“บิ๊กกุ้ง” เผยทหารแนวหน้าพร้อมสละชีพ ลั่นแม่ทัพไม่เคยกลัวใคร
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 14 สิงหาคม 2568 เวลา 19.47 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท14 ส.ค.- “บิ๊กกุ้ง” ยันเป็นคนดีอยู่ที่ไหนไม่ต้องกลัวขึ้นศาล-ถูกคนด่า ลั่นแม่ทัพไม่เคยกลัวใครในโลกนี้ บอกทหารแนวหน้าพร้อมสละชีพ ไม่ว่าเหตุการณ์จะยุติก็ได้-จะรบต่อก็พร้อม เผย “ในหลวง” องค์จอมทัพไทย ทรงสอบถามสถานการณ์ทุกวัน
วันที่ 14 ส.ค. ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดกิจกรรม “สาธิตเกษตรรวมใจสู่แนวหน้าปลูกต้นกล้าแทนคุณแผ่นดิน” โดยมีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ เรื่องเล่าจากแนวหน้าและการรักษาอธิปไตยของชาติ
โดยพลโทบุญสิน เล่าถึงสถานการณ์ชายแดนในปัจจุบัน ว่า วันนี้ดีใจที่ได้มาเห็นน้องๆ ทำกิจกรรมในวันนี้ ได้ร้องเพลงชาติร่วมกัน ธงชาติอยู่ข้างหลัง 16 ผืน 5 แถบ 3 สี กว่าจะได้แผ่นดินมาบรรพบุรุษเสียชีวิตเลือดเนื้อมากี่คนแล้ว แผ่นดินนี้ที่น้องๆ ได้นั่งอยู่ตรงนี้ เหลือเท่านี้บรรพบุรุษเราทำอะไรไว้บ้างรู้หรือไม่ แต่ก็ภูมิใจ ลุงแม่ทัพได้คุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้ถามว่ามีวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย มีวิชาศีลธรรมหรือไม่ ซึ่งตนจะถามเสมอเมื่อไปพบปะที่โรงเรียนว่าได้สอน 2 วิชานี้หรือไม่ ทั้งนี้มนุษย์ถ้าไม่มีศิลธรรมในจิตใจก็ไม่ค่อยมีค่าสักเท่าไหร่ ไม่มีจิตสำนึกของความรักชาติรักแผ่นดิน ความเสียสละ ประเทศชาติก็วุ่นวายล่มสลาย มีแต่กอบโกยผลประโยชน์เห็นแก่ตัวเห็นแก่พวกพ้อง เห็นเงินเป็นใหญ่ สิ่งเหล่านี้คือลูกหลานทุกคนของโรงเรียนแม่ทัพมั่นใจว่าทุกคนเป็นคนดี เราเป็นคนดีอยู่ที่ไหนไม่ต้องกลัว เพราะเราคิดดี ไม่ต้องกลัวว่าจะขึ้นศาล ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกเขาด่า แม่ทัพไม่เคยกลัวใครในโลกนี้ เพราะเราคิดดีต่อประเทศชาติและต่อแผ่นดิน และพี่น้องประชาชน จะดังจะเด่นขนาดไหนไม่เคยคิดเอาเรื่องนั้นมาหาผลประโยชน์ นี่คือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเป็นคน แม่ทัพมั่นใจว่าครูและอาจารย์สั่งสอนเด็กๆ มาดี
วันแรกที่เกิดเหตุการณ์ในพื้นที่ชายแดน มีพี่น้องเยาวชนคนไทยและเขมรนัดเจอกันที่ปราสาทตาเมือนธม มีเหตุการณ์หลายอย่างทั้งโพนต์เฟสบุ๊ก ด่ากัน นัดไปแสดงออกที่ปราสาทตาเมือนธมทั้งคนเขมรและพี่น้องคนไทย มีการปลุกระดมกันทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ปราสาทตาเมือนธมเปิดให้กัมพูชาได้ขึ้นมาชื่นชมได้ตั้งแต่ 09.00-15.00 น. ทุกวัน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่มามานานแล้วของรัฐบาลในอดีต แม่ทัพไม่มีอำนาจในการปิดถ้าไม่ไม่มีเหตุ ถือเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และประเทศกัมพูชาไม่ยอมรับว่าปราสาทตาเมือนธมนี้เป็นของประเทศไทย เขามองว่าเป็นของประเทศกัมพูชาเช่นเดียวกัน จึงทำให้มีปัญหาเช่นนี้ แต่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่เกิดปัญหา พี่น้องคนไทยกับคนเขมรนัดเจอกัน โดยมีกัน จอมพลัง เป็นแกนนำ ไปเจอกันที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเขมรวัยรุ่นที่ทรงผมหล่อๆ จะไปเจอกันที่ปราสาท
โดยได้ถามเด็กๆ ว่า หาก 2 กลุ่มไปเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น ทำให้เด็กๆ ตอบว่าจะตีกัน แม่ทัพภาคที่ 2 จึงกล่าวส่า ขนาดเด็กๆ ยังคิดได้ แล้วลุงแม่ทัพจะไม่รู้ได้อย่างไร จึงเสนอไปทางกัมพูชาว่าให้ปิดปราสาทก่อน แต่ทางกัมพูชาบอกไม่ให้ปิดแต่หากไทยจะปิดก็ปิด แต่กัมพูชาจะให้ประชาชนขึ้นมาเหมือนเดิม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นไม่ได้เพราะจะทำให้เราเสียเปรียบ ในคืนนั้นแม่ทัพจึงขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชา ในการปิดประสาทตาเมือนธม ก่อนที่ประชาชนกัมพูชาจะขึ้นมา และอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แม่ทัพรับผิดชอบเอง ซึ่งได้ทำการปิดในช่วง 02.00 น. ของวันดังกล่าว และเช้ามาทหารกัมพูชาใช้ปืนอัตโนมัติยิงทหารไทยตลอดแนว จากอุบลราชธานี-บุรีรัมย์ เกือบ 1,000 กิโลเมตร
ทั้งนี้เมื่อปะทะกันแล้ว ลุงแม่ทัพจึงขอแผ่นดินผมคืน มีการยึดคืนเกือบทั้งหมด โดยใช้เวลา 5 วัน 4 คืน ได้มาเท่านั้นถือว่าถือว่าเต็มที่แล้วสำหรับทหารในการทวงพื้นแผ่นดินคืน เช่น ภูมะเขือ ได้ที่ดินคืนประมาณเกือบ 1 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นที่สูง มีทัศนียภาพที่ดี และยังมีหลายพื้นที่ที่เรายืนหยัดในเส้นเขตแดนของเรา ซึ่งการประทะกันเป็นธรรมดาที่ต้องมีการบาดเจ็บ ล้มตายทั้งสองฝ่าย ซึ่ง 15 วีรชนที่ได้มีการสดุดี ถือว่ามีความเหมาะสม เพราะเขามีความกล้าหาญ เป็นตัวแทนของคนไทยทุกคน ถือเป็นคนเสียสละที่หายากในยุคนี้ และเมื่อวานนี้ (13 ส.ค.) ตนได้ไปเยี่ยมทหารที่ประสบเหตุจากการเหยียบทุ่นระเบิด ทหารเราเสียสละ เขายิ้มไม่เสียใจ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และจะมีการจัดหาขาเทียมที่ดีที่สุดให้ โดยตนได้บอกว่าไม่ต้องห่วง หากอยากเป็นทหารต่อก็ได้หรือจะพักผ่อนแล้วให้ญาติมาเป็นทหารต่อก็ได้ กองทัพจะดูแลอย่างดีที่สุด เพราะเขาได้ทำดีที่สุดแล้ว
ส่วนขณะนี้ทหารชายแดนเป็นอย่างไรบ้าง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า พี่ๆ ทหารฝากถามพี่น้องคนไทยว่าสู้หรือไม่ ถ้าพี่น้องคนไทยและลูกหลานเราสู้ ทหารก็สู้เช่นเดียวกัน ซึ่งทหารบอกไม่ต้องห่วง แม้กระทั่งวันแม่แห่งชาติ (12 ส.ค.) “ก็ฝากความคิดถึงมาหาคุณแม่ที่อยู่ด้านหลัง บอกแม่ไม่ต้องห่วง ผมทำหน้าที่อย่างเต็มที่” ขอแค่กำลังใจจากพี่น้องคนไทยทุกคน ซึ่งมีทหารบางคนบาดเจ็บยังไม่หายไข้ แต่ขอลงไปสู่แนวรบใหม่ เนื่องจากเป็นห่วงเพื่อนห้วงพี่ เมื่อถึงเวลาจิตวิญญาณของพระนเรศวรต้องมาอยู่กับเรา ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าทหารไทยจะสู้หรือไม่ เพราะมีความชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อแผ่นดินนี้ที่บรรพบุรุษเรารักษาไว้ เราจะต้องปกป้องใครที่เข้ามาในเขตแดนจะต้องผลักดันออกไป เราไม่ได้ไปรุกรานประเทศอื่น ยืนยันว่าสิ่งที่เราทำคือรบในประเทศเท่านั้น
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน โดยกองงานฯ ได้สอบถามสถานการณ์จากแม่ทัพ และได้รายงานทุกวัน สิ่งเหล่านี้คือจอมทัพไทย และตั้งแต่ประวัติศาสตร์พระมหากษัตริย์ทรงจะเป็นองค์นำกองทัพ และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม ดังนั้นทหารทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อชาติทุกคน และปัจจุบันเรายังอยู่หน้าที่หน้าแนว แม้สถานการณ์จะเป็นอย่างไรเราก็พร้อม ไม่ว่าจะยุตติก็ได้หรือจะรบต่อก็พร้อม
นอกจากนี้แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่าขวัญกำลังใจหารทุกคนยังดี ขอให้ลูกหลาน และน้องๆ บอกคุณพ่อคุณแม่ เมื่อกลับไปบ้าน ว่าลุงแม่ทัพกุ้งและทหาร จิตใจกำลังใจดี และขอให้คุณพ่อคุณแม่เชียร์ด้วยนะครับ“
โดยในช่วงหนึ่ง พล.ท.บุญสิน ตอบคำถาม นักเรียนหากขอพรได้อยากขอสิ่งใดว่า “ลุงแม่ทัพอยากให้ประเทศไทยสงบสุข เจริญรุ่งเรือง ไม่มีสิ่งเดือดร้อนมีความร่มเย็นเป็นสุข ประชาชนไม่ทะเลาะเบาะแว้ง
นอกจากนี้ พล.ท.บุญสิน ตอบคำถามนักเรียน หากไทยถูกรุกรานจะดำเนินการอย่างไร พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า แม่ทัพก็ยัง ทำเหมือนเหมือนที่ทำมาแล้ว แบบที่ทำกับกัมพูชา
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างตอบคำถาม เด็กตะโกน F-16 ทำให้ พล.ท.บุญสิน ถึงกับยิ้มพร้อมตอบว่า F-16 ก็ใช้เหมือนกัน แม่ทัพจะบอกว่านี่คือเขตแผ่นดินไทย เอาแผนที่ให้เขาดู หากล้ำเขตเข้ามาจะว่าอย่างไร เขาก็จะอ้างแผ่นดินเขา หากไม่ถอนกำลังออกไป จะใช้วิธีเบาไปหาหนักผลักดันออกไป
“ทุกพื้นที่หากแม่ทัพยังเป็นแม่ทัพอยู่ รุกล้ำเข้ามา แม่ทัพเข้าตีอย่างเดียว ไม่คุย ผมมีมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญ ผมมาเพื่อสิ่งนี้ เพื่อขับไล่ศัตรูออกจากแผ่นดินใหญ่ให้รวดเร็ว”
นอกจากนี้ พล.ท.บุญสิน ยังตอบคำถามนักเรียนว่าเหนื่อยกับอะไรมากที่สุดว่า ไม่เคยเหนื่อย การทำหน้าที่ เพื่อประเทศชาติเพื่อแผ่นดิน ไม่มีเวลาป่วยไข้ หรือทะเลาะกับคนในประเทศ มีอย่างเดียวไล่ศัตรูออกจากเขตประเทศ หากแม่ทัพไม่เข้มแข็ง จะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นคำว่าเหนื่อยไม่มี พร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน
พล.ท.บุญสิน ฝากถึงเด็กๆเรื่องการเสพสื่อ หากเป็นเรื่องแตกความสามัคคีใส่ร้าย ทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ประชาชน ให้เกิดปัญหา ขอให้คิดก่อนจริงหรือไม่อย่าไปเชื่อง่ายๆ ต้องมีสติหาข้อมูล จากหน่วยงานเกี่ยวข้องได้
และขอให้ยึดมั่น ในห้วงเวลาที่ประเทศชาติเป็นอย่างนี้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป อยากให้คนไทย กลับมาดูผืนธงชาติไทย จำให้ดีว่า สิ่งเหล่านี้จะต้องอยู่กับแผ่นดินไทยชั่วลูกชั่วหลาน เราจะต้องช่วยกันรักษาสีธงชาติให้ครบ
แดง คือ ชาติเสียสละเลือดบรรพบุรุษ รักษาแผ่นดิน
ขาว คือ ศาสนา ยึดถือยึดมั่นในความดี
น้ำเงิน คือ พระมหากษัตริย์ เป็นองค์ที่ก่อบ้านสร้างเมือง ตั้งแต่โบราณเป็นจอมทัพที่นำคนไทยต่อสู้ จนมีแผ่นดินอยู่ทุกวันนี้-313 -สำนักข่าวไทย