สำนักอัยการสูงสุด เรียก 6 ปากสัปดาห์หน้า ปมคลิปเสียง “อิ๊งค์-ฮุนเซน”
สำนักอัยการสูงสุด เตรียมเรียก 6 ปาก มาสอบปากคำสัปดาห์หน้า ปมคลิปเสียง “อิ๊งค์-ฮุนเซน” ส่วนเรื่องพาดพิงแม่ทัพภาค 2 ให้เป็นอำนาจศาล รธน.
สำนักอัยการสูงสุด นัดประชุมหารือกับตำรวจไซเบอร์ กรณีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จ ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ถูกเผยแพร่ออกมา โดยทั้งสองพูดถึงเรื่องปัญหาพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา โดยการประชุมครั้งนี้เพื่อเป็นการหารือกำหนดแนวทางการสอบสวน โดยมีนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน และพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 และรองโฆษก ตร. ร่วมประชุม
ซึ่งนายวัชรินทร์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะเชิญตัวพยานทั้งหมด 6 ปาก มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดย 6 คนนี้เป็นคนไทย ประกอบด้วย นายสมคิด เชื้อคง ในฐานะผู้กล่าวหา ตำรวจไซเบอร์ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องของเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงพยานจากส่วนกลางมาให้ความเห็น
ส่วนการเรียกสอบปากคำนายกฯ นั้น ยังไม่ถึงขั้นตอน เนื่องจากจะต้องสอบปากคำฝ่ายผู้ร้องให้เสร็จก่อน จึงจะเป็นขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม หากสัปดาห์หน้าไม่สามารถสอบปากคำพยานได้ทัน ก็จะขยายเวลาให้เพิ่มอีก 1 สัปดาห์ แต่ตนยืนยันว่าคดีนี้จะพิจารณาให้เสร็จภายในเดือนส.ค. ก่อนเสนอให้อัยการสูงสุด เป็นผู้ชี้ขาดสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง และหากอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง คดีนี้จะถือว่าสิ้นสุด
หากสมเด็จฮุนเซน อ้างว่าเฟซบุ๊กดังกล่าว เป็นเพจปลอมนั้น ก็ทำได้ แต่ตำรวจไซเบอร์สามารถยืนยันหลักฐานและความชัดเจนกับเฟซบุ๊กนี้ได้ ว่าใครเป็นผู้ใช้หรือโพสต์ ส่วนจะออกหมายจับได้หรือไม่ กระบวนการขั้นตอนการออกหมายแดงและส่งผู้ร้ายข้ามแดน จะต้องรอให้ทางอัยการสูงสุดวินิจฉัยเสร็จก่อน แต่เชื่อว่าอีกไม่นาน ส่วนที่ในคลิปเสียงมีการพาดพิงถึงแม่ทัพภาคที่ 2 นั้น เป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ทางอัยการไม่ขอก้าวล่วง
ด้านพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้มีหลักฐานเพียงพอที่สามารถดำเนินคดีหลังจากที่อัยการสูงสุดมอบหมายให้เป็นพนักงานสอบสวน ในคดีนอกราชอาณาจักร ส่วนรายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบแล้วขณะมีการโพสต์ แอดมินทั้ง 4 คนอยู่ในประเทศกัมพูชา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง