“โตเกียว” ครองแชมป์เมืองเหมาะกับการทำงานแบบ Workcation ปี 2568
รายงาน IWG จัดอันดับ “Work from Anywhere Barometer” ยกให้ "โตเกียว" ขึ้นเบอร์หนึ่ง เมืองเหมาะทำงานผสานท่องเที่ยว โดดเด่นอินเทอร์เน็ตเร็ว ขนส่งปลอดภัย วัฒนธรรมหลากหลาย พร้อม Digital Nomad Visa
วันที่ 18 สิงหาคม 2568 เวลา 14.07 น. สำนักข่าว CNBC รายงานว่า นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คว้าอันดับ 1 เมืองที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทำงานแบบ “Workcation” หรือการผสมผสานระหว่างการทำงานและการท่องเที่ยว จากรายงานปี 2568 ของ International Workplace Group (IWG) ผู้ให้บริการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นและไฮบริด
รายงาน “Work from Anywhere Barometer” ครั้งที่ 3 ของ IWG ระบุว่า โตเกียวโดดเด่นด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ระบบขนส่งสาธารณะปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ วัฒนธรรมที่หลากหลาย ตลอดจนการเปิดตัว วีซ่าดิจิทัลโนแมด (Digital Nomad Visa) ล่าสุด อีกทั้งยังใกล้ภูเขา ทะเล และอุทยานแห่งชาติ เหมาะกับผู้ทำงานที่อยากได้ทั้งบรรยากาศเมืองใหญ่และธรรมชาติ
โดยเกณฑ์การจัดอันดับ IWG จัดอันดับเมือง 40 แห่งทั่วโลก โดยให้คะแนน 1–10 ใน 12 ด้าน เช่น สภาพภูมิอากาศ, ที่พักและอาหาร, ระบบขนส่ง, ความเร็วอินเทอร์เน็ต, ดัชนีความสุข, พื้นที่ทำงานยืดหยุ่น, วัฒนธรรม , ความพร้อมและราคา “Digital Nomad Visa” และความใกล้ชิดชายหาด ภูเขา หรืออุทยานแห่งชาติ ขณะที่ปีนี้มีการเพิ่มเกณฑ์ใหม่ 2 ข้อคือ วีซ่าดิจิทัลโนแมด และความใกล้ชิดธรรมชาติ
ทั้งนี้ 10 อันดับเมือง Workcation ปี 2025 ได้แก่
- โตเกียว
- ริโอ เด จาเนโร
- บูดาเปสต์
- โซล
- บาร์เซโลนา
- ปักกิ่ง
- ลิสบอน
- โรม
- ปารีส
- วัลเลตตา (มอลตา)
เมืองใหม่ที่เข้ามาในลิสต์ปีนี้ ได้แก่ โตเกียว โซล โรม ปารีส และวัลเลตตา โดยโซลได้คะแนนสูงจากอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ระบบขนส่งมีประสิทธิภาพ และชุมชนดิจิทัลโนแมดที่เติบโตขึ้นจากนโยบายวีซ่าใหม่ของเกาหลีใต้
ส่วนในภูมิภาคเอเชียยังมีสิงคโปร์ จาการ์ตา มะนิลา มุมไบ และฮ่องกง ติดอันดับเมืองยอดนิยมสำหรับ Workcation โดยสิงคโปร์ได้คะแนนสูงในเรื่องอาหาร ความสุข อินเทอร์เน็ต 5G ครอบคลุมทั่วเกาะ และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกันเม็กซิโกซิตี้ เคปทาวน์ ปราก เมลเบิร์น ออร์แลนโด และเรคยาวิก ติดโผเมืองดาวรุ่งสำหรับ Workcation โดยได้คะแนนสูงในด้านวีซ่าดิจิทัลโนแมดและความใกล้ชิดธรรมชาติ
มาร์ก ดิกสัน ซีอีโอของ IWG กล่าวว่า “แนวโน้ม Work from Anywhere จะยังอยู่ต่อไปในระยะยาว เพราะช่วยสร้างสมดุลชีวิต ลดภาวะหมดไฟ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมีนัยสำคัญ”
อ้างอิง : cnbc.com