Gen Z อเมริกัน ‘หมดหวัง’ กับอนาคต เกือบครึ่งมองแผนชีวิต ‘ไร้จุดหมาย’ Credit Karma ชี้ ปัญหาหนี้-ว่างงานรุมเร้า
กลุ่มคน Gen Z กำลังเผชิญกับภาวะความรู้สึกไม่สบายทางเศรษฐกิจ โดยเกือบครึ่งหนึ่ง (49%) ของผู้ใหญ่ในกลุ่มนี้ระบุว่า การวางแผนสำหรับอนาคตดูเหมือน ‘ไร้จุดหมาย’ จากผลสำรวจล่าสุดของ Credit Karma
คอร์ตนีย์ อเลฟ ผู้สนับสนุนด้านการเงินผู้บริโภคของ Credit Karma กล่าวว่า ทัศนคติแบบ ‘ใช้ชีวิตให้คุ้ม’ ได้หยั่งรากลึกในหมู่คนหนุ่มสาวที่รู้สึกถึงความ ‘สิ้นหวัง’ และ ‘ไร้หวัง’ ทางการเงินซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไข อาจนำไปสู่การก่อหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่ยากจะชดใช้ และอาจทำให้ความสำเร็จสำคัญๆ ในชีวิต เช่น การย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ หรือการออมเพื่อวัยเกษียณต้องล่าช้าออกไป
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ช่วงวัยรุ่นตอนปลายและต้น 20 ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับคนหนุ่มสาวในการ ‘สร้างนิสัยทางการเงิน’ ที่ดี การเริ่มต้น ‘การลงทุน’ แม้เพียงเล็กน้อย ก็จะให้ผลตอบแทนมหาศาลตลอดหลายสิบปีของดอกเบี้ยทบต้น
สาเหตุที่คน Gen Z รู้สึกสิ้นหวังนั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ตลาดแรงงานในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างยากลำบากสำหรับผู้เข้าใหม่และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงาน
อัตราการว่างงานในสหรัฐฯ โดยรวมค่อนข้างต่ำที่ 4.2% แต่สูงกว่ามากสำหรับชาวอเมริกันอายุ 22 ถึง 27 ปี โดยอยู่ที่ 5.8% สำหรับผู้จบการศึกษาระดับวิทยาลัยล่าสุด และ 6.9% สำหรับผู้ที่ไม่มีปริญญาตรี
นอกจากนี้ คนหนุ่มสาวยังต้องแบกรับ ‘ปัญหาหนี้สิน’ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ประมาณ 50% ของผู้จบปริญญาตรีในปี 2022-2023 มีหนี้สินด้านการศึกษา โดยมีหนี้เฉลี่ย 29,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ
รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้กลับมาเรียกเก็บหนี้สินด้านการศึกษาที่ผิดนัดชำระอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม หลังจากหยุดพักไปห้าปี และความพยายามของรัฐบาลไบเดนในการยกเลิกหนี้สินด้านการศึกษาจำนวนมาก ก็ถูกขัดขวางในศาล
วินนีย์ ซัน ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการของ Sun Group Wealth Partners กล่าวว่า คน Gen Z รู้สึกว่าไม่มีเงินและหลายคนเป็นหนี้ และพวกเขาก็สงสัยว่าปริญญาที่พวกเขามี (หรือกำลังจะได้รับ) จะมีคุณค่าหรือไม่ หาก AI เข้ามาแย่งงานไปหมดอยู่ดี
นอกจากนี้การซื้อของก็ ‘ง่ายกว่าที่เคยเป็นมา’ ด้วยการเพิ่มขึ้นของบริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (Buy Now, Pay Later: BNPL) ซึ่งผลสำรวจของ Credit Karma พบว่า 77% ของผู้ใช้ Gen Z ระบุว่าบริการนี้กระตุ้นให้พวกเขาใช้จ่ายเกินกำลัง
สถานการณ์ทางการเงินที่ท้าทายเหล่านี้ยังถูกซ้ำเติมด้วยความไม่แน่นอนทางการเมืองและการเงินโดยทั่วไป เช่น นโยบายภาษีที่ไม่แน่นอน และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่ออัตราเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คนหนุ่มสาวควรพยายามปรับเปลี่ยนกรอบความคิดทางการเงินเสียใหม่ “สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณไม่ควรต่อต้านตัวเอง” ซันกล่าว พร้อมเสริมว่าให้มองว่านี่เป็น ‘โอกาส’ เพราะ “ถ้าคุณยังเด็กและค่าใช้จ่ายต่ำ นี่คือเวลาที่จะลงทุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่คุณทำได้ในตอนนี้”
อเลฟเสริมว่า เวลากำลังเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา เนื่องจากความสามารถในการทบต้นของการเติบโตของการลงทุนตลอดหลายสิบปี แม้การลงทุนอาจ “รู้สึกเป็นไปไม่ได้” แต่ทุกๆ การลงทุนเพียงเล็กน้อยก็ช่วยได้
แม้จะเป็นเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนในบัญชีเกษียณอายุที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น Roth IRA หรือ 401(k) ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งในการเริ่มต้น เนื่องจากการหักเงินเดือนอัตโนมัติ และความเป็นไปได้ที่จะได้รับเงินสมทบจากนายจ้างซึ่งเป็น “สิ่งที่ใกล้เคียงกับเงินฟรีมากที่สุดที่เราจะได้รับในชีวิต” อเลฟกล่าว ซันยังกล่าวว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในการลงทุน เพราะคุณยังเด็ก”
การกำหนดนิสัยการใช้จ่ายอย่างมีสติ เช่น การกำหนดระยะเวลารอคอยอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น ก็สามารถช่วยป้องกันการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้
ภาพ:MAYA LAB / Shutterstock
อ้างอิง: