“อีทิกส์ เอเวอรี่แวร์”ชี้ดาต้าเซ็นเตอร์ไทย โดดเด่นกว่าอินโดฯ
นายปิแอร์ ปาทริส ซีอีโอ ประจำภูมิภาคเอเชียของ อีทิกส์ เอเวอรี่แวร์ (ETIX Everywhere) ผู้ให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทได้ จัดทำสมุทปกขาว ร่วมกับ ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทชั้นนำ คือ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค, คอมม์สโคป, ดีซี ไบต์และ คุชแมน แอนด์ เวคฟิลด์ เรื่อง “แนวโน้มศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย ปี 2568” พบว่า อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ของไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ขยายกำลังการให้บริการอย่างรวดเร็ว จากการลงทุนจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ที่เพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปสู่โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ช่วยให้ไทย มีบทบาทที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“จากข้อมูลพบว่าประเทศไทยแซงหน้าอินโดนีเซีย ในแง่ของกำลังการให้บริการที่ใช้งานอยู่ โดยมีมากกว่า 150 เมกะวัตต์ และอีกกว่า 500 เมกะวัตต์อยู่ระหว่างการพัฒนา โดยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กำลังกลายเป็นศูนย์กลางด้านการฝึก เอไอ การจัดเก็บข้อมูลชั่วคราว และเป็นที่ตั้งของแคมปัสดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ของบริษัทระดับโลก ขณะที่นักลงทุนได้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษของ บีโอไอ รวมถึงความยืดหยุ่นในการถือครองกรรมสิทธิ์โดยชาวต่างชาติ และการเข้าถึงระบบพลังงานและไฟเบอร์ที่ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า และ ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญ โดยศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ตั้งเป้าค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ต่ำกว่า 1.4 มีการใช้พลังงานหมุนเวียนในพื้นที่ และเริ่มมีการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อใช้ควบคู่กับพลังงานสะอาด”
นายปิแอร์ กล่าวต่อว่า จากปัจจัยดังกล่าว บริษิทจึงได้ เปิดตัวศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่ 2 หรือ “ อีทิกส์บีเคเค#2” ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านยูโร หรือประมาณ 7,900 ล้านบาท บนที่ดินขนาด 27,000 ตารางเมตร มีพื้นที่อาคารกว่า 16,000 ตารางเมตร รองรับงานประมวลผลความหนาแน่นสูง เช่น งานด้าน เอไอ, การประมวลผลกราฟิก และระบบคลาวด์ขนาดใหญ่ โดยศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่พลังงานได้สูงถึง 150 กิโลวัตต์ต่อแร็ค พร้อมระบบระบายความร้อนที่หลากหลาย ทั้งแบบลม แบบของเหลว และแบบแช่ในของเหลว รองรับโครงสร้างพื้นฐานยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย เอไอ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบ ไอที แบบเดิมได้อย่างไร้รอยต่อด้วย