ก.ล.ต.ฟันแพ่ง CEO บลจ.บัวหลวง เซ่นสั่งขายหุ้น JMT
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 2 กันยายน 2568 เวลา 0.18 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ผู้กระทำความผิดกรณีส่งคำสั่งขายหุ้นบริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็สจำกัด (มหาชน) (JMT) อันทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 704,187 บาท พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
ตามที่ปรากฏข่าวและสื่อออนไลน์ว่า ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (บลจ. บัวหลวง) มีการส่งคำสั่งขายหุ้น JMT จำนวน 30,000,000 หุ้น ซึ่งเป็นการขายหุ้นในปริมาณมาก และยกเลิกคำสั่งขายออกทั้งหมดในเวลาต่อมา อันเป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณการขายหุ้น JMT ในกรณีดังกล่าว
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ดำเนินการตรวจสอบ และพบว่าในวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 (1 วันทำการ) การส่งคำสั่งขายหุ้น JMT ตามที่กล่าวมาข้างต้น มาจากบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของ บลจ. บัวหลวง ซึ่งส่งคำสั่งซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ซิตี้คอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด
โดยขณะเกิดเหตุ นายพีรพงศ์ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการกองทุนของ บลจ. บัวหลวง เป็นผู้ส่งคำสั่งขายหุ้น JMT ในบัญชีดังกล่าวผ่านดีลเลอร์ของ บลจ. บัวหลวง ในปริมาณมากและมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปริมาณคำเสนอขายรวมทั้งตลาดในแต่ละระดับราคา ณ ขณะนั้น และต่อมาได้ยกเลิกคำสั่งเสนอขายดังกล่าวทั้งหมดออกจากระบบ ทั้งนี้ การส่งคำสั่งขายดังกล่าวของนายพีรพงศ์ทำไปเพื่อต้องการทดสอบตลาด ซึ่งไม่ได้มีเจตนาให้เกิดการซื้อขายจริง อันเป็นการทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณการซื้อขายหุ้น JMT
การกระทำของนายพีรพงศ์ข้างต้นเป็นความผิดฐานส่งคำสั่งขายหุ้น JMT อันทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ตามมาตรา 244/3(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ* กับนายพีรพงศ์ โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งให้นายพีรพงศ์ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่าย ของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 704,187 บาท รวมถึงห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลา 7 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลา 14 เดือน
มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุด ที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง