อินโดฯ เดือด ม็อบต้านสิทธิพิเศษ ส.ส. ดับ 6 ราย ปราโบโวถอยตัดเบี้ยบ้าน-ห้ามทริปนอก
สถานการณ์การเมืองอินโดนีเซียยังคุกรุ่น หลังการประท้วงใหญ่ที่เริ่มต้นจากประเด็นสิทธิพิเศษของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กลายเป็นความไม่พอใจที่ปะทุรุนแรงจนลุกลามไปหลายเมืองทั่วประเทศ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย และทำให้ประธานาธิบดีปราโบโว ซูบิอันโต ต้องออกมาเปลี่ยนท่าทีแบบหักมุม ยอมถอยจากมาตรการที่เคยผลักดัน เพื่อหวังลดแรงกดดันของประชาชน
ต้นเหตุความไม่พอใจเกิดจากการเปิดเผยว่าสมาชิกสภาฯ ทั้ง 580 คน ได้รับเบี้ยเลี้ยงค่าที่พักรายเดือนสูงถึง 50 ล้านรูเปียห์ หรือราว 3,075 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเกือบ 10 เท่าของค่าแรงขั้นต่ำในกรุงจาการ์ตา ประชาชนจำนวนมากมองว่าเป็นการใช้งบประมาณที่เกินความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจที่ประชาชนกำลังเผชิญภาระค่าครองชีพพุ่งสูงและการว่างงานที่เพิ่มขึ้น
การชุมนุมซึ่งเริ่มอย่างสงบกลับปะทุรุนแรงเมื่อวิดีโอที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียปรากฏภาพหน่วยปราบจลาจลของตำรวจขับรถพุ่งชน อัฟฟาน เคอร์เนียวาน คนขับส่งอาหารวัย 21 ปี ระหว่างทำงาน ส่งผลให้เสียชีวิตทันที เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจและจุดชนวนความโกรธแค้นต่อเจ้าหน้าที่รัฐจนขยายวงกว้างไปยังเมืองสำคัญทั้งยอกยาการ์ตา บันดุง เซมารัง สุราบายา และเมดัน
ผู้เสียชีวิตยังรวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัย Amikom Yogyakarta ชื่อ เรซา เซนดี ประตมา วัย 21 ปี ซึ่งมหาวิทยาลัยยืนยันการเสียชีวิต แต่ยังไม่แน่ชัดถึงสาเหตุ ขณะที่อีกหลายเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในเมืองมากัสซาร์ เมื่อวันศุกร์ มีผู้เสียชีวิต 4 คน บางรายถูกทำร้ายด้วยข้อสงสัยว่าเป็นสายข่าวกรอง และอีกหลายคนเสียชีวิตจากเพลิงไหม้อาคารสภาที่ถูกผู้ประท้วงจุดไฟ
ท่ามกลางความไม่สงบ ปราโบโวต้องยกเลิกกำหนดการเดินทางไปจีนเพื่อร่วมงานสวนสนามทางทหาร และหันมาจัดประชุมฉุกเฉินเรียกแกนนำการเมือง 8 พรรค รวมถึงอดีตประธานาธิบดีเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรี ผู้นำฝ่ายค้าน มาหารือเพื่อหาทางคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมประกาศยกเลิกสิทธิประโยชน์ ส.ส. ทั้งค่าที่พักและการเดินทางไปต่างประเทศ โดยมีผลทันที ถือเป็นการยอมถอยอย่างชัดเจนที่ไม่ค่อยพบเห็นในรัฐบาลชุดนี้
แม้จะยอมถอยในเชิงนโยบาย แต่รัฐบาลยังส่งสัญญาณแข็งกร้าวต่อผู้ก่อความรุนแรง โดยรัฐมนตรีกลาโหม ชาฟรี สยัมซูดิน เตือนว่าจะใช้มาตรการเด็ดขาดกับผู้ก่อจลาจลและผู้ปล้นสะดม หลังบ้านพักรัฐมนตรีการคลังถูกบุกทำลาย ด้านตำรวจได้ตั้งด่านตรวจหลายจุดทั่วกรุงจาการ์ตาเมื่อวันจันทร์ และระดมรถหุ้มเกราะกับกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนเข้าประจำการรอบอาคารรัฐสภา เพื่อแสดงแสนยานุภาพกดดันกลุ่มผู้ชุมนุม
ความรุนแรงที่ปะทุขึ้นยังส่งผลต่อโลกออนไลน์ โดย TikTok ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคนในอินโดนีเซีย ต้องประกาศระงับฟีเจอร์ถ่ายทอดสดชั่วคราวเป็นเวลาหลายวัน เพื่อป้องกันการใช้แพลตฟอร์มเป็นเครื่องมือปลุกระดม
ปราโบโวยืนยันว่ารัฐบาลเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ แต่เตือนว่าหากการชุมนุมกลายเป็นการทำลายทรัพย์สินสาธารณะ คุกคามชีวิตประชาชน หรือรุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคล จะถือเป็นการละเมิดกฎหมายขั้นร้ายแรง พร้อมขอร้องให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลและเคลื่อนไหวอย่างสันติ