เนสท์เล่อื้อฉาว!ซีอีโอทำตัวแหกกฎ โดนแฉมีสัมพันธ์สวาทกับลูกน้องสายตรง
เนสท์เล่ ไล่ออก โลรองต์ เฟรย์เซ่ ซีอีโอของบริษัท หลังเข้ารับตำแหน่งได้ราวๆ 1 ปี โทษฐานปกปิดความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับลูกน้องในสังกัด โยนผู้ผลิตอาหารยักษ์ใหญ่สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์แห่งนี้เข้าสู่วิกฤตผู้นำ ท่ามกลางราคาหุ้นดำดิ่งและยอดขายชะลอตัว
เฟรย์เซ่ ถูกแทนที่โดย ฟิลิปป์ นาฟราติล หัวหน้าฝ่ายเนสเพรสโซ วัย 49 ปี ซึ่งเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ณ บริษัทอาหารใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ ในช่วงเวลาที่ทางเนสท์เล่ ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบจากมาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯ, แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่มืดมัว และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดต่ำลง
ทั้งนี้ เฟรย์เซ่ ชาวฝรั่งเศสวัย 63 ปี ถูกปลดหลังเข้ารับตำแหน่งได้เพียงแค่ปีเศษๆ ตามหลัง มาร์ค ชไนเดอร์ ซีอีโอคนก่อน ถูกปลดฐานล้มเหลวในการพลิกฟื้นธุรกิจของเนสท์เล่
ขณะเดียวกันทางเนสท์เล่ยังเผยในเดือนมิถุนายน ว่า พอล บูลเคอ ที่เคยดำรงตำแหน่งซีอีโอระหว่างปี 2008 ถึง 2016 จะลาออกจากเก้าอี้ประธานบริษัทในเดือนเมษายน 2026 และจะแทนที่โดย พาโบล อิสลา อดีตซีอีโอของอินดิเม็กซ์ บริษัทค้าปลีกด้านแฟชั่นสัญชาติสเปน
การปลด เฟรย์เซ่ มีขึ้นตามหลังการสืบสวนเกี่ยวกับการมีความสัมพันธ์ลับอันลึกซึ้งระหว่างเขากับพนักงานรายหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกน้องสายตรงของเขาในบริษัท มันถือเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์มาตรฐานพฤติกรรมของเนสท์เล่
หุ้นของเนสท์เล่ ปิดลบเล็กน้อย 0.7% ในตลาดซูริก ฟื้นตัวจากที่ช่วงหนึ่งดิ่งลงไปสูงสุด 3.6%
บริษัทเปิดเผยว่าความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 คน ถูกหยิบยกขึ้นมาโดยพนักงานผ่านช่องทางแจ้งเรื่องภายในของบริษัท "Speak Up" แต่เบื้องต้นยังไม่มีการสืบสวนอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่ เฟรย์เซ่ ชี้แจงกับบอร์ดบริหาร ปฏิเสธเรื่องราวความสัมพันธ์นี้
อย่างไรก็ตามครั้งที่พนักงานแสดงความกังวลอย่างต่อเนื่อง เนสท์เล่ จึงสั่้งสืบสวนอย่างจริงจัง ภายใต้การกำกับดูแลของ บูลเคอ กับ อิสลา และสนับสนุนโดยบริษัททนายความ Baer & Karrer
รายงานการสืบสวนเพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นำมาสู่การประชุมบอร์ดบริหารและคำสั่งปลด เฟรย์เซ่ ในที่สุดในวันจันทร์(1ก.ย.) ทั้งนี้ทางบริษัทเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า เฟรย์เซ่ ซึ่งทำงานกับเนสท์เล่มานานกว่า 39 ปี จะไม่ได้รับแพ็คเก็จชดเชยใดๆ ตามหลังถูกไล่ออก
ความเคลื่อนไหวของเนสท์เล่ ในการปลด เฟรย์เซ่ ทำให้เขากลายเป็นผู้บริหารระดับสูงของบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่รายล่าสุดที่ถูกบีบให้ออกจากตำแหน่ง ตามหลังการสืบสวนกรณีมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกน้องในบริษัท
ก่อนหน้านี้ บาร์นาร์ด ลูนีย์ ซีอีโอของบีพี และ สตีฟ อีสเตอร์บรูค ซีอีโอของแม็คโดนัลด์ ก็ถูกปลดจากตำแหน่งทั้งคู่ โทษฐานปกปิดความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกน้อง
แม้กฎหมายของสวิตเซอร์แลนด์ไม่ห้ามการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างพวกผู้บริหารระดับสูง แต่บริษัทขนาดใหญ่เกือบทั้งหมด ในนั้นรวมถึงเนสท์เล่ มีแนวปฏิบัติด้านพฤติกรรมภายใน ที่บังคับให้พวกเขาต้องเปิดเผยความสัมพันธ์ และถ้ามันเป็นกรณีผลประโยชน์ทับซ้อน คนหนึ่งในนั้นจะถูกโยกย้ายตำแหน่ง
(ที่มา:รอยเตอร์)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO