“ณัฐพงษ์” ไม่ออกความเห็น ปมปะทะ “อนุทิน-แพทองธาร” กรณีกาสิโนจีน
“ณัฐพงษ์” ไม่ออกความเห็น ปมปะทะ “อนุทิน-แพทองธาร” กรณีกาสิโนจีน – ชี้ ชี้นายกฯ โยนตอบเจ้ากระทรวง ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบในตำแหน่ง มอง "รัฐบาล" ขาดความจริงใจ หลัง ถอน ร่าง ‘สถาบันเทิงครบวงจร’ ย้ำ พรรคประชาชน เห็นด้วยกับการถอน แต่เหตุผลยังไม่ดีพอ จึงไม่ขอเข้าร่วมลงมติ ยัน ฝ่ายค้านจับตาใกล้ชิด หวั่น กลับมาเสนอใหม่ในอนาคต
วันที่ 9 ก.ค.68 ที่อาคารรัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตอบโต้กันระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กรณีผู้นำจีนแสดงท่าทีไม่พอใจต่อนโยบายกาสิโนในไทย ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีน
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า เรื่องนี้ควรสอบถามไปยังนายอนุทินโดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในช่วงเวลานั้น และเป็นผู้ที่ควรให้คำอธิบายต่อสังคมด้วยตนเอง พร้อมย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ไม่ใช่การโยนความรับผิดชอบกันไปมา
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีตอบโดยส่งเรื่องให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงเป็นผู้ชี้แจง แสดงถึงการโยนภาระหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบในตำแหน่งของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะผู้นำรัฐบาลที่มีหน้าที่กำกับดูแลภาพรวม ส่วนอดีตรัฐมนตรีที่ปัจจุบันอยู่ในฝ่ายค้าน จะชี้แจงหรือแสดงจุดยืนอย่างไรในอดีตก็เป็นสิทธิของเขา แต่ส่วนตัวไม่ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมในประเด็นนี้
ส่วนกรณีสภามีมติถอนร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกจากวาระ ว่า จากการประชุมเมื่อเช้าพิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่พรรคฝ่ายค้านรวมถึงพรรคประชาชนพยายามตั้งคำถามกับรัฐบาลต่อถึงเหตุผลในการถอนร่าง เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่ามีความจริงใจในการถอนร่างออกไป เพราะต้องการนำกลับไปศึกษาพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมถึงให้ประชาชนได้วิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น หรือว่าเป็นการถอนร่างออกไปเพราะกลัวว่ากฎหมายฉบับนี้จะถูกโหวตคว่ำในสภา
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า โดยสรุปคือมีความจริงใจหรือต้องการถอนร่างเพื่ออาศัยเป็นแทคติกในสภาฯ เพื่อที่จะรอเสียบมาในอนาคตผมเชื่อว่าประชุมสภาเมื่อเช้าก็ได้แสดงออกอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นในกรณีที่ตัวแทนของคณะรัฐมนตรีนายจุลพันธ์ให้เหตุผลที่คิดว่าฟังไม่ขึ้น เช่น คณะรัฐมนตรีถอดร่างนี้ออกไปเนื่องจากองค์ประกอบของครม.มีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะ หากใช้เหตุผลนี้กับร่างพ.ร.บ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทำไมกฎหมายอื่น ๆ ยังไม่มีมติในการถอนออกไปด้วยเช่นเดียวกัน
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่า เหตุผลที่พวกเราพยายามถามถึงความจริงใจและให้รับปากในที่ประชุม เพื่อให้บันทึกไว้ว่าถอนออกมาแล้วจะไม่เสนอกลับมาอีกจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ที่แต่ละภาคจะมีนโยบายอย่างไรก็สามารถที่จะนำเสนอได้ หากพรรคเพื่อไทยจะนำเสนอเป็นนโยบายก็นำเสนอหาเสียงได้ แล้วให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินแต่ปรากฏว่าทางนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงในที่ประชุมว่าไม่สามารถรับปากได้เพราะไม่ใช่ตัวแทนของคณะรัฐมนตรีทั้งหมด
ซึ่งตนทราบว่าวันนี้ทางนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็เดินทางมาที่รัฐสภาจริง ๆ ตนเชื่อว่าหากรัฐบาลมีความจริงใจนางสาวแพทองธารสามารถใช้สิทธิ์ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเข้าร่วมประชุมได้ ประธานรัฐสภาก็น่าจะให้การอนุมัติ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาตอบ ในสภาเป็นบันทึกการประชุม แทนคณะรัฐมนตรีได้อยู่ดี
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าทั้งหมดที่รัฐบาลแสดงออกถึงการขาดความจริงใจ ประกอบกับผลโหวตที่ออกมาก็เห็นแล้วว่า ผลโหวตของรัฐบาลมีแค่ประมาณ 250 กว่าเสียง หากลบพรรคร่วมรัฐบาลที่ได้ออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้วว่ามีพรรคไหนบ้างที่ไม่สามารถเห็นด้วยกับ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็จะพบว่า ถ้าพ.ร.บ. เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่วาระที่ 1 มีโอกาสสูงมากที่ร่างฉบับนี้จะถูก โหวตคว่ำ
ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่เราได้ตั้งคำถามไว้แต่แรก ถึงเหตุผลของรัฐบาลในการถอนร่างว่าไม่ได้เพื่อแสดงความจริงใจต่อประชาชนแต่เป็นเพราะแทคติกของสภาและกลัวกฎหมายจะถูกโหวตคว่ำในสภาต่างหาก
เมื่อถามถึงจำนวนเสียงลงมติ ซึ่งฝ่ายรัฐบาลปริ่มน้ำไป 7 เสียง ขณะที่เสียงฝ่ายค้าน ลงมติไม่เห็นชอบเพียง 6 เสียงนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในเรื่องของการโหวตของพรรคฝ่ายค้านก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค พรรคประชาชนเอง ต้องการยืนยันว่าเราเห็นด้วยกับการถอนร่างอย่างจริงใจ เพียงแต่รัฐบาลไม่ได้ให้เหตุผลที่ดีเพียงพอ เราจึงไม่สามารถที่จะร่วมในการลงญัตติครั้งนี้ได้ส่วนพรรคฝ่ายค้านอื่น ๆ จะแสดงออกอย่างไรก็เป็นเหตุผลของแต่ละพรรค
ส่วนมติที่ออกมาคือพรรคประชาชนไม่ได้เข้าร่วมใช่หรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าไปดูบันทึกการลงคะแนนก็เป็นแบบนั้น พรรคประชาชนไม่ได้ร่วมในการลงมติด้วย แต่เราต้องทำหน้าที่ต่อไปในการคอยติดตามและตรวจสอบ สิ่งที่รัฐบาลอาศัยเสียงข้างมากในการถอนรากออกไปเพื่อกันร่างนี้จะถูกหมดคว่ำแต่ในอนาคตไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่ารัฐบาลจะรอเสียงกลับมาเมื่อไหร่อีกหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของตนและพรรคประชาชนที่จะคอยติดตามและตรวจสอบเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง