โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘มาริษ’ เผยเวที UNSC ให้ไทย-กัมพูชายับยั้งชั่งใจ-เจรจายุติขัดแย้ง

เดลินิวส์

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
“มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทย-กัมพูชายับยั้งชั่งใจ-เจรจายุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน ยังไม่เคาะช่องทางศาลอาญาโลก

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 68 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค. 68 ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวลต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย ทำให้พลเรือนไทยได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งรวมถึงเด็กอายุเพียง 8 ขวบ จึงยืนยันได้ว่า ไม่มีประเทศใด ยอมรับการกระทำเหล่านี้ได้ รวมถึงการใช้กับระเบิด หรือทุ่นระเบิดสังหาร ทั้งที่กัมพูชายืนยันตลอดว่า เป็นสมาชิกสมาคมระหว่างประเทศ แต่กลับละเมิดหลักการ และกระทำการโจมตีอย่างร้ายแรงโดยไม่เลือกเป้าหมาย และเป็นเป้าหมายพลเรือน ซึ่งไม่เพียงละเมิดอำนาจอธิปไตยไทยเท่านั้น แต่ยังละเมิดกฎหมายสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ และละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาไปแล้ว และได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตลงแล้วเช่นกัน

นายมาริษ ยังเรียกร้องให้กัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำ โดยเฉพาะการโจมตีพลเรือน และไม่ละเมิดอำนาจอธิปไตยไทยโดยทันที ซึ่งตนเองขอแสดงความเสียใจต่อประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตด้วย

ส่วนกรณีการวางทุ่นระเบิดสังหารใหม่ของกัมพูชานั้น นายมาริษ กล่าวยืนยันว่า ไทยมีหลักฐานการพบทุ่นระเบิดใหม่ของกัมพูชาในดินแดนไทย ซึ่งกองทัพได้พิสูจน์ชัดเจนแล้ว ซึ่งเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยต้องสูญเสียขาอย่างถาวร

รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยดำเนินการมาตรการต่าง ๆ ด้วยความจริงใจ และสุจริตใจตามกฎบัตรสหประชาชาติอย่างสันติ จริงใจ แต่ฝ่ายกัมพูชา กลับละเมิดอธิปไตยไทย และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศซ้ำแล้วซ้ำอีก ตนจึงได้เดินทางไปชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศแล้วผ่านเวที HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเวทีที่มีบทบาทที่สร้างสรรค์ และประชาคมโลกให้ความสำคัญ ซึ่งตนก็ได้ใช้โอกาสนี้ ชี้แจงต่อประชาคมแล้ว ผ่านการกล่าวถ้อยแถลงแบบเปิด และยังได้พบผู้แทนระดับสูงของประเทศ และองค์การระดับสูงต่าง ๆ เช่น เลขาธิการสหประชาชาติ รมว.ต่างประเทศของปากีสถาน ซึ่งจะเป็นประธานที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ประจำเดือน ก.ค. นี้ รวมถึงยังได้พบหารือกับ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ของปานามา ซึ่งจะเป็นประธานที่ประชุม UNSC ในเดือน ส.ค. นี้ แล้วเช่นเดียวกัน พร้อมยังได้หารือกับ รมช.ต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการประจำอนุสัญญาออตตาวา และหารือผู้แทนของประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้แทนถาวรสหประชาชาติ เพื่อย้ำกับทุกประเทศว่า ฝ่ายกัมพูชาละเมิดอำนาจอธิปไตย พร้อมย้ำท่าทีของฝ่ายไทยในการแก้ปัญหาเขตแดนอย่างสันติ และสุจริตใจผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ และยืนยันว่า กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่อง จากการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลใหม่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา

รมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาได้ยื่นหนังสือถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ว่า นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ได้เข้าพบผู้แทนถาวรของปากีสถาน ซึ่งเป็นประธานที่ประชุม UNSC ในเดือน ก.ค. นี้ แล้ว และได้ชี้แจงเหตุการณ์ที่กัมพูชาใช้กำลังทหาร และริเริ่มการโจมตีก่อน ละเมิดพันธกรณีต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง พร้อมยังได้เวียนหนังสือเป็นเอกสารของ UNSC เพื่อให้ประเทศสมาชิกได้รัทราบแล้วด้วย

นายมาริษ กล่าวถึงการประชุม UNSC ที่มีการประชุมด่วนแบบปิด เพื่อหารือต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา โดยมีประเทศสมาชิก 15 ประเทศ และประเทศไทย-กัมพูชา เข้าร่วมการประชุม โดยได้รับทราบจากผู้แทนไทยว่า ฝ่ายไทย และฝ่ายกัมพูชา รวมถึงประเทศสมาชิกทุกประเทศ ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม โดยสรุปว่า ฝ่ายไทยได้ย้ำจุดยืนว่า ฝ่ายกัมพูชา เป็นฝ่ายริเริ่มเปิดฉากยิงประเทศไทยก่อน และโจมตีสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางหทาร และรุกล้ำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรมอย่างร้ายแรง และที่ประชุม UNSC ได้ขอให้ไทยและกัมพูชา ใช้ความยับยั้งชังใจในการลดความชัดแย้ง และใช้การเจราบนพื้นฐานการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีระหว่างกัน พร้อมยังสนับสนุนบทบาทอาเซียนในการแก้ปัญหาความขัดแย้งตามกฎบัตรอาเซียน และย้ำว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือความมั่นคงระหว่างประเทศ แต่เป็นข้อขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ผ่านการเจรจาอย่างสันติ และสุจริตใจ และประชุม UNSC ก็ไม่ได้มีการออกเอกสารใด ๆ

ส่วนกรณีที่นายอันวา อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เสนอตัวเป็นคนกลางในการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งไทย-กัมพูชา นายมาริษ กล่าวว่า ตนขอขอบคุณนายอันวาร์ ซึ่งประเทศไทยเห็นด้วยในหลักการ แต่กัมพูชา จะต้องแสดงความจริงใจอย่างชัดเจนก่อน เพราะที่ผ่านมา กัมพูชายังโจมตีพื้นที่พลเรือน ซึ่งรัฐบาลไทยยอมรับไม่ได้ ดังนั้น กัมพูชาจะต้องแสดงความจริงใจ และยุติการโจมตีประเทศไทย

รมว.การต่างประเทศ กล่าวยืนยันว่า ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับบทบาทอาเซียน เพราะที่ผ่านมา ตนก็มีการหารือกับมาเลเซีย ประธานอาเซียน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียอย่างต่อเนื่อง เพื่อยุติปัญหาดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและไทย ต้องการใช้การเจรจา 2 ฝ่าย บนหลักการสันติวิธี และสุจริตจริงใจในการยุติปัญหา

ส่วนกรณีที่กระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ของกัมพูชา อ้างและกล่าวหากองทัพไทยรุกราน จนสร้างความเสียหายแก่ปราสาทเขาพระวิหารนั้น นายมาริษ กล่าวว่า เป็นการกล่าวหาที่ไร้หลักฐาน และไม่ได้เป็นจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะการปะทะเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่ฝ่ายกัมพูชาริเริ่มก่อนนั้น พื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากปราสาทถึง 2 กิโลเมตร ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีวิถีกระสุนไปถึง ซึ่งฝ่ายไทยจะชี้แจงอย่างเป้นทางการต่อไป

นายมาริษ กล่าวถึงการโจมตีของกัมพูชา ที่มีเป้าหมายพลเรือนว่า ตนเองได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือประท้วง เพราะไม่สามารถยอมรับได้ ประเทศไทยขอยืนยันในการแก้ปัญหาข้อพิพาทด้วยหลักสันติวิธี ตามกฎหมายระหว่างประเทศในการธำรงสันติภาพ และเสถียรภาพ ขอให้กัมพูชายุติการรุกราน หรือละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และกลับเข้าสู่การเจรจา อย่างสุจริตจริงใจ และตนขอส่งกำลังใจถึงประชาชน และเจ้าหน้าที่ และขอให้มั่นใจว่า ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ จะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อรักษาบูรณภาพ สถานะศักดิ์ศรีบนเวทีการเมืองระหว่างประเทศ และรักษาผลประโยชน์ชาติเหนือสิ่งอื่นใดเหมือนที่เคยดำเนินการมา พร้อมขอเจ้าหน้าที่ทหารทุกคนที่ทำหน้าที่เพื่อชาติ

ส่วนกรณีที่กัมพูชากระทำการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศจะยื่นเรื่องถึงอนุสัญญาเจนีวาด้วยหรือไม่นั้น นายมาริษ กล่าวยืนยันว่า แน่นอน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะอออกหนังสือประท้วง เพื่อประณามอย่างรุนแรง พร้อมให้กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการประเทศ พิจารณายื่นหนังสือประท้วงทุกช่องทางตามที่สามารถยื่นได้ ทั้งคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) และคณะมนตรีสิทธิมนุษยนแห่งสหประชาชาติ

ส่วนกรณีที่กัมพูชาโจมตีเป้าหมายพลเรือนไทย ฝ่ายไทยจะมีการยื่นเรื่องถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ข้อหาอาชญากรรมสงครามระหว่างประเทศด้วยหรือไม่นั้น รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ตนเองได้สั่งการให้กรมสนธิสัญญาและกฎหมายฯ พิจารณาเรื่องนี้ก่อนเป็นลำดับแรก เพราะการจะไปถึงจุดนั้น มีรายละเอียดอีกมาก และจะดำเนินการทุกช่องทางที่ไทยสามารถทำได้ ซึ่งฝ่ายไทยได้พูดคุยกันตลอดเวลาเพราะ ICC มีกรอบและขั้นตอนในรายละเอียดที่กำลังพิจารณา แต่เรื่องการใช้ทุ่นระเบิดนั้น ไทยได้ยื่นเรื่องถึงรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาแล้ว.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

จับสึก! สงฆ์นอกรีตเรี่ยไรเงิน ประวัติปลอมเป็นพระ 5 ครั้ง-ติดคุก 8 เดือน

19 นาทีที่แล้ว

“อิซัค” ไม่สนขุดทองซาอุฯ อยากซบ “หงส์แดง” ทีมเดียว

29 นาทีที่แล้ว

ฮาลั่น! พ่อค้าไอศกรีมแต่ง “ลายพราง” เต็มยศ พรางรถด้วยกิ่งไม้ ซิ่งขาย “ไอติมยามสงคราม” สุดไวรัล!

34 นาทีที่แล้ว

โฆษกอวยหนัก “ฮุนเซน”แทบไม่ได้พัก หลังวางยุทธศาสตร์ทหาร “โจมตีศัตรู” ไม่หยุด!

48 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

"ในหลวง" พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 4 ทหารพลีชีพปกป้องอธิปไตย

Thai PBS

เปิดภาพ กระสุนปืนใหญ่กัมพูชา ถล่ม รพ.สต.บ้านซำเม็ง จ.ศรีสะเกษ

สยามนิวส์

เลี่ยงพื้นที่เสี่ยงด่วน! เขมรเคลื่อนย้ายระบบจรวด PHL-03 และ KS-1C มีพิสัยยิงไกลถึง 120 กม. มาประจำการใกล้แนวชายแดน

สยามนิวส์

“อิ๊งค์” ไปสุรินทร์พรุ่งนี้ ให้กำลังใจผู้บาดเจ็บชายแดน ยันตระกูลชินไม่ช้ำหนัก

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

พล.อ.ประวิตร ห่วงเหตุปะทะชายแดน ย้ำภารกิจทหาร พิทักษ์ชาติ คือเกียรติสูงสุดของชีวิต

MATICHON ONLINE

‘ไอซ์ รักชนก’ ฉะ ‘ประกันสังคม’ อาศัยช่วงชุลมุนจัดซื้อฯปฏิทินเต็มสูบ 60 ล้าน

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทรงห่วงใย! ‘ในหลวง-พระราชินี’ พระราชทานสิ่งของช่วย ประชาชนชายแดนไทย

เดลินิวส์

ระอุ!ทักษิณลงพื้นที่อุบลฯ เจอหญิงป่วนกลางศูนย์อพยพ จี้ถาม “สั่งเขมรยิงคนไทย?” หวิดวางมวยเดือด!

เดลินิวส์

SeoulStation : ล้วงลึกตัวตน ‘ONE PACT’ ยิ้มเขินความประทับใจที่หลงรัก ‘&HEARTไทย’

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม