จับตา ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว พรุ่งนี้ | ข่าวภาคค่ำ

ข่าวภาคค่ำ - จับตาแม่ทัพภาคที่ 1 ประชุม RBC กับกัมพูชาพรุ่งนี้ กับข้อเสนอ 3 ข้อเพิ่มเติมให้กับกัมพูชาพิจารณา วันนี้เป็นการประชุมของกองเลขานุการ RBC ระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยรอจนเย็น ฝ่ายกัมพูชาก็ไม่ได้เดินทางมา แต่ล่าสุดได้มีการประชุมกองเลขาฯ ของทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00 น. เป็นการประชุมผ่านการสื่อสารทางโทรศัพท์และอีเมล ตามที่ทางฝ่ายกัมพูชาประสานมา ณ ห้องประชุมสโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 ค่ายสุรสิงหนาท อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยกำหนดการประชุม RBC ระหว่างแม่ทัพภาคที่ 1 กับ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา จะมีขึ้นในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ ในส่วนของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ก็ยังเดินทางปฏิบัติภารกิจดูข้อเท็จจริงในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว ส่วนประเด็นการหารือ ไทยได้เสนอไป 3 ข้อ ได้แก่ 1.เก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกัน 2.การปราบปรามสแกมเมอร์ หรือ แก๊งคอลเซนเตอร์ และ 3.จัดระเบียบดูแลชายแดนจังหวัดสระแก้วให้ถูกต้อง ส่วนกรณีที่ พลโท มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่ากัมพูชาปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม พร้อมเรียกร้องให้ไทยหยุดยิง เพื่อสร้างบรรยากาศเจรจาสันติภาพ รวมถึงเรียกร้องให้ส่งคืนเชลยศึก 18 นาย เรื่องนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โต้กลับว่า ไทยควรจะเรียกร้องมากกว่า เพราะกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ทุ่นระเบิด ตรวจพบโดรน และแสดงท่าทียั่วยุ โวยวายต่อทหารไทย และคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ว่าละเมิดไทยชัดเจน ส่วนเชลยศึก 18 นาย ย้ำว่าไทยปฏิบัติตามข้อกำหนดอนุสัญญาเจนีวา และหลักมนุษยธรรมสากล ด้าน กองทัพเรือ รับมอบปืนใหญ่สนามขนาด 155 มม. แบบอัตราจรล้อยาง ATMG เพิ่มขีดความสามารถในการป้องกัน รักษาอำนาจอธิปไตยทางบกของประเทศ อุปกรณ์บางส่วนสามารถผลิตได้เองโดยหน่วยงานในประเทศ มาดูชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กองทัพภาคที่ 2 ดูแล ได้สรุปสถานการณ์โดยรวม ยังพบความเคลื่อนไหวที่ยังคงกำลังพล, รถยนต์และรถบรรทุกหลายคันเคลื่อนตัวเข้าสู่บางพื้นที่ พร้อมตรวจพบโดรน ของฝ่ายกัมพูชา จำนวน 93 ลำ ปัจจุบันกองกำลังของทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังประจำที่มั่น เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน และการดูแลผู้อพยพ ขณะที่การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายแล้ว 400 หลังคาเรือน จากทั้งหมด 705 หลังคาเรือน พร้อมงดเว้นการเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ประจำเดือน กรกฎาคม ถึง สิงหาคม ในพื้นที่ชายแดนที่ประกาศให้อพยพ ส่วนที่ชาวบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้า หากชำระค่าไฟฟ้าแล้ว กฟภ.จะคืนเงิน โดยนำไปหักจากค่าไฟฟ้าในเดือนถัดไปได้ เรื่องการเยียวยาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงกระทู้ของผู้นำฝ่ายค้าน ว่า การเยียวยาไม่ได้ล่าช้า รัฐบาลทำทันที ตั้งแต่การเกิดเหตุความขัดแย้ง แต่ยอมรับระบบราชการมีความล่าช้าในระเบียบ ดังนั้นต้องขอความร่วมมือในสภาฯให้ช่วยแก้ไข เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : https://news.ch7.com #ข่าวภาคค่ำ #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero