เผยผลติดตาม ‘อุณหภูมิใจคนไทย’ 1 ใน 10 มีอารมณ์การเมืองรุนแรง
เผยผลติดตาม "อุณหภูมิใจคนไทย" พบ 1 ใน 10 มีอารมณ์การเมืองรุนแรง พบเพศชายมากกว่าเพศหญิง
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความเปราะบางและซับซ้อนนี้ กรมสุขภาพจิตเฝ้าระวังและสำรวจผลกระทบทางสุขภาพจิต โดยจัดทำแบบประเมินอารมณ์ทางการเมืองผ่านระบบออนไลน์
โดยสำรวจ "อุณภูมิใจประชาชน" 14,502 คน พบ 1 ใน 10 มีความเสี่ยงต่อความเครียดและขัดแย้งสูงจากการติดตามข่าวสารและสถานการณ์ทางการเมือง
1 ใน 10 มีอารมณ์การเมืองรุนแรง ชายมากกว่าหญิง
กลุ่มประชาชนส่วนใหญ่มีระดับอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับปกติ 63.39% มีแนวโน้มอารมณ์ปานกลางถึงรุนแรงคิดเป็น 36.61%
โดยกลุ่มประชาชนที่มีระดับอารมณ์ทางการเมืองที่น่ากังวลในกลุ่มรุนแรง 9.91% ซึ่งสะท้อนว่ายังมีความตึงเครียดสะสมในสังคม โดยเพศชายมีแนวโน้มแสดงอารมณ์ทางการเมืองมากกว่าเพศหญิงในระดับรุนแรง
กลุ่มอายุน้อยต่ำกว่า 30 ปี มีจำนวนผู้ที่มีอารมณ์รุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี กลับพบว่ามีอารมณ์ทางการเมืองรุนแรงน้อยที่สุด
ในด้านการศึกษาจากผลการสำรวจพบว่ากลุ่มที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญาตรี มีแนวโน้มอารมณ์รุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่น และกลุ่มอาชีพที่มีแนวโน้มอารมณ์รุนแรง ได้แก่ ว่างงาน, ธุรกิจส่วนตัว นักเรียน/นักศึกษา
ที่สำคัญยังพบว่าความถี่ในการติดตามข่าวการเมืองเป็นปัจจัยที่สำคัญ โดยยิ่งติดตามข่าวการเมืองทุกวันยิ่งมีแนวโน้มอารมณ์รุนแรงมากขึ้น โดยข้อคิดเห็นจากการสำรวจพบว่าวิธีที่ช่วยลดระดับอารมณ์ได้ดีที่สุด คือ เลือกไม่สนใจหรือเบี่ยงเบนความสนใจจากสถานการณ์และพูดคุยทางการเมืองกับผู้อื่น
จำกัดเวลาการเสพข่าว-รับข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า กรมสุขภาพจิตจึงขอแนะนำให้ประชาชนรู้เท่าทันการเสพข่าว เช่น จำกัดเวลาการติดตามข่าวไม่ให้มากเกินไป พร้อมส่งเสริมบรรยากาศของความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจในสังคม เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมในการดูแลจิตใจของประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง
กรมสุขภาพจิตได้จัดทำสื่อความรู้ด้านสุขภาพจิตเกี่ยวกับการดูแลตนเอง การจัดการอารมณ์ และการลดความขัดแย้ง เผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์และเครือข่ายในพื้นที่ เพิ่มการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต เช่น การประชาสัมพันธ์ช่องทางปรึกษา อาทิ สายด่วนสุขภาพจิต 1323 การจัดตั้งจุดปรึกษาใจเคลื่อนที่ และการเตรียมความพร้อมของทีม MCATT เพื่อให้ความช่วยเหลือเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง และสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะการสื่อสารร่วมกับสื่อมวลชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการนำเสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์และไม่ซ้ำเติมสถานการณ์
กรมสุขภาพจิต จะติดตามอุณภูมิใจของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาสุขภาพจิตรุนแรงขึ้นในวงกว้าง และลดความตึงเครียดในสังคม โดยมีเป้าหมายสำคัญในการลดความขัดแย้ง ส่งเสริมความปรองดอง และนำไปสู่ความสุข ความสงบ และสันติภาพในประเทศอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ หากประชาชนรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือไม่สามารถจัดการอารมณ์ได้ด้วยตนเอง สามารถขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้ผ่านสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ประมวลภาพบรรยากาศการชุมนุม คาดมีกว่า 10,000 คน
- ตำรวจคาด คนร่วม 'ม็อบรวมพลังแผ่นดินฯ' ทะลุ 1 หมื่น ยึดมีด-คัตเตอร์เพียบ รวบชายทำร้ายเทศกิจ
- มวลชนคึกคักร่วม 'ม็อบ 28 มิ.ย.' ไล่นายกฯ ลาออก (ประมวลภาพ)
ติดตามเราได้ที่