วบส.13 สร้างอนาคตให้เด็ก ผ่านพลังงานสะอาด
นายวรเสน ลีวัฒนกิจ ประธานนักศึกษา วบส. รุ่น13 (หลักสูตรวิทยาการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง ) สถาบันบัณฑิตพัฒนศาสตร์ (NIDA) นำคณะนักศึกษา วบส.13 ร่วมคิกออฟโครงการเพื่อสังคม Regenerative Design ฟื้นสร้างพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน และระบบน้ำที่ยั่งยืนให้กับทางโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก
ทั้งนี้ จากการศึกษาสภาพปัญหาของโรงเรียนหมู่บ้านเด็กแห่งนี้ ซึ่งเป็นโรงเรียน ที่รับหน้าที่ดูแลเด็ก ที่พ่อแม่ไม่มีความพร้อมที่จะสามารถเลี้ยงดูได้ ให้มาอยู่ในความดูแลของโรงเรียน โดยพบว่า ในแต่ละปี ทางโรงเรียนมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าและค่าน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค ซึ่งเป็นรายจ่ายหลัก จากรายจ่ายประจำปีประมาณ 10 ล้านบาท หากสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าไฟฟ้าและค่าน้ำลงได้ ทางโรงเรียนก็จะสามารถนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้ประโยชน์ ให้กับเด็กๆในความดูแลของทางโรงเรียนได้มากขึ้น
การเข้ามาฟื้นฟูและปรับปรุง ระบบไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและยั่งยืน จากการสำรวจพบว่า ทางโรงเรียนจำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าตกวันละ 30 กิโลวัตต์ จึงมีการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เพิ่มเติมให้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้เพียงพอต่อความต้องการ 30 กิโลวัตต์ โดยในช่วงกลางวัน สามารถนำไฟฟ้าที่ได้ไปใช้ในส่วนต่างๆของทางโรงเรียนได้อย่างเต็มระบบ ทั้งเรื่องของ การเรียนการสอน การผลิตน้ำ และการจัดกิจกรรมต่างๆภายในโรงเรียน ส่วนในเรื่องของน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคนั้น ปัจจุบัน ทางโรงเรียนหมู่บ้านเด็ก ซึ่งมีสถานที่ตั้ง อยู่ติดกับแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่
ทางวบส.13 จึงได้มีความคิดเห็นร่วมกัน ในการปรับปรุงและซ่อมแซมระบบการผลิตน้ำของโรงเรียนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำไฟฟ้าจากระบบโซล่าเซลล์ มาใช้ในการนำน้ำจากแม่น้ำเข้ามาสู่ระบบบำบัด ซึ่งได้รับการติดตั้งระบบบำบัดแบบใหม่ ที่มีความทันสมัย สามารถผลิตน้ำได้ถึง 800 ลิตรต่อนาที ซึ่งมีความเพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำของโรงเรียน ก่อนจะนำน้ำที่ได้ ไปผ่านระบบการกรอง ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สามารถนำน้ำไปใช้ ทั้งดื่มกินและใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของโรงเรียนหมู่บ้านเด็กได้เป็นจำนวนมาก ทำให้ทางโรงเรียนสามารถนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กๆในโรงเรียนได้มากยิ่งขึ้น
สอดคล้องกับ การดำเนินโครงการตามแนวคิด regenerative Design ที่กิจกรรมทุกด้าน ทุกมิติ จะต้องผ่านการสร้างระบบนิเวศน์แห่งการหล่อเลี้ยงที่ยั่งยืน ควบคู่ไปกับการปลูกฝังคุณค่าของการพึ่งพาตนเอง ความรับผิดชอบต่อสังคม และความเข้าใจในธรรมชาติให้กับเด็กๆ เลือกที่จะสามารถเติบโตไปเป็น ผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคมได้ต่อไปในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง