แบงก์ชาติสหรัฐชี้หลายธุรกิจผลักภาระให้ผู้บริโภค พิษต้นทุนพุ่งจาก “ภาษีทรัมป์”
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ว่าผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจ “Beige Book” หรือ "สมุดสีเบจ" ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ธุรกิจต่าง ๆ คาดการณ์ว่าต้นทุนจะยังคงสูงขึ้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอาจสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมากขึ้น ในช่วงปลายฤดูร้อนนี้
เฟดประเมินว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.-ต้นเดือน ก.ค. แต่ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ภาคธุรกิจยังคงระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง
ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนการประชุมนโยบายครั้งต่อไปของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.ค. นี้ ขณะที่ผู้สังเกตการณ์คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดกำลังติดตามผลกระทบของภาษีศุลกากรของทรัมป์ที่มีต่อประเทศอย่างใกล้ชิด รวมถึงกำลังพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง
สำนักงานของเฟดในทั้ง 12 เขต รายงานตรงกันว่า ผู้ประกอบการกำลังเผชิญกับแรงกดดันด้านต้นทุนการผลิต ในระดับเล็กน้อยถึงรุนแรง ซึ่งเกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากร โดยเฉพาะวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตและก่อสร้าง
รายงานฉบับนี้ระบุเสริมว่า บริษัทหลายแห่งส่งต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น “อย่างน้อยบางส่วน” ไปยังผู้บริโภค ผ่านการขึ้นราคาสินค้า หรือค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ผู้ค้าหลายแห่งยังคงหลีกเลี่ยงมาตรการนี้ เนื่องจากมีความกังวลว่า ครัวเรือนอาจมีความอ่อนไหวเพิ่มขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงของราคา
ด้านภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ คาดการณ์ว่า แรงกดดันด้านต้นทุนจะยังคงสูง ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเพิ่มโอกาสที่สินค้าอุปโภคบริโภคจะ “มีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว” ในช่วงปลายฤดูร้อน.
เครดิตภาพ : AFP