‘สหายอ้วน’ ผนึก ‘สหายป็อป’ ปั้น‘มท.สีแดง’ คิกออฟสร้างผลงาน
“กระทรวงมหาดไทย”ยุค ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รมว.มหาดไทย ปฏิบัติการเชิงรุกรวดเร็วทันที โชว์ขึงขังทำเอา “นายใหญ่เพื่อไทย” ทักษิณ ชินวัตร ปลาบปลื้ม จนยกตัวอย่างการทำงานแบบมือเก๋า ให้ “รัฐมนตรีรุ่นใหม่” ยึดเป็นแบบอย่าง
“ภูมิธรรม” วางเกมรื้อ - โละ - ล้าง “เครือข่ายมหาดไทยสีน้ำเงิน” เชือดไก่ให้ลิงดูด้วยการย้าย ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ พ้นอธิบดีกรมปกครอง และนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ พ้นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ส่งเข้ากรุผู้ตรวจราชการฯ ซึ่งทั้งคู่ถูกมองว่า เป็นสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์
อีกคนที่หนาวๆ ร้อนๆ คือ พรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์คนสำคัญ แม้จะยังไม่โดนย้ายฟ้าผ่า แต่เกมลึกของนายใหญ่เพื่อไทย ต้องการยืมมือ “พรพจน์” จัดการปัญหา “ที่ดินเขากระโดง” เพราะเมื่อร่วมผูกปมนี้ ก็ต้องแก้ปมด้วยตัวเองเช่นกัน
โดย มท.1 “ภูมิธรรม” มีคำสั่งให้ “อธิบดีกรมที่ดิน” ส่งคำชี้แจงว่า เหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงคำสั่งของ “ศาลปกครอง” และ “ศาลฎีกา” ภายใน 7 วัน หากไม่มีความชัดเจน จะแต่งตั้งทีมสอบสวนทันที โดยมอบดาบให้ “ปลัดป็อป” อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดมหาดไทย ดูแลการแต่งตั้งคณะกรรมการ
ต้องยอมรับว่ายี่ห้อ “ปลัดป็อป” ไม่ธรรมดา ยกสถานะตัวเองขึ้นชั้น “สหายป็อป” คู่หู “สหายอ้วน” จากเบอร์หนึ่ง ที่ “บิ๊กค่ายแดง” จ้องจะเด็ดปีก เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าตัวตามติด “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ห่างกาย แต่เวลานี้ กลับสยายปีกจนอยู่ต่อได้
ภาพ “ภูมิธรรม” ถือเค้ก เบิร์ดเดย์ “อรรษิษฐ์” เนื่องในวันคล้ายวันเกิด 16 ก.ค. อายุครบ 54 ปี ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เนื่องจากทั้งสองเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย โดย “ภูมิธรรม” เป็นสิงห์ดำ รุ่น 25 “อรรษิษฐ์” สิงห์ดำ รุ่น 42
เมื่อแกะรอยคอนเนคชั่น ในยุค “มหาดไทยสีน้ำเงิน” จะพบว่า บัญชีจาก “บิ๊กค่ายแดง” ที่ส่งผ่านเบอร์หนึ่งคลองหลอดฝ่ายข้าราชการ มักจะได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายระดับปลัดอำเภอ และระนาบล่างลงไป
จึงไม่แปลกที่ “อรรษิษฐ์” จะอยู่รอดปลอดภัยในตำแหน่ง “ปลัดมหาดไทย” ในยุคนี้ ซึ่งว่ากันว่า ตราบใดที่ “ภูมิธรรม” ยังนั่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทย โอกาสเปลี่ยนตัวปลัด มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก
ปรากฎการณ์ “สหายอ้วน” ผนึกกำลังกับ “สหายป็อป” ลุยปฏิบัติการสลายขั้วสีน้ำเงิน สร้างอาณาจักร “มหาดไทยสีแดง” เพื่อสร้างผลงานให้กับ “รัฐบาลแพทองธาร-พรรคเพื่อไทย” ผ่านกลไกราชการ จากระดับนโยบายสู่ระดับท้องถิ่น จึงเป็นสัญญาณบวก
ล่าสุด “ภูมิธรรม” เปิดปฏิบัติการ คิกออฟครั้งใหญ่กวาดล้างยาเสพติด “No Drugs No Dealers” เมื่อ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา มีทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข และตำรวจ ร่วมประชุมรับนโยบาย
โดยให้ความสำคัญการลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ จากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมปฏิบัติการ Seal Stop Safe ผนึกกำลังในพื้นที่ 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดน ที่เริ่มภารกิจตั้งแต่ต้นปี 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
ประกาศิตของ “ภูมิธรรม” วางเป้าหมาย “ข้าราชการ” ต้องทำให้สำเร็จตามตัวชี้วัด ภายใน 3 เดือน โดยหมู่บ้าน และชุมชนที่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด จะต้องเริ่มแก้ไขปัญหา วางกลไกของชุมชนให้เป็นหมู่บ้านชุมชนปลอดยาเสพติด
“ถ้ามีปัญหา อย่างน้อยในช่วง 3 เดือนนี้ จะแสดงให้เห็นและจะทำต่อไป ติดขัดที่ตรงไหนถ้าไม่เปลี่ยนแปลงเรามีมาตรการ จับดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ผู้กำกับ ผู้การจังหวัด ถ้ามาถึงระดับชาติ ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทย และท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้าไม่เคร่งครัดในการดำเนินการต้องรับผิดชอบด้วย”
“ผมไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องการมาข่มขู่กัน เรามีทั้งถุงมือกำมะหยี่ และกำปั้นเหล็กในการแก้ไขปัญหา ใครที่มีส่วนร่วมได้รับผลประโยชน์และมีปัญหาเราจะจัดการทันที โดยการย้ายออกจากพื้นที่”
หลังจากนี้ จับตาบทบาทของ “ภูมิธรรม” และ “อรรษิษฐ์” สองคู่หู ขับเคลื่อนนโยบาย “รัฐบาลแพทองธาร” ไปสู่การปฏิบัติ หาก “บิ๊กข้าราชการ - ข้าราชการระดับท้องถิ่น” ใครหาญกล้าเกียร์ว่าง มีโอกาสโดนเด้งทันที