กสทช. เปิดระบบลงทะเบียนซิมการ์ด ทั้งแบบเติมเงิน – รายเดือน
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 20 สิงหาคม 2568 เวลา 15.23 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมททำเนียบ 20 ส.ค.-กสทช. เปิดระบบลงทะเบียนซิมการ์ด ทั้งแบบเติมเงิน – รายเดือน ป้องกันโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล ตั้งแต่ 18 ส.ค. นี้ ทั่วประเทศ
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าจากกรณีเหตุการณ์มิจฉาชีพออนไลน์ ใช้กลอุบายสวมรอยเปิดซิมใหม่เบอร์เดิม และนำเบอร์ไปเบอร์เปิดใช้งานแอปฯ บัตรเครดิต ส่งผลให้ประชาชนเจ้าของเบอร์ดังกล่าว สูญเงินเกือบ 70,000 บาท รัฐบาลโดย สำนักงาน กสทช. ออกมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทันที ด้วยการนำเทคโนโลยี Liveness Detection ตรวจสอบตัวตนแบบเรียลไทม์ในขั้นตอนลงทะเบียนซิมการ์ด เพื่อป้องกันการสวมรอย ลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกง และการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล โดยมาตรการนี้ครอบคลุมผู้ใช้บริการรายใหม่ (ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน) และผู้ใช้เดิมที่เปลี่ยนซิมแต่ใช้หมายเลขเดิม เริ่มใช้งาน 18 สิงหาคม 2568 ทั่วประเทศ
นายอนุกูล กล่าวว่า ผู้ใช้บริการสามารถลงทะเบียนและยืนยันตัวตนด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการค่ายมือถือ ศูนย์บริการ รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าย่อยทั่วประเทศ โดยผู้ให้บริการต้องเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยสูงสุด ตามข้อกำหนดของ กสทช. สำนักงาน กสทช. และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยเอกสารในการลงทะเบียนให้ใช้ฉบับจริงที่ยังไม่หมดอายุ แบ่งตามกลุ่มผู้ใช้บริการ ดังนี้ บุคคลสัญชาติไทย บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย หนังสือเดินทาง (Passport) ฉบับจริง กรณีนิติบุคคล หนังสือรับรองนิติบุคคล และเอกสารแสดงตนของผู้มีอำนาจ
สำหรับเทคโนโลยี Liveness Detection เป็นเทคโนโลยีตรวจสอบว่าผู้ยืนยันตัวตนเป็นบุคคลจริง ไม่ใช่ภาพถ่าย วิดีโอ หรือหน้ากาก 3 มิติ โดยระบบสแกนใบหน้าจะขอให้ผู้ใช้กะพริบตา หรือหยุดนิ่ง คล้ายการยืนยันตัวตนในแอปพลิเคชันธนาคาร ซึ่งต่างจากวิธีเดิมที่เพียงถ่ายรูปก็สามารถลงทะเบียนได้ ทำให้มิจฉาชีพใช้ภาพหรือวิดีโอบุคคลอื่นมาสวมรอย
“รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ยังคงมีความรุนแรงและสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับประชาชนในสังคม มีประชาชนตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมาตรการดังกล่าว จะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ที่ใช้หมายเลขโทรศัพท์เป็นเครื่องมือ ดังนั้น ประชาชนจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ข้างต้น นอกจากตนเองจะปลอดภัยแล้วยังเป็นการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้” นายอนุกูล กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย