ไชยายันปิดประชุมสภา ไม่ใช่เกมการเมือง ขอโทษหากทำสังคมเข้าใจผิด
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ชี้แจงกรณีถูกวิจารณ์ว่าปิดประชุมสภาก่อนการพิจารณาญัตติด่วนของฝ่ายค้าน เรื่องขอให้สภาฯ พิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ MOU 44 ของนายสฤษฏ์พงศ์ พงศ์เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 21 ส.ค.
นายไชยา ระบุว่า ขณะนั้นได้รับสัญญาณจากวิปรัฐบาลว่ามีหน่วยงานรายงานเพียงกองทุนสื่อสร้างสรรค์ และเมื่อไม่มีการประสานเพิ่มเติม จึงเข้าใจว่าการประชุมสิ้นสุดแล้ว ยืนยันไม่ทราบมาก่อนว่าฝ่ายค้านจะเสนอญัตติด้วยวาจา และเสียใจที่ถูกมองว่าเป็นผู้สั่งปิดประชุม
นายไชยา กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานในสภาต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน หากเกิดความผิดพลาดจนสังคมไม่สบายใจ ตนต้องขอโทษ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าว เวทีสภาควรใช้เพื่อแก้ปัญหาประเทศ ไม่ใช่เล่นเกมการเมือง
ต่อกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำทำให้เกิดการ “ชิงปิดประชุม” นายไชยา ตอบว่าฝ่ายรัฐบาลต้องรับผิดชอบองค์ประชุม แต่ไม่ควรมองว่ากฎหมายใดเป็นของรัฐบาล เพราะทุกฉบับคือผลจากการระดมความเห็นและใช้กับประชาชนทุกคน
นายไชยาย้ำว่า การปฏิบัติหน้าที่บนบัลลังก์นานหลายชั่วโมงย่อมมีความเหนื่อยล้า แต่ไม่ได้หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ และไม่ใช่เครื่องมือของฝ่ายใด แม้จะมาจากพรรคเพื่อไทยก็ตาม พร้อมยืนยันว่าผู้ที่มอนิเตอร์การทำงานคือประชาชน