โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เคล็ดลับการกินอาหารเย็นให้ “หลับลึก” ตื่นเช้าสดใสไม่เพลีย!

sanook.com

เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • Sanook
มาเลือกกินอาหารเย็นที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เพิ่มคุณภาพการนอนและทำให้หลับลึก ตื่นมาเช้าวันใหม่อย่างสดชื่น และไม่เพลีย

อาหารเย็นมีผลโดยตรงต่อคุณภาพการนอน การเลือกเมนูที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย หลับลึก และฟื้นฟูพลังงานได้อย่างเต็มที่

ทำไมอาหารเย็นถึงมีผลต่อการนอน

อาหารที่เรากินก่อนนอนมีผลต่อระบบประสาทและฮอร์โมน เช่น เมลาโทนินและเซโรโทนิน หากเลือกอาหารที่ย่อยง่ายและมีสารช่วยให้ผ่อนคลาย จะช่วยให้หลับลึกได้ง่ายขึ้น ในทางตรงกันข้าม หากกินอาหารมันจัดหรือเผ็ดจัด อาจทำให้กระเพาะทำงานหนักและรบกวนการนอน

อาหารที่ช่วยให้หลับลึก

ปลาแซลมอนและปลาทะเล

อุดมด้วยโอเมก้า-3 และวิตามินดี มีส่วนช่วยควบคุมฮอร์โมนการนอน และลดความเครียด

กล้วยหอม

มีแมกนีเซียมและโพแทสเซียม ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และทริปโตเฟนที่เปลี่ยนเป็นเซโรโทนินและเมลาโทนิน

ข้าวโอ๊ต

แหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ช่วยเพิ่มระดับเซโรโทนิน ทำให้นอนสบายและหลับลึก

ผลิตภัณฑ์จากนม

นมอุ่น โยเกิร์ต หรือชีสบางชนิด มีทริปโตเฟนและแคลเซียมที่ช่วยให้สมองสร้างฮอร์โมนหลับ

ถั่วและเมล็ดพืช

เช่น อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง มีแมกนีเซียมสูง ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย

อาหารที่ควรเลี่ยงก่อนนอน

  • อาหารมันและทอด เพราะทำให้กระเพาะทำงานหนัก

  • คาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ หรือช็อกโกแลต อาจทำให้นอนไม่หลับ

  • อาหารเผ็ดจัด เพราะอาจกระตุ้นกรดไหลย้อนหรือแน่นท้อง

เคล็ดลับทำอาหารเย็นให้นอนหลับลึก

  • เลือกเมนูเบา ๆ เช่น ซุปใส ข้าวต้ม ผัดผัก

  • กินก่อนนอนอย่างน้อย 2–3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาย่อย

  • ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ เช่น นมอุ่นหรือชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีน

  • ลดโซเดียม เพื่อป้องกันอาการบวมหรือตื่นกลางดึกกระหายน้ำ

การเลือกอาหารเย็นอย่างเหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้หลับลึก และพักผ่อนได้เต็มที่ เลือกอาหารที่ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงอาหารหนักหรือกระตุ้นร่างกาย แล้วตื่นเช้าวันใหม่ด้วยความสดชื่นและไม่เพลีย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...