แพทองธาร แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล ยืนยันความบริสุทธิ์ใจทำเพื่อประเทศ
จากกรณี เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีเฉพาะตัว เนื่องจากขาดความซื่อสัตย์สุจริตและฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมทางการเมือง จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
ผลคำวินิจฉัยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะสิ้นสุดตำแหน่งด้วย
ล่าสุด นายกรัฐมนตรีได้ออกแถลงการณ์น้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจและความตั้งใจอย่างแท้จริงที่ตั้งใจจะทำเพื่อประเทศตลอดมา ไม่ว่าบทสนทนานั้นที่เป็นคลิปเสียงที่ออกไป ดิฉันเองไม่ได้ขออะไรเพื่อเป็นประโยชน์ของตัวดิฉันเองเลย ก็อยากจะบอกพี่น้องประชาชนอีกครั้งว่าสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่ฉันยึดมั่นเสมอ นั่นคือชีวิตของพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นทหารหรือพลเรือน ดิฉันตั้งใจจริง ๆ ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นว่าจะทำอย่างไรเพื่อรักษาชีวิตเขาเหล่านั้นไว้ให้ได้ คลิปนี้ก็เกิดขึ้นก่อนการปะทะที่รุนแรง ในวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ขอยืนยันเรื่องนี้อีกครั้งเพราะเป็นเรื่องที่ตั้งใจจะสื่อสารจริง ๆ
คำตัดสินของศาลในวันนี้ ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างเฉียบพลัน เราก็ต้องมาช่วยกันค่ะทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ประชาชนเองทุก ๆ คน ก็ต้องมารวมใจกันสร้างเสถียรภาพทางการเมืองของเราให้กลับมาเข้มแข็งให้ได้ ให้ไม่มีจุดอย่างเฉียบพลันเช่นนี้อีก
แล้วก็แน่นอนค่ะ ดิฉันในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนทุก ๆ ท่าน ที่ได้ให้โอกาสดิฉันทำงานเพื่อประเทศชาติมาเกือบหนึ่งปี ดิฉันมีความภาคภูมิใจที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ได้ทำเพื่อประเทศชาติ นำประสบการณ์นำความตั้งใจมาเพื่อพัฒนาประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศไทยของเราเต็มไปด้วยโอกาส
ดิฉันคิดว่ายังไงก็ตาม รัฐบาลต่อจากนี้ก็จะนำในเรื่องของโอกาสกลับมาให้พี่น้องประชาชนให้ได้ เพราะว่าการที่พี่น้องประชาชนลืมตาอ้าปากกินดีอยู่ดีได้ นั่นเองคือพื้นฐานที่สำคัญในการเป็นประเทศที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ
ดิฉันในฐานะคนไทยคนหนึ่งมีความรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์สุดหัวใจเท่าที่คนไทยคนหนึ่งจะทำได้ ยังขอยืนยันเรื่องนี้ตลอดไปค่ะ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่ให้โอกาส ขอบคุณ ครม.ที่ทำงานร่วมกันมา ขอบคุณสื่อมวลชนและทุก ๆ ท่านที่ให้โอกาส ให้ความรู้ และประสบการณ์ ทำให้ดิฉันได้รู้ข้อดีข้อเสียของตัวเอง พร้อมที่จะพัฒนาต่อไป
แน่นอนค่ะว่ามีส่วนไหนที่ดิฉันจะทำเพื่อช่วยประเทศชาติให้ดีขึ้นได้ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ดิฉันก็ยินดี ต่อจากนี้ขอส่งกำลังใจให้ทีมบริหารทุก ๆ ท่านช่วยกันพัฒนาประเทศต่อไป ดิฉันเองจะคอยติดตามอย่างใกล้ชิด คอยเป็นพลังที่ดีให้กับประเทศชาติของเราต่อไป