ลุยสอบ ‘โรงงานแป้งมัน’ โคราชรุกป่าสงวนฯ
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 20 สิงหาคม 2568 เวลา 1.53 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทรัฐสภา 19 ส.ค.- กมธ.สิ่งแวดล้อม สว.ลุยสอบ ‘โรงงานแป้งมัน’ โคราชรุกป่าสงวนฯ ชี้เจ้าของเป็น ‘รัฐมนตรี’ ในรัฐบาลชุดนี้ออกตัวไม่ใช่ประเด็น-เครื่องมือทางการเมือง แต่ว่ากันไปตามถูกผิด
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุม กมธ. โดยมีวาระพิจารณากรณี โรงงานแป้งมันสำปะหลัง บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติในหลายจังหวัด
โดยนายชีวะภาพ ให้สัมภาษณ์ว่า กมธ. ได้นำกรณีข้อร้องเรียนโรงงานแป้งมันสำปะหลัง บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ เข้าหารือ ซึ่งไม่ได้มีแค่ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานีที่เดียวที่ผู้ส่งข้อมูลมาให้ แต่ยังมีคดีค้างเก่าที่ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่บุกรุกใหญ่กว่ากรณีที่ จ.อุบลฯ โดยผู้ต้องหาเป็น รมว.รายเดียวกัน ซึ่ง กมธ.ต้องศึกษาข้อมูลโดยละเอียด ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น หรือเครื่องมือทางการเมือง ว่ากันไปตามถูกผิด ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้ระเบียบกฎหมาย ซึ่งโรงงานแป้งมันดังกล่าวมี 3 กลุ่มใหญ่ ที่บุกรุกพื้นที่ป่า โดยเฉพาะใน อ.เสิงสาง มีการบุกรุกทำบ่อบำบัดจำนวน 18 บ่อเนื้อที่หลาย 100 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ทับซ้อนระหว่างป่าสงวนแห่งชาติป่าดงอีจานใหญ่ และเขตสปก. โดยหากยังไม่มีการออกเป็น สปก.4-01 ก็ยังถือว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ อยู่
นายชีวะภาพ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามทราบว่าที่ผ่านมาทาง ส.ป.ก.ได้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับโรงงานดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ต้องแจ้งดำเนินคดีบุกรุกป่าสงวนฯ ด้วย แต่เท่าที่ทราบมีการไกล่เกลี่ยในชั้นศาลต้องจ่ายเงินชดเชยฟื้นฟูพื้นที่ 20 กว่าล้านบาท ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญได้แปลภาพถ่ายทางอากาศพบว่ายังมีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อยู่และยังไม่ได้มีการฟื้นฟูแต่อย่างใด ที่สำคัญจุดอื่นบริเวณนอกโรงงานเราตรวจสอบพบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ที่ทับซ้อนกับเขต ส.ป.ก. จึงต้องดำเนินการทั้งหมด ส่วนในพื้นที่ จ.อุบลฯ ก็ต้องตรวจสอบต่อไป และได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงว่าได้ดำเนินการอย่างไรแล้ว โดยสัปดาห์หน้าจะเชิญ ส.ป.ก.มาชี้แจงความคืบหน้าการบังคับคดี รวมทั้งกรมป่าไม้ ในส่วนการมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก.ไปจัดสรรให้ประชาชน แต่การนำไปก่อสร้างโรงงานมันสำปะหลัง ถือว่าขัดต่อกฎหมายและมีการดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีแล้วหรือไม่
“ที่สำคัญคือผู้ต้องหา 2 คดีเป็นบุคคลเดียวกัน และวันนี้ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการในรัฐบาลชุดนี้ นี่คือสิ่งที่เราต้องทำให้สังคมรับรู้รับทราบข้อเท็จจริงให้ได้” นายชีวะภาพกล่าว.-312 -สำนักข่าวไทย