บันทึกหน้า 4
ได้เห็นพาดหัวตัวไม้บนหน้าหนังสือพิมพ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ที่ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี สั่งให้มีการฟ้อง “แพ่ง-อาญา” กัมพูชา ในการก่ออาชญากรรมร้ายแรง แต่ไม่ใช่การฟ้องศาลโลก ก็เรียกเสียงฮือฮา ปรบมือดังๆ กันไปทั่ว แต่ พอวันรุ่งขึ้น “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” รมว.การต่างประเทศ กลับทำหน้าซื่อบอกว่ากำลังศึกษาอยู่ งานนี้ก็เล่นเอาสังคมเริ่มงงทั้งบาง…๐
ซ้ำร้าย “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานพรรคไทยภักดี ยังออกมาโพสต์เรื่องดังกล่าวว่า “ภูมิธรรม” เล่นปาหี่หรือไม่ เพราะการจะฟ้องเรื่องดังกล่าวจะไปฟ้องศาลพระภูมิที่ไหน พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ฟ้องในข้อหาอาชญากรสงคราม ซึ่ง สามารถฟ้องได้ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ซึ่งกัมพูชาลงสัตยาบัน และเป็นรัฐภาคีต่อ ICC แล้ว แม้จะยากหน่อย อย่างน้อยกัมพูชาจะได้รู้ว่าไทยเราเอาจริง ไม่ใช่สั่งฟ้องแพ่งฟ้องอาญา ทั้งๆ ที่เป็นไปไม่ได้ที่จะมีสภาพบังคับ…๐
เรียกว่าเป็นการแฉ “ปาหี่” บิ๊กอ้วนกันตรงๆ และดูเหมือน “ภูมิธรรม” จะติดใจการสร้างข่าวแบบนี้ เพราะในงาน “Prime Minister Meets Investors : Confidence in Thailand’s Future - Prime Minister's Dialogue with Global Investors” ที่จัดขึ้นที่ตึกสันติไมตรี ซึ่งรัฐบาลได้เชิญผู้บริหารระดับสูงจาก 31 บริษัทชั้นนำระดับโลกมาพบปะ หลังจบงาน“ภูมิธรรม” ก็แถลงฝ่ายเดียวเป็นตุเป็นตะเสมือนได้ชักชวนให้ผู้ผลิตแผงวงจรพิมพ์ (PCB) ชั้นนำระดับโลก 6 ราย มาลงทุนรวมกว่า 51,000 ล้านบาทแล้ว ทั้งที่เป็นแค่กรณีสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดโครงการความร่วมมือพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาเพื่อสร้างแรงงานทักษะสูง รองรับการลงทุนเท่านั้นเอง…๐
นี่ยังไม่นับรวม การอนุมัติ “โป๊กเกอร์ส่งด่วน” แบบสังคมไม่ได้ตั้งตัวหรือรับรู้มาก่อน เสมือนเป็นการปูทางในเรื่อง “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ที่ถูกดองไว้ก่อนอย่างไรอย่างนั้น และคงต้องจับตาการประชุมคณะรัฐมนตรีนับจากนี้ว่า “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ซุ่มทำเรื่องกฎหมายพนันออนไลน์จะส่งเรื่องเข้าวาระจรให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบวันไหน แต่เชื่อว่าจะไม่ช้าไม่นานแน่นอน เพราะไปๆ มาๆ ดูเหมือน “สทร.” จะวางไว้ให้ใช้ช่วงเวลาที่ “ลูกสาว” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม ที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ นั้นเร่งลุยสารพัดเรื่องอโคจรให้เสร็จสิ้นไป…๐
งานนี้จึงไม่แปลกที่ “นิพนธ์ บุญญามณี” อดีต รมช.มหาดไทย และ สส.พรรคประชาธิปัตย์ 8 สมัย ถึงกับมาแสดงความเห็นในเรื่อง “โป๊กเกอร์” ว่าแปลกใจ ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหารุมเร้าอย่างมากมาย แต่ “ภูมิธรรม” มาเลือกดำเนินการเพิ่มภาระและสร้างปัญหาให้กับสังคมไทยมากขึ้นไปอีก แต่ก็เริ่มเข้าใจว่า เหตุใดพรรคเพื่อไทยจึงต้องการกระทรวงมหาดไทยอย่างเร่งด่วน ถึงขั้นยอมแลกกับการให้พรรคร่วมรัฐบาลอีกพรรคหนึ่งถอนตัวจนเสียงในสภาไม่มั่นคง เพราะ เป้าหมายแท้จริงคือ “การปลดล็อกการพนัน” นั่นแล…๐
ไม่ใช่แค่ มท.1 เท่านั้นที่สร้างเรื่องสร้างราวให้สังคมกังขาเท่านั้น “มท.3” อย่าง “เดชอิศม์ ขาวทอง” รมช.มหาดไทยก็ใช่ย่อย โดยเฉพาะกรณีเขากระโดง แต่อย่างน้อยก็ทำให้สังคมได้รู้จักและเห็นหน้าค่าตาของเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์เสียทีในช่วงนี้ เพราะที่ผ่านมาทั้งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการก็แทบกลายเป็นบุคคลโลกลืมแล้ว โดย งานนี้ “เดชอิศม์” ขึงขังอย่างมาก พร้อมโชว์หล่อประกาศว่า “ที่ดินของหลวงต้องเอากลับมาเป็นของหลวงให้หมดและต้องไม่ยืดเยื้อกว่านี้” ชาวบ้านเขาเลยฝากถามว่า แล้วที่ดินอัลไพน์ที่เป็น สมบัติของวัดที่ “นางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา” บริจาคให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ มท.3 ไม่คิดจะเอ่ยหรือคิดจะทวงคืนให้วัดบ้างเหรอ…๐
เอ่ยถึงที่ดินวัด ไม่เอ่ยถึงมือปราบผ้าเหลืองนอกรีตอย่าง “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว” รอง ผบช.ก. หรือบิ๊กเต่า ก็ไม่ได้ เพราะ ปฏิบัติการกวาดลานวัดที่มีกลุ่มเป้าหมาย 163 เป้าหมาย จับกุมพระสงฆ์ได้ 153 รูป และในขณะนี้ยังไม่พบตัวอีก 18 เป้าหมายนั้น ประกาศว่าได้สั่งการให้ตำรวจกรมการปกครองท้องที่เข้าตรวจสอบวัดกว่า 40,000 วัดทั่วประเทศให้เสร็จภายใน 7 วัน โดยหวังทำความสะอาดวงการผ้าเหลืองครั้งใหญ่ ในขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) นั้นก็มาแถลงข่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว พิโธ่! ทั้งเรื่องพระ เรื่องชายแดน ทำไมรัฐบาลมักอืดอาด แต่พอว่าด้วยอบายมุขและการพนันขันต่อ กลับรวดเร็วปานกามนิตเสียจริง…๐
ท.ศักดิ์