โดยเฉพาะเรื่องคลื่นความถี่ที่มิได้ขออนุญาตหรือขึ้นทะเบียนกับ กสทช. ผู้ครอบครองจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม 2498 มาตรา 6 มีโทษจำไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.อ.ณัฐธร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากประเด็นเรื่องโดรนดังกล่าวแล้ว คณะอนุกรรมการฯ ยังได้พิจารณาถึง มาตรการควบคุมซิมเติมเงิน (Pre Paid) เนื่องจากที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ใช้งานหลายร้อยราย เติมเงินเข้าไปในซิมเป็นจำนวนมากผิดปกติ จากนั้นในระยะเวลาสั้น ๆ หลังที่มีการเติมเงิน จะทำการขอคืนเงินจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมีการขอคืนเงินมากกว่า 10 ล้านบาท ในแต่ละเครือข่ายมี ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวอาจเป็นเงินผิดกฎหมาย หรือเป็นเงินที่หลอกให้เหยื่อเติมเข้ามา อาจกลายเป็นช่องโหว่ให้กลุ่มมิจฉาชีพใช้ฟอกเงิน หรือโอนเงินผิดกฎหมาย ประเด็นดังกล่าวในที่ประชุมได้หารือแนวทางในการป้องกันและตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ ปปง. โดยหากมีเหตุอันควรสงสัยอาจระงับการคืนเงิน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นการฟอกเงินหรือไม่ นอกจากนี้อาจพิจารณาปรับปรุงกระบวนการคืนเงิน ต้องทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น โดยห้ามคืนเป็นเป็นเงินสด เพื่อให้สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินที่อาจเป็นกระบวนการฟอกเงินของกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพต่อไป.-412- สำนักข่าวไทย