โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

กรณีฉาว'เจ้าอาวาสเส้าหลิน'เป็นกระจกเงาสะท้อน 'วิญญูชนจอมปลอม' ในวงการสงฆ์ไทย

The Better

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE BETTER

คงจะทราบข่าวกันแล้วว่า 'ซื่อหย่งซิ่น' เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินกำลังถูกสอบจากกรณีคอร์รัปชั่นและกระทำผิดวินัยสงฆ์ ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเลี้ยงสีกาเอาไว้

ในกรณีของ 'ซื่อหย่งซิ่น' นั้นหลังจากการสอบสวน สมาคมพุทธศาสนาแห่งประเทศจีนประกาศเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมว่าจะเพิกถอนใบสุทธิรับรองการเป็นบรรพชิตของซื่อหย่งซิ่น โดยกล่าวหาว่าเขาต้องสงสัยว่ากระทำความผิดทางอาญา รวมถึงการยักยอกเงินทุนโครงการและทรัพย์สินของวัด และมีความสัมพันธ์ระยะยาวที่ผิดกฎหมายกับผู้หญิงหลายคน และมีลูกนอกสมรส ซึ่งเป็นการละเมิดศีลอย่างร้ายแรง การกระทำของเขานั้นร้ายแรง ทำลายชื่อเสียงของชุมชนชาวพุทธและภาพลักษณ์ของพระสงฆ์อย่างร้ายแรง

ฟังๆ ดูแล้วนึกว่าเกิดในเมืองไทย

'ซื่อหย่งซิ่น' คนนี้เส้นหนาดีแท้ เพราะสิบปีก่อนก็มีกรณีฉาวแบบนี้เผยออกมา แต่ก็ยังอยู่ในผ้าเหลืองได้ แถมยังเป็นเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินดังเดิม

ชวนให้คิดว่า พระรูปนี้ควจะมีเส้นสายใหญ่โตไม่น้อย ซึ่งตัวพระรูปนี้ก็เกี่ยวข้องกับ "รัฐ" อยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะเป็นเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ยังเป็นประธานสมาคมพุทธศาสนามณฑลเหอหนาน รองประธานสมาคมพุทธศาสนาจีนในสมัยประชุมที่ 7 ถึง 10 และเป็นรองผู้แทนสภาประชาชนแห่งชาติสมัยประชุมที่ 9 ถึง 12 และสมาชิกสหพันธ์เยาวชนแห่งประเทศจีน

โดยเฉพาะสหพันธ์เยาวชนแห่งประเทศจีนบริหารงานโดยสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 อดีตผู้นำสูงสุดและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน หูจิ่นเทาและเจียงเจ๋อหมิน ต่างก็เป็นสมาชิก

'ซื่อหย่งซิ่น' จึงได้ฉายาว่า 'พระเล่นการเมือง' (政治和尚) ซึ่งเป็นฉายาที่ฟังดูไม่ดีนัก

คราวที่แล้วข้อหาก็คล้ายๆ กันแต่รอดมาได้ (อย่างน่าพิศวง) แต่ว่ากันว่าคราวนี้เหตุ ที่'ซื่อหย่งซิ่น' ถูกทางการเอาผิดจริงจัง ไม่ใช่เพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ และสีกา แต่เพราะไปเยือนนครวาติกันและไปพบหากับพระสันตะปาปา

โปรดทราบว่า ศาสนจักรคาทอลิกกับรัฐบาลจีนนั้นมีสัมพันธ์ที่ไม่ดี เพราะทางวาติกันถูกเพ่งเล็งว่ามีศักยภาพในการใช้ศาสนาแทรกแซงการเมืองจีน หากใครศึกษาประวัติศาสตร์และการทำงานของวาติกันก็ย่อมมองเห็นเหตุผลของจีน

เพราะในแง่หนึ่งศาสนจักรคาทอลิกนั้นถูกมอวว่าเป็น 'พระเล่นการเมือง' เหมือนกัน

เพราะเหตุผลนี้ แม้แต่ชาวคาทอลิกในจีนก็ไม่อาจโยงใยไปถึงพระสันตะปาปาและวาติกันได้ ต้องประกอบศาสนกิจอย่างเป็นเอกเทศจากวาติกัน

ดังนั้น การที่ 'ซื่อหย่งซิ่น' ดันไปพบกับพระสันตะปาปา "ตามใจชอบ" โดยไม่ได้แจ้งต่อ "ข้างบน" หรือผู้ที่มีอำนาจสูงกว่าในทางการเมือง จึงเท่ากับเป็นการ "ละเมิดทางการเมืองอย่างร้ายแรง"

แบบนี้จึงปล่อยเอาไว้ไม่ได้ แม้จะมีเส้นใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าล้ำเส้นการเมือง โอกาส "ซี้" มีสูงมาก

แม้ทางการจะเอาผิดเจ้าอาวาส แต่ทางการไม่แตะวัดเส้าหลินเอาเลย
แน่นอนว่า วัดเส้าหลินกลายเป็นบ่อเงินบ่อทองอันใหญ่โตของจีนในสมัยการปกครองของ 'ซื่อหย่งซิ่น' จนกระทั่งเป็นประเด็นติติงทั้งในและนอกประเทศมาหลายปีแล้ว เรื่อง "การทำให้วัดกลายเป็นพุทธพาณิชย์"

แต่ที่ทางการจีนต้องรักษาภาพลักษณ์ของเส้าหลินเอาไว้ เพราะเส้าหลินไม่ใช่แค่กังฟู แต่เป็นหนึ่งในการส่งเสริม "อุดมการณ์ทางการเมือง" และการสร้าง "ประวัติศาสตร์ที่ควรดำเนินตาม" ด้วย

เราจะเห็นได้ว่า หลังจากมีข่าวควบคุมตัว 'ซื่อหย่งซิ่น' แล้วตั้งเจ้าอาวาสใหม่ที่มีภาพลักษณ์ "สำรวม" กว่า และยังกล่าวกันว่ากำหนดระเบียบวัดไว้กว่า 900 ข้อ จนกระทั่งมีพระภิกษุในเส้าหลินขอออกจากไว้ไป 30 รูป

กรณีนี้ยิ่งทำให้ผู้คน "เย้ยหยัน" วัดเส้าหลินเข้าไปอีก บ้างก็ว่า 30 รูปน้อยไปหรือเปล่า ควรจะไปจากวัดสักร้อยรูปน่าจะใช่

หลังจากนั้นสำนักงานบริหารวัดเส้าหลินระบุว่าข่าวลือออนไลน์ล่าสุดที่ว่าพระสงฆ์ 30 รูปจากวัดเส้าหลินลาออกพร้อมกันนั้นเป็นเท็จ "หวังว่าทุกคนจะไม่เชื่อหรือแพร่ข่าวลือดังกล่าว"

ข่าวนี้ได้รับการส่งต่อไปยังสื่อของทางการต่างๆ เท่ากับยืนยันว่า "นี่คือเรื่องเป็นการเป็นงาน" ไม่ควรร่ำลือกันเล่นๆ

นี่คือการปกป้อง "บูรณภาพของเส้นหลิน" ที่เชื่อมโยงกับ "ความรักชาติจีน" และ "ความเป็นคนจีน" ไปจนถึงแง่มุมทางการเมืองที่ชี้ไว้ข้างต้น

เนื่องจากวัดเส้าหลินมีประวัติของการต่อต้านผู้รุกราน เช่น สมัยที่ญี่ปุ่นรุกรานจีน พระสงฆ์วัดเส้าหลินก็รวมตัวกันต่อต้านญี่ปุ่น แสดงความวีรภาพอาจหาญเป็นที่ประจักษ์ เรื่องนี้ยิ่งทำให้วัดเส้าหลินเป็นสัญลักษณ์ของการรักชาติ

ยังไม่นับยุคใกล้ที่ "กังฟูเส้าหลิน" กลายเป็นการส่งออกทางวัฒนธรรมของจีนที่สำคัญ ทำให้วัดเส้าหลินกลายส่วนหนึ่งที่แยกไม่ออกจากความเป็นจีน และเป็นส่วนหนึ่งของวาทกรรมความรักชาติที่แพร่หลาย

พอมีเรื่องฉาวโฉ่ขึ้นมา หากผมเป็นรัฐบาลจีนผมก็ควรจะจำกัดความฉาวโฉ่ให้จำกัดเฉพาะ "ปลาเน่าตัวเดียว" หากปล่อยให้ความเน่าเฟะกระจายไปถึงปลายสิบหรือหรือร้อยตัว ชื่อเสียงของวัดเส้าหลินก็จะป่นปี้

ถึงเวลานั้น การโยงวัดเส้าหลินกับความรักชาติและวัฒนธรรมของชาติ ก็จะสั่นคลอนในทันที

อย่างที่ผมชี้ไป 'ซื่อหย่งซิ่น' มีเรื่องฉาวมานานและควรจะถูกลงโทษมานานแล้ว แต่ที่ถูกเก็บเข้ากรุคราวนี้ ก็เพราะทำความผิดทางการเมือง โดยที่การไปวาติกันอาจถูกมองว่าเป็น "การทรยศ" ต่อประเทศจีน หรือนัยหนึ่งก็คือ "ไม่รักชาติ" ดังนั้นจึงปล่อย 'ซื่อหย่งซิ่น'เอาไว้ไม่ได้แล้ว

แม้ว่าการศาสนาและรัฐจะแยกกันอย่างเป็นทางการในเมืองจีน แต่เมื่อมีอุดมการณ์เข้าเกี่ยวข้อง รัฐก็ต้องแทรกแซงเพื่อรักษาเอกภาพของชาติเอาไว้

นี่คือความเป็นไปของกรณีอื้อฉาวที่เส้าหลิน

เมื่อหันมามองที่วงการสงฆ์ของไทย ซึ่งถูกแฉเรื่องฉาวไม่หยุดหย่อน

ในเมืองไทย ศาสนาและกิจการของรัฐไม่แยกจากกัน ศาสนาพุทธถูกทำให้มีลักษณะเป็น "เป็นไทยเท่ากับพุทธ" ด้วยซ้ำ และถูกใช้เป็นอุดมการณ์ของรัฐในหลายกรณี

ดังนั้น เมื่อเกิดเรื่องกับวงการศาสนา มันจึงสะเทือนไปถึง "ความศรัทธาต่อเอกลักษณ์ของชาติ" ไปด้วย

แต่เรื่องนี้กลับไม่มีคนในเมืองไทยสนใจกันเท่าไรนัก สาเหตุหนึ่งก็เพราะรัฐบาลห่างเหินกับศาสนาเพราะนักการเมืองนั้นห่างวัด และสังคมขาดผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศที่พูดเรื่องศาสนาได้อย่างถึงแก่น

อีกทั้งคนใหญ่คนโตหลายคนยังเป็นลูกศิษย์ของพระสมณศักดิ์สูงมากมาย ความโยงใยนี้จะเรียกว่า 'เส้น' เหมือนกรณี 'ซื่อหย่งซิ่น' ก็ได้

สิ่งที่เลวร้ายกว่ากรณีเจ้าอาวาสเส้าหลินก็คือ 'ซื่อหย่งซิ่น' รอดมาได้หลายปีอาจเป็นเพราะอาศัยเครือข่ายคอร์รัปชั่น จนกระทั่งมาตกม้าตายเพราะผิดทางการเมือง

แต่ในไทยนั้น 'เส้น' ที่โยงใยทางผู้มีศักดิ์ทางโลกและสมณศักดิ์ทางสงฆ์ เป็นเรื่องของ 'อำนาจ' เป็นหลัก แม้จะมีเงินหลายล้านเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนก็ตาม แต่ถ้าเอาจะถึงแก่นแล้ว ความสัมพันธ์นี้ดำรงอยู่เพราะ 'อำนาจ'

คนทางโลกไม่ได้เคารพพระสูงศักดิ์เพราะศรัทธา แต่เชื่อว่าพระเหล่านั้นนำพาพวกเขาไปสู่อำนาจได้ โดยเฉพาะคนในวงราชการ ทหาร ตำรวจ และนักการเมือง

เรื่องแบบนี้เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินทำไม่ได้ แต่ในเมืองไทย "อาจจะ" ทำได้
ดังนั้น พอมีเรื่องอื้อฉาวในวงการสงฆ์ขึ้นมา จึงเก็บกวาดกันไม่หมดเสียที เนื่องจาก 'พระไม่ดี' ยังคงมีอำนาจ และเมื่อมีอำนาจก็ย่อมได้รับการคุ้มครองจาก 'ลูกศิษย์' ที่แสวงหาอำนาจจากบารมีของ 'อาจารย์'

นี่ก็เป็น 'พระเล่นการเมือง' อีกรูปแบบหนึ่ง

ในแง่นี้ รัฐศาสนาพุทธแบบไทย ถือว่าแย่กว่ารัฐไร้ศาสนาแบบจีนเสียอีก

ระบบเส้นสายการเมืองกับวงการสงฆ์ของไทยนั้นมีลักษณะแบบ 'สังคมศักดินา' โดยที่พระสงฆ์มียศถาบรรดาศักดิ์ไม่ผิดกับขุนนางยุคโบราณ

ลักษณะหนึ่งของสังคมศักดินาคือ การมีเจ้าที่ดินของพวกมียศถาบรรดาศักดิ์ และวัดในไทยนั้นแต่โบราณมักจะได้กัลปนา คือเจ้าแผ่นดินทรงถวายดินให้วัดเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มาบำรุงพระศาสนา

แต่นานวันเข้า และพอถึงยุคนี้ ที่ดินกัลปนาที่ถวายให้วัด กลายเป็น 'ผลประโยชน์ของวัด' ที่ทำรายได้เกินกว่าการเลี้ยงตัวเอง

โปรดทราบว่าการครอบครองที่ดินจำนวนมากถือเป็น 'อำนาจ' อย่างหนึ่งเหมือนกัน ไปจนถึงการเป็นที่ซุกซ่อนความมั่งคั่งที่ผู้คนไม่ค่อยมองเห็น

เพราะเงินเข้าวัดในเมืองไทยนั้นมากมายเหลือเกิน เพราะผู้คนเห่อทำบุญโดบไม่คิดหน้าคิดหลัง พระจึงกลายเป็น 'นายทุน' 'เจ้าที่ดิน' 'สมณศักดินา' 'พระเล่นการเมือง'

ท้ังหมดนี้มาจากเงินและอำนาจเป็นสำคัญ

อย่างกรณีล่าสุดที่มีวัดแห่งหนึ่งที่ลพบุรี ร่ำลือกันว่าครองที่ดินเป็นพันๆ ไร่ นี่ยิ่งกว่าศักดินาเสียอีก เพราะเหตุผลอะไรที่วัดจะต้องไปครองที่ดินมากขนาดนั้น และด้วยเงินจากแหล่งใดที่ทำให้วัดกลายเป็นเจ้าที่ดินไปแล้ว?

ครับ พอมีเรื่องเงิน อำนาจ และยศศักดิ์ คนก็จะ "เสียหมา" ได้ง่าย พระที่เป็นเสขะ (ยังไม่บรรลุธรรม มีสภาพเหมือนปุถุชนทั่วไป) ก็เช่นกัน แม้บางองค์จะมียศสูงแต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะเป็นพระอเสขะ (บรรลุมรรคผลแล้ว ปล่อยวางแล้ว)

เจ้าอาวาสวัดเส้าหลินและหลวงพ่อยศสูงๆ และหลวงพี่ดังๆ ในเมืองไทยที่มีข่าวอื้อฉาว มันก็อีหรอบเดียวกันทั้งนั้น

ต่างกันตรงที่จีนนั้นเฉียบขาดกว่ามากในการกำจัด "เหลือบไรในพระศาสนา" เหล่านี้ ไม่ใช่เพราะรัฐบาลจีนมีใจให้ศาสนาพุทธ แต่เพราะพฤติกรรมฉ้อฉลทั้งปวงนั้นจะปล่อยไว้ไม่ได้ตามแคมเปญการกวาดล้างคอร์รัปชั่น ยิ่งเจ้าอาวาสเส้าหลินเป็น 'คนการเมือง' ด้วยแล้ว ยิ่งละเว้นไม่ได้เข้าไปใหญ่เพราะจะทำให้การเมืองมัวหมองไปด้วย

โทษก็คือต้อง "ตายจากสมณเพศ" สถานเดียว และจีนทำอย่างรวดเร็ว

ส่วนไทยนั้น การกวาดล้างเรื่องอื้อฉาวในวงการสงฆ์ยังไม่ถูกทำให้เป็นวาระทางการเมือง เป็นแค่เรื่อง 'อาบัติ' หรือผิดพระวินัย จับได้ก็แล้วกันไปหากยอมสึกในบางกรณี ในบางกรณีก็ดำเนินคดีทางโลกพ่วงไปด้วย แต่ไม่มีแคมเปญการทำ "ชำระพระศาสนาบริสุทธิ์" โดยยกเป็นวาระทางการเมือง

นั่นเพราะ 'พระเล่นการเมือง' ในไทยนั้นทรงพลังกว่าเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินหลายขุมเพราะโยงใยกับระบบศักดินาในวงการพระ อำนาจในวงราชการ ศิษย์ทหารตำรวจ นักการเมือง และพวกคนดังที่มาหากินกับพระ

และนี่คืออุปสรรคสำคัญที่จะทำให้บ้านเมืองเรามี 'วิญญูชนจอมปลอม' แฝงตัวในศาสนาต่อไป

บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย (ซ้าย) รับฟังคำอธิบายจากเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเติงเฟิง ซื่อหย่งซิ่น ระหว่างการเยือนวัดเส้าหลินในมณฑลเหอหนานของจีน เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2549 (Photo by SERGEI ZHUKOV / ITAR-TASS / AFP)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Better

โฆษก ทบ.ซัด "กัมพูชา" บิดเบือน พาคณะทูตทหารลงพื้นที่ อ้างไทยยิงถล่ม ย้ำเป็นพื้นที่สู้รบ ไร้พลเรือน

28 นาทีที่แล้ว

กทม. เฝ้าระวัง “ฝนตกหนัก” หวั่น น้ำท่วม

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"รัฐบาล"เตือนข่าวปลอมอย่าแชร์ “กรมศิลป์ อนุญาตทำลายปราสาท เพื่อประโยชน์ทางทหาร”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทีมสุดซอย-บก.ปทส นำหมายค้นบุกบ่อฝังกลบ บ.เวสต์ 2 เอ็นเนอร์ยี่ ปราจีนฯ พบผิดเงื่อนไขหลายจุด สั่งหยุดทันที

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

“ธนาคารกลางนิวซีแลนด์” เตรียมปลดพนักงานกว่า 20% หลังถูกตัดงบประมาณ

การเงินธนาคาร

วิจารณ์สนั่นโซเชียล หลังพระเอกรุ่นใหญ่ ซื้อของขวัญแต่งงานลูกสาว ไม่สมฐานะ (ต่างประเทศ)

News In Thailand

สาวญี่ปุ่นเป็นยายในวัย 36 ปี เผยที่มาทำไมเป็นคุณแม่ตั้งแต่ยังสาว

Khaosod

แผ่นดินไหว 6.1 เขย่าตุรกี ดับ 1 ราย อาคารพังถล่ม อาฟเตอร์ซ็อกซ้ำเติมหลายครั้ง

Thaiger

เรือจีนชนกันเองระหว่างไล่จี้เรือฟิลิปปินส์ ในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้

เดลินิวส์

กลาโหมกัมพูชากล่าวหา มทภ.2 แสดงความเห็นละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

กรุงเทพธุรกิจ

ทรัมป์สั่งไล่ ‘คนไร้บ้าน’ ทั้งหมดพ้นกรุงวอชิงตัน ชี้เป็นสาเหตุอาชญากรรม

เดลินิวส์

ด่วน! "กัมพูชา" ฟ้อง "ทูตทหารต่างประเทศ" กล่าวหา "ไทย" ทิ้งระเบิด 1,549 ลูก ในจังหวัดอุดรมีชัย

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...