โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2568

efinanceThai

เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2568

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -18 ส.ค. 68 8:33: น.

*** สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 62.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.16 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.8%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ปิดที่ 65.85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 0.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.5%

ราคาน้ำมันปิดลดลงในวันศุกร์ (15 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ซึ่งอาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรที่บังคับใช้กับรัสเซียจากสงครามในยูเครน

*** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าการประชุมกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เป็นไปอย่างสร้างสรรค์แต่ยอมรับว่ายังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนในการยุติสงคราม พร้อมย้ำว่าจะพูดคุยกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เพื่อให้ทำข้อตกลง โดยทรัมป์กล่าวว่ายังมี ประเด็นสำคัญหนึ่งหรือสองเรื่องที่ต้องหาข้อยุติ

*** สตีฟ วิตคอฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์และวลาดิเมียร์ ปูติน ได้บรรลุข้อตกลงให้สหรัฐฯ สามารถมอบหลักประกันความมั่นคงแก่ยูเครน โดยวิตคอฟฟ์กล่าวว่า เราบรรลุข้อตกลงที่สหรัฐฯ และชาติอื่น ๆ สามารถเสนอกลไกที่มีลักษณะคล้าย Article 5 ของ NATO ได้ (Article 5 คือ บทบัญญัติของ NATO ที่ระบุว่าหากสมาชิกชาติหนึ่งถูกโจมตี จะถือเป็นการโจมตีต่อสมาชิกทั้งหมด)

อย่างไรก็ตาม เขาย้ำว่าข้อตกลงนี้ ยังไม่ถึงขั้นทำให้ยูเครนบรรลุเป้าหมายสูงสุดคือการเข้าเป็นสมาชิก NATO โดยปูตินย้ำชัดว่าสิ่งที่รับไม่ได้คือการให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO

ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เตรียมประชุมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันนี้ (18 ส.ค.) เพื่อยุติสงครามยูเครน-รัสเซียที่ยืดเยื้อ

*** การเยือนกรุงนิวเดลีของคณะผู้แทนเจรจาการค้าสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 2529 ส.ค. ถูกยกเลิก ส่งผลให้การหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคีต้องเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด ซึ่งสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุนที่คาดหวังความคืบหน้าก่อนถึงเส้นตาย 27 ส.ค. ที่ภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ จะเริ่มมีผลบังคับใช้

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มอีก 25% สำหรับสินค้าจากอินเดีย โดยให้เหตุผลว่าอินเดียยังนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเก็บภาษีรอบใหม่จะทำให้ภาษีรวมของสินค้าบางประเภทจากอินเดียสูงถึง 50% นับเป็นอัตราที่สูงที่สุดในบรรดาคู่ค้าของสหรัฐฯ

*** นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ประกาศมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 โดยปรับโครงสร้างระบบภาษีสินค้าและบริการ (GST) อย่างกว้างขวาง ซึ่งจะทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ มีราคาถูกลงตั้งแต่เดือนต.ค. เป็นต้นไป ส่งผลบวกต่อผู้บริโภคและบริษัทต่างชาติที่ทำตลาดในอินเดีย เช่น Nestle, Samsung และ LG Electronics

อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันต่อรายได้ของภาครัฐ เนื่องจาก GST เป็นแหล่งรายได้หลัก โดย IDFC First Bank ประเมินว่า มาตรการนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของอินเดียราว 0.6 จุดเปอร์เซ็นต์ภายใน 12 เดือน แต่จะทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้กว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

*** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการภาษีตอบโต้ทันทีต่อประเทศที่ซื้อน้ำมันรัสเซีย เช่น จีน แต่ก็ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่อาจดำเนินการภายใน 23 สัปดาห์ หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง โดยจีนและอินเดียเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรัสเซียรายใหญ่ที่สุด ซึ่งสัปดาห์ก่อน ทรัมป์เพิ่งขึ้นภาษีนำเข้า 25% เพิ่มเติมต่อสินค้าจากอินเดีย อ้างเหตุผลเรื่องการนำเข้าน้ำมันรัสเซีย ทำให้ภาษีรวมสูงสุดแตะ 50% แต่ยังไม่มีมาตรการภาษีใหม่กับจีน แม้จะถูกตั้งคำถามโดยตรงหลังการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งไม่สามารถหาข้อยุติสงครามยูเครนได้

*** กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.5% ได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ที่แข็งแกร่ง รวมถึงโปรโมชั่นจาก Amazon และ Walmart ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย. ถูกปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งช่วยคลายความกังวลว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัวหลังตัวเลขการจ้างงานอ่อนแรงต่อเนื่อง 3 เดือน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลยังสะท้อนความเสี่ยงด้าน เงินเฟ้อ หลังราคานำเข้าเพิ่มขึ้น 0.4% จากแรงกดดันต้นทุนสินค้าผู้บริโภค ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนชี้ว่า ความคาดหวังเงินเฟ้อผู้บริโภคในเดือนส.ค. ปรับสูงขึ้น ทำให้ตลาดเริ่มลดความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยแรง

ยอดค้าปลีก 0.5% ในก.ค. เพิ่ม 0.5% ขณะที่ยอดค้าปลีกพื้นฐาน (ไม่รวมรถยนต์ น้ำมัน และวัสดุก่อสร้าง) เพิ่ม 0.5% เช่นกัน ขณะที่ราคานำเข้าเพิ่ม 0.4% นำโดยสินค้าผู้บริโภค ด้านความเชื่อมั่นผู้บริโภคอ่อนตัวใน ส.ค. ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น

*** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า จะประกาศมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ต่อเหล็กและเซมิคอนดักเตอร์ ในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า โดยระบุว่าจะเริ่มเก็บในอัตราที่ต่ำก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาลงทุนผลิตในสหรัฐฯ และจะปรับขึ้นอัตราภาษีให้สูงขึ้นอีกในระยะถัดไป โดยก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมเป็น 25% ในก.พ. ก่อนที่ในพ.ค.ประกาศเพิ่มเป็น 50% เพื่อหนุนผู้ผลิตในประเทศ

*** แมรี ดาลี (Mary Daly) ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ชี้ว่า ยอดค้าปลีกแข็งแกร่งเกินคาดและดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่พุ่งขึ้นเกินคาด ทำให้ตนเองมองว่า เฟดควรเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินเร็วสุดในเดือนก.ย. โดยปีนี้ควรมีการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง แต่ก็ยืดหยุ่นได้ตามข้อมูลเศรษฐกิจ

*** รัฐบาลฮ่องกงรายงานว่า เศรษฐกิจขยายตัว 3.1% ในไตรมาส 2/2025 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สอดคล้องกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้นเมื่อปลายเดือนก.ค. ถือเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 10 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนหลักจากการส่งออกที่พุ่งสูง เนื่องมาจากการเร่งส่งออกสินค้า หลังสหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการภาษีชั่วคราว รวมไปถึงการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และการเดินทางข้ามพรมแดนที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่ง ช่วยพยุงเศรษฐกิจ

*** สำนักงานงบประมาณ บัญชี และสถิติของไต้หวัน (DGBAS) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไต้หวันปี 2025 จะขยายตัวเร็วกว่าที่ประเมินไว้เดิม โดยได้แรงหนุนจากความต้องการเทคโนโลยีขั้นสูงและเซิร์ฟเวอร์ AI แต่มีแนวโน้มชะลอลงในปี 2026 เพราะแรงกดดันจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ โดย GDP ปี 2025 คาดขยายตัว 4.45% (ปรับเพิ่มจาก 3.1% ที่คาดไว้ในเดือนพ.ค.)

ส่วนการส่งออกปี 2025 คาดว่าจะเติบโตที่ 24.04% สะท้อนดีมานด์มหาศาลต่อชิปประสิทธิภาพสูงและเซิร์ฟเวอร์ AI โดยเฉพาะจากบริษัทระดับโลกอย่าง Apple และ Nvidia ขณะที่ปี 2026 คาดว่า GDP จะชะลอเหลือ 2.81% และการส่งออกโตเพียง 2.19% ซึ่งสาเหตุหลักนั้นมาจากมาตรการขึ้นที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไต้หวันเป็น 20%

*** Meta เตรียมปรับโครงสร้างหน่วยงาน AI อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 4 ในรอบครึ่งปี เพื่อเร่งผลักดันงานด้าน Artificial General Intelligence (AGI) หรือ AI ที่มีศักยภาพคิดวิเคราะห์เหนือมนุษย์ โดยโครงสร้างใหม่ของ Superintelligence Labs ประกอบด้วยทีม TBD Lab ซึ่งเป็นทีมใหม่ ที่ยังไม่ได้กำหนดภารกิจชัดเจน, ทีม Products ดูแลผลิตภัณฑ์ AI รวมถึง Meta AI, ทีม Assistant Infrastructure ดูแลการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และทีม FAIR (Fundamental AI Research) ที่เน้นการวิจัยระยะยาว

*** Canalys ชี้ว่าในไตรมาส 2/2025 ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Samsung ในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างมาก ดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 23% เป็น 31% ขณะที่ Apple ลดลงจาก 56% สู่ 49% แม้ยังครองอันดับ 1 ก็ตาม โดยปัจจัยหนุน Samsung ได้แก่การเปิดตัวมือถือพับได้ 2 รุ่นใหม่ อย่าง Galaxy flip และ Galaxy fold ซึ่งความนิยมในดีไซน์หน้าจอใหม่ ๆ ช่วยหนุนยอดขายของบริษัท

*** Klook ผู้ให้บริการจองกิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยวจากฮ่องกง เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยมีธนาคารชั้นนำอย่าง Goldman Sachs, Morgan Stanley และ JPMorgan มาช่วยดำเนินการ โดยคาดว่า จะระดมทุนได้ราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

รายงาน โดย สิริพงศ์ สิริชุมศรี เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก efinanceThai

กสิกรฯ คาดแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินกู้รอบนี้ ช่วยภาระดอกเบี้ยลูกหนี้รวม 5-7 พันลบ.

24 นาทีที่แล้ว

กลุ่ม JMART เร่งเครื่องครึ่งหลังปี 68 รับไฮซีซันธุรกิจมือถือ-สุกี้ตี๋น้อยหนุน-ลุยซื้อหนี้ก้อนใหญ่เพิ่ม

26 นาทีที่แล้ว

ก.ล.ต. - ตลท. ร่วมกำหนด `6 มาตรฐานองค์ความรู้กรรมการไทย` ยกระดับกำกับดูแลกิจการที่ดี บจ.

48 นาทีที่แล้ว

หุ้นไทยดิ่ง 12 จุด กังวลปัจจัยการเมือง ปมคลิปเสียงนายกฯ - หุ้นบิ๊กแคปพักฐาน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

Sam Altman เตือน ตลาด AI กำลังอยู่ในภาวะฟองสบู่ แม้ย้ำเทคโนโลยีสำคัญสุดรอบหลายทศวรรษ

การเงินธนาคาร

บลจ.ทิสโก้เปิดตัวกองทุน TGSMARTRMFกระจายสินทรัพย์ลงทุน

ทันหุ้น

หุ้นขึ้นไม่มี(หุ้น)เรา (แต่หุ้นลงเราลงด้วย)

Finnomena

กลุ่มเจนเนอราลี่ อวดงบครึ่งแรก เติบโตต่อเนื่อง

ทันหุ้น

กสิกรฯ คาดแบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ยเงินกู้รอบนี้ ช่วยภาระดอกเบี้ยลูกหนี้รวม 5-7 พันลบ.

efinanceThai

A5 ปลื้ม! นักลงทุนแห่จองซื้อ “หุ้นกู้” ดอกเบี้ย 7.50% ล้นหลาม

ข่าวหุ้นธุรกิจ

กลุ่ม JMART เร่งเครื่องครึ่งหลังปี 68 รับไฮซีซันธุรกิจมือถือ-สุกี้ตี๋น้อยหนุน-ลุยซื้อหนี้ก้อนใหญ่เพิ่ม

efinanceThai

NOBLE โกยรายได้ครึ่งปีแรก 3.4 พันลบ. ส่งซิกตุน “แบ็กล็อก” 2.5 หมื่นล้านบาท

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

เปิดสูตรความสำเร็จ THE KLINIQUE ธุรกิจความงามบนเวทีตลาดหุ้น

efinanceThai

จับตา IPO ครึ่งหลังปี 68 คึกคัก 11 หุ้นใหม่จ่อเข้าเทรด ขยับพอร์ตนักลงทุน

efinanceThai

โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะทำให้ตลาดการเงินโลกปั่นป่วน

efinanceThai
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...