ลองของแปลก! ทดสอบ KIA SORENTO PHEV

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

Kia Sorento รถอเนกประสงค์ 3 แถว ทรง SUV ไซล์กลาง ชุดส่งกำลังปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) สำหรับรถทดสอบรุ่นปี 2024 มีการปรับปรุงที่ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งาน ส่วนคู่แข่งของ Sorento PHEV ในตลาดรถต่างประเทศได้แก่ Toyota Grand Highlander, Mazda CX-90 , Honda CR-V และ Mitsubishi Outlander

KIA Sorento PHEV ราคา 2,099,000 บาท

รับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรี 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

รับประกัน High-Voltage Battery 8 ปี หรือ 160,000 กม.

ข้อเสนอพิเศษเดือนสิงหาคม 2568
อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99%

ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี

รับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี

บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. 7 ปี

รับประกัน High-voltage battery นาน 8 ปี

Sorento PHEV เป็นรถเฉพาะกลุ่มที่มีข้อดียกเว้นราคาที่โดนภาษีนำเข้าไปเต็มๆ แม้จะเป็นรถปลั๊กอินที่ได้รับการลดหย่อนอัตราภาษีนำเข้าแต่ก็ยังแพงอยู่ดี Sorento PHEV เป็นรถ SUV ที่มีรูปลักษณ์ค่อนข้างเฉียบคม ภายนอกล้ำสมัย ห้องโดยสารกว้างขวาง มีสไตล์เป็นเอกเทศแตกต่างจากรถยนต์คู่แข่ง แม้ว่า Sorento จะเป็นรถ SUV 3 แถว แต่รุ่น PHEV มีที่นั่งเพียง 6 ที่นั่งและแถวที่สามค่อนข้างคับแค แต่ฟังก์ชันการใช้งานสำหรับครอบครัวก็ถูกบรรจุอยู่ในรถรุ่นนี้อย่างครบครัน โดยเฉพาะความสะดวกสบายและพลังในการเร่งความเร็วเพื่อแซง Sorento PHEV มีพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มขึ้นเมื่อพับเบาะแถวที่สาม

รูปร่างหน้าตา แน่นอนว่าต่างจากทั้งยุโรป ญี่ปุ่นและจีน KIA Sorento PHEV เป็นรถที่แบรนด์เกาหลีส่งขายไปทั่วโลกหลายสิบประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ KIA ต้องต่อสู้กับเจ้าตลาดและแบรนด์รถยนต์จีนที่กำลังดันผลิตภัณฑ์ PHEV ด้วยราคาที่น่าตกใจ เนื่องจากเป็นรถสันดาปภายใน หน้ากระจังของ KIA Sorento PHEV จึงมีขนาดใหญ่ครอบทับส่วนหน้าของรถเกือบทั้งหมดพร้อมช่องกระจังพลาสติกสีดำเงาที่ดูดี ดีไซน์ของ KIA สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง สไตล์ที่โดดเด่นเทียบชั้นกับแบรนด์หรูบางรุ่นได้อีกด้วย ฝากระโปรงหน้าของ Sorento มีเส้นนำสายตา เสริมด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟท้ายแนวตั้ง และเส้นสายด้านข้างคมชัด ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Kia Telluride SUV ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ Sorento ยังมีไฟหน้าโปรเจคเตอร์ LED เรียงซ้อนกันที่คล้ายกับ Kia EV9 และไฟส่องสว่ากลางวันแบบ Star Map บางเฉียบที่ยึดโยงกับส่วนหน้ารถ

ขอบกระจังหน้าด้านบนมีเส้นโครเมียมคาดยาวเพิ่มความคมเข้ม ไฟหน้า ไฟหรี่กลางวัน ไฟเลี้ยว อยู่รวมกันภายในกรอบไฟหน้าแบบสามเลนส์ กันชนกหน้าบริเวณด้านล่างก็นยังมีช่องรับอากาศเข้าไประบายความร้อนให้กับแผงหม้อน้ำและคูลเลอร์หล่อเย็นของระบบต่างๆ ฝากระโปรงดึงเส้นนำสายตาเชื่อมโยงกับหน้ากระจังซึ่งเป็นการออกแบบในยุคใหม่ที่ส่วนหน้าของรถจะต้องเชื่อมโยงต่อเนื่องกันทั้งหมด

ด้านข้างตัวถังมีองศาของเสาหน้าที่ค่อนข้างลาดเอียงเพื่อลดแรงเสียดทานอากาศเพื่อประหยัดพลังงาน กระจกมองข้างกรอบสีเดียวกับตัวถังและมีเลนส์ไฟเลี้ยว LED อยู่ภายใน บานประตูหลังขนาดใหญ่ ออกแบบให้เปิดพื้นที่การเข้าออกจากห้องโดยสารของเบาะหลังทั้งสี่ตำแหน่งได้ง่ายขึ้น ชิ้นงานโครเมียมสีเงินล้อมกรอบกระจกบานประตู แรคหลังคาสีเงิน ล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้ว ห่อรัดด้วยยาง goodyear eagle f1 SUV ขนาดยาง 235/55R19 105V

บั้นท้ายออกแบบในสไตล์ที่แตกต่างและก็เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าจีนบางแบรนด์ที่ใช้ดีไซน์ไฟท้ายแนวตั้ง ฝาท้ายไฟฟ้ามาพร้อมเซนเซอร์ ขอบล่างของฝาท้าย แปะชื่อรุ่น Sorent อย่างชัดเจน ตามด้วยตัวอักษร AWD ขับเคลื่อนสี่ล้อและ ECO Plug in ไฟเบรกดวงที่สามอยู่ในกรอบของสปอยเลอร์หลัง รวมถึงการออกแบบใบปัดน้ำฝนด้านหลังที่ซ่อนอยู่ในสปอยเลอร์หลังอย่างแนบเนียน เป็นอีกจุดที่ทำออกมาได้ดี

มิติตัวถัง ยาว 4,810 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,700 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,815 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,651 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,661 มิลลิเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 174 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,970 กิโลกรัม

Sorento PHEV ขับได้สบาย มีการควบคุมและเสถียรภาพที่สมดุลด้วยชุดแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักพอสมควรซึ่งถูกจัดวางเพื่อการกระจายน้ำหนัก ความสามารถในการวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียวๆ ได้มากกว่า 55-60 กิโลเมตร ถือเป็นจุดเด่นหลัก กำลังในรูปแบบของแรงบิดเพียงพอต่อการใช้งาน เบรกก็ให้ความรู้สึกสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นส่วนที่รถปลั๊กอินไฮบริดบางรุ่นทำได้ไม่ดีเท่า แน่นอนว่ารถ SUV ของคู่แข่งที่มีขนาดใกล้เคียงกันนั้นทำยอดขายได้มากกว่า แต่น้องใหม่อย่าง Sorento PHEV นำเสนอคุณลักษณะที่ผสมผสานการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างน่าสนใจ Sorento มีเส้นสายการออกแบบภายนอกที่โดดเด่นและภายในที่ปรับปรุงใหม่พร้อมเทคโนโลยีขั้นสูง

เครื่องยนต์เบนซินผสานระบบ Plug-in Hybrid Smartstream ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กำลังรวมสูงสุด 265 แรงม้า ระบบส่งกำลังแบบไฮบริดปลั๊กอินของ Sorento ผสมผสานเครื่องยนต์ I-4 เทอร์โบชาร์จขนาด 1.6 ลิตรเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 66.9 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่ 13.8 kWh ทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์สร้างกำลังได้ 265 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร (253 ปอนด์-ฟุต) เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด จะกระจายกำลังแรงบิดไปยังระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Sorento PHEV เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 8.7 วินาที

ระยะทาง การชาร์จไฟ และ MPG ของ Sorento PHEV
จุดประสงค์หลักของการซื้อ Sorento PHEV ก็คือ ความสามารถในการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนไกล 55-66 กิโลเมตร เมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม แบตเตอรี่สามารถชาร์จใหม่และต้องใช้เวลาราว 3.5 ชั่วโมง จึงจะชาร์จจนเต็ม เมื่อใช้งานในโหมดไฮบริด Sorento PHEV จะประหยัดน้ำมันได้ประมาณ 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อขับใช้งานในเมืองและบนไฮเวย์ข้ามจังหวัด

ฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับ + ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันรวมอยู่ใน Sorento PHEV เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบป้องกันการชนที่ทางแยก ระบบแจ้งเตือนการจราจรข้ามเลนทั้งด้านข้างและด้านหลัง ระบบยกไฟสูงอัตโนมัติ ระบบตรวจจับจุดบอด ระบบช่วยรักษาช่องทางจราจร และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

ภายในห้องโดยสารที่ค่อนข้างแปลกตาจากแนวทางการออกแบบของรถยนต์จากเกาหลีที่มีสไตล์เป็นของตัวเองโดยไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร Sorento PHEV มาพร้อมความละลานตา ด้วยมาตรวัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.3 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay, Android Auto พร้อมระบบนำทางในตัว แท่นชาร์จไร้สาย พอร์ต USB สำหรับผู้โดยสารทุกตำแหน่ง พอร์ตชาร์จ USB สองพอร์ตที่ด้านข้างของเบาะนั่งแถวที่ 1 และพอร์ตชาร์จที่ 3 รองรับผู้โดยสารแถวที่ 3 ระบบเสียงพรีเมียมจาก Bose ติดตั้งลำโพงคุณภาพสูง 12 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร

จอแสดงผลบนแผงหน้าปัดขนาด 12.3 นิ้ว ความคมชัดสูง ระบบตรวจสอบจุดบอดและจอภาพรอบทิศทางก็ใช้งานได้ดี ระบบเตือนการชนจุดบอดพร้อมฟังก์ชันช่วยออกรถแบบขนานที่คอยแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งสวนมาขณะถอยออกจากช่องจอดรถก็ช่วยทำให้ใชังานได้ปลอดภัยขึ้น สำหรับอุปกรณ์เพื่อความผ่อนคลายยามเดินทางไกล PHEV ของ KIA รุ่นนี้มาพร้อมระบบเสียง Bose ลำโพง 12 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร ระบบช่วยบังคับเลี้ยวแบบหลบหลีกที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเตือนการชนด้านหน้า ช่วยเสริมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ที่เชื่อมต่อกับระบบนำทางพร้อมระบบช่วยควบคุมเลน

เบาะผู้โดยสารแถวกลางมีที่วางแขนตรงกลางแบบพับได้ พร้อมที่วางแก้วน้ำเพิ่มเติมบนแผงประตู ที่เก็บของเพิ่มเติม แถวสองไม่มีระบบปรับอากาศ แต่มีช่องระบายอากาศแบบปรับทิศทางได้ จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX ที่เบาะนั่งริมหน้าต่าง มีจุดยึดสายรัดด้านบนอีกสามจุดด้านหลัง เบาะแถวสามแค่พอใช้ได้ แต่อาจไม่มีพื้นที่มากเท่าที่ควร (ถ้าต้องการพื้นที่เยอะๆ Kia Carnival ตอบโจทย์มากกว่า เบาะหลังแถวสาม เหมาะสำหรับเด็กเล็กหรือเบาะนั่งฉุกเฉิน เบาะแถวสองสามารถพับเก็บแบบ One-Touch ได้ เพื่อเปิดพื้นที่ เข้า-ออก จากเบาะแถวสาม

ส่วนพื้นที่เหนือศีรษะของเบาะแถวที่สามนั้น อย่างที่บอกว่าค่อนข้างคับแคบสำหรับผู้ใหญ่ เบาะนั่งแบบแบนราบทำให้รู้สึกอึดอัด แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบรถ 6-7 ที่นั่ง และเดินทางไกลพร้อมเด็กหลายคนบนรถ จุดยึด ISOFIX เพิ่มเติมอีกสองจุด และจุดยึดด้านบนอีกสองจุดสำหรับแถวหลังสุดนั้นเหมาะกับครอบครัวขนาดกลางที่มีเด็กเล็ก สำหรับพื้นที่เก็บสัมภาระ ขนาด 187 ลิตร ด้านหลังเบาะนั่งแถวที่ 3 เพียงพอสำหรับกระเป๋าเดินทางหรือถุงกอล์ฟ 2 ใบ เมื่อพับเบาะแถวที่ 2 สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ 2,056 ลิตร (รุ่น 6 ที่นั่ง เมื่อพับแถวที่ 2 และแถวที่ 3 เพื่อขยายพื้นที่บรรทุกสัมภาระ)

KIA Sorento PHEV ที่ผมขับทดสอบ (ราคาเริ่มต้น 2 ล้าน) มีไฟท้าย LED กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมระบบทำความร้อนและไฟเลี้ยว LED เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง, แผ่นกันรอยประตูอะลูมิเนียมและแป้นเหยียบแบบสปอร์ต, เบาะหนังลายนูนแบบเจาะรู, เบาะนั่งแถวที่สองพร้อมระบบทำความร้อน/เย็น, พวงมาลัยหุ้มหนัง, ไฟ LED ภายในห้องโดยสาร, ตกแต่งภายในด้วยวัสดุโลหะ, ซันรูฟแบบพาโนรามาพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า, ม่านบังแดดหน้าต่างแถวที่สอง และเบาะนั่งคู่หน้าแบบมีช่องระบายอากาศ มาตรวัดดิจิทัล ระบบตรวจจับจุดบอดที่ใช้กล้องรุ่นใหม่ ซันรูฟแบบพาโนรามา

สมรรถนะของ KIA Sorento PHEV โหมด Sport และ Eco จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน รวมถึงการใช้พลังไฟจากแบตเตอรี่หมดเร็วแน่ๆ หากเพลินในโหมดสูงสุด ขณะที่โหมด Smart ให้ความสมดุลระหว่างสมรรถนะของทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์ หรือเลือกใช้โหมด EV อย่างเดียวได้จนกว่าแบตเตอรี่จะหมดที่ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร หรือใช้โหมดผสมผสานไฮบริดเพื่อประหยัดเชื้อเพลิง ข้อดีอย่างหนึ่งของ Sorento PHEV เหนือคู่แข่งคือ มันใช้ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แทนที่จะเป็นระบบเกียร์ CVT ที่ออกแนวย้วยๆ น่ารำคาญ เกียร์ 6 สปีด เรียงอัตราทดมาให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล การควบคุมรถไม่ว่าจะเป็นในเมือง หรือบนทางหลวงข้ามจังหวัดเมื่อถนนเต็มไปด้วยโค้ง ถือว่าทำออกมาได้ดีสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่น้ำหนักเฉียดๆ 2 ตัน

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ขนาด 1.6 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่รวมอยู่ในระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD เครื่องยนต์เบนซิน กำลังสูงสุด 179 แรงม้า 132 กิโลวัตต์ ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร ที่ 1,500-4,500 รอบต่อนาที มอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งในระบบเกียร์ ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า หรือ 67 กิโลวัตต์ (2,100-3,300 รอบต่อนาที) แรงบิดสูงสุด 304 นิวตันเมตร (0-2,100 รอบต่อนาที) ทำให้มีกำลังรวมสูงสุด 195 กิโลวัตต์ หรือ 265 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร มากเกินพอสำหรับการใช้งานปกติทั่วไป ใต้เบาะแถวที่สอง เป็นที่อยู่ของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนโพลิเมอร์ ขนาด 14 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถชาร์จผ่านระบบไฟ AC แบบเฟสเดียว ด้วยอัตราการชาร์จสูงสุด 3.3 กิโลวัตต์ การชาร์จจาก 15 ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ผ่านพอร์ตชาร์จ Type 2 ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง กับอีก 25 นาที สำหรับการวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ที่ Kia เคลมว่าสามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลถึง 68 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ขับจริงวิ่งไม่ย่อง อยู่ที่ 55 กิโลเมตร อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 14 กิโลเมตรต่อลิตร ในโหมดไฮบริด ใช้น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วเกรดพรีเมียม 95RON

น้ำหนักแบตเตอรี่ 140 กิโลกรัม ทำให้น้ำหนักรวมของ Sorento คันนี้อยู่ที่ 2,052 กิโลกรัม (เอกสารสเปคแจ้งว่าหนัก 1970 กิโลกรัม) แต่ไม่ได้สร้างปัญหาในการควบคุมโดยเฉพาะเส้นทางภูเขา ระบบขับเคลื่อนสองพลังงาน ผสานการทำงานได้ดี ไม่มีรอยต่อหรืออาการกระตุก เกียร์ 6 สปีดก็ดี อัตราทดเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์อาจสู้เกียร์ 8-9 สปีดไม่ได้ แต่ให้ฟิลลิ่งในการส่งกำลังดีกว่าเกียร์ CVT เกียร์ 1 ออกตัวใช้ได้ ส่วนเกียร์ 3-4 ใช้เร่งแซงได้ดี แรงบิด 350 นิวตันเมตร จากเครื่องและมอเตอร์ กับตีนต้น 0-100 ใน 8 วินาที ถือว่าพอใช้ได้เพราะตัวไม่ใช่เล็กๆ จุดที่ทำได้ดีเหมือน Hyundai ก็คือ ช่วงล่างและพวงมาลัยไฟฟ้า โช้คสปริงของรถแนวครอบครัวจากเกาหลีแบรนด์นี้ เน้นนุ่มนั่งสบายซิ่งได้ในบางจังหวะที่ต้องรีบ ช่วงล่างหลัง ขับคนเดียวแบบปราศจากน้ำหนักบรรทุก ให้ความรู้สึกแข็งไปนิด ยาง Goodyear F1 SUV ยึดเกาะได้ดี โดยเฉพาะการมุดเข้าออกโค้งบนเส้นทางภูเขาที่ไม่ได้สูงชันอะไร รองรับการขับในสภาวะฝนตกถนนลื่นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่ การถ่ายเทน้ำหนักของรถกึ่งครอสโอเวอร์/เอสยูวี ควรใช้ความเร็วที่เหมาะสมในการเข้าโค้ง เพระรูปแบบของรถและน้ำหนักที่มากกว่ารถเล็กทั่วไป แต่สภาพการขับขี่ทางไกลโดยรวม ถือว่าใช้ได้สอบผ่านแบบไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก

เมื่อขับเร็ว Sorento ปลั๊กอินไฮบริด ปกปิดน้ำหนักบนทางโค้งได้ดี ความสะดวกสบายในการขับอยู่ในระดับที่ดี ความนุ่มนวลของรถก็สอดคล้องกับระบบส่งกำลังไฟฟ้า+เครื่อง ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างผ่อนคลาย ระบบ regenerative ช่วยชาร์จพลังงานกลับคืนไปยังแบตเตอรี่ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร การใส่แบตเตอรี่และอุปกรณ์เยอะมาก ทำให้กินพื้นที่ไปบ้าง และพื้นที่ที่หายไปในการทำตัวเป็นรถเบาะสามแถวก็คือ ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ แต่ถ้าพับเบาะและไปกันแค่ 4 คนก็พอจะมีพื้นที่เก็บกระเป๋าเดินทางได้อย่างสบายๆ

รถปลั๊กอินแบบเข้ามาเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ (แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง) ถ้าใช้รถไม่เยอะ แค่วันละ 50 กิโลเมตร ก็จะประหยัดเงินได้มากเมื่อขยันชาร์จไฟ มันไม่ใช่รถครอบครัวที่สามารถตอบโจทย์ทุกคนได้ แต่ก็ดีพอที่จะใช้ขับทางไกล ทุกวันนี้ การมีคู่แข่ง PHEV จากจีนเป็นเรื่องที่ทำให้แบรนด์เกาหลีเหนื่อยไม่น้อย Sorento ยังคงเป็นรถที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้เข้าไปสู้รบกันอย่างดุเดือดในกลุ่มนี้ ถ้าชอบรถคันใหญ่ มีปลั๊กข้างที่จอดรถในบ้าน และมีสมาชิก 6 คน การมี Sorento ปลั๊กอินไฮบริด น่าจะเหมาะสมดีละครับอยู่ที่ยอมจ่ายสองล้านเพื่อแลกกับรถเกาหลีหรือเปล่า เท่านั้นเอง.

Kia Sorento PHEV ราคา 2,099,000 บาท

เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบแถวเรียง เทอร์โบ
ความจุกระบอกสูบ 1598 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชัก 75.6 x 89.0 มม
กำลังสูงสุด 265 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,500-4,500 รอบต่อนาที
อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 47 ลิตร
มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous
แบตเตอรี่ไฮบริด ลิเธียม-ไอออน โพลีเมอร์
ระบบเกียร์ 6 จังหวะ Shift By Wire
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All Wheel Drive
ระบบช่วงล่าง หน้า McPherson Strut
ระบบช่วงล่าง หลัง Multi-Link
ระบบเบรก หน้า / หลัง ดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
ล้อ อัลลอย 19 นิ้ว
ขนาดยาง 235/55R19
มิติตัวถัง (กว้าง xยาว xสูง) 1,900 x 4,810 x 1,700 (มม)
ความยาวฐานล้อ 2,815 (มม)
ความกว้างช่วงล้อ (หน้า / หลัง) 1,651 / 1,661 (มม)
ระยะ Overhang (หน้า / หลัง) 930 / 1,065 (มม)
ระยะต่ำสุดจากพื้น 174 (มม)

ไฟหน้าแบบ LED
ระบบไฟหน้าทำงานอัตโนมัติ (Auto light)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist)
ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED
ราวหลังคาซันรูฟแบบ Panoramic
กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
กระจกไฟฟ้าทุกบานเลื่อนขึ้น-ลงแบบ One Touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
กระจกประตูหลังแบบ Privacy
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor)
ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (เปิด-ปิดอัตโนมัติ) ด้วยระบบ Smart Tailgate

หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Digital Supervision ขนาด 12.3 นิ้ว

หน้าจอแสดงผลระบบภาพและเสียงขนาด 10.25 นิ้ว
ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (HUD)
แป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ที่พวงมาลัย
แป้นเปลี่ยนเกียร์แบบ Dial Type
โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ Eco Sport Smart
เบาะหนังเบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับด้วยไฟฟ้า
ส่วนหนุนหลังผู้ขับขี่แบบปรับด้วยไฟฟ้า
เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า
ระบบระบายอากาศและทำความร้อนสำหรับเบาะผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า
ระบบอุ่นพวงมาลัย

เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สอง
ปุ่มสั่งงานพับพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่สองจากระยะไกล
ไฟส่องสว่างบนคอนโซลเหนือศรีษะ
ไฟส่องสว่างสว่างส่วนเก็บสัมภาระ
ไฟเรืองแสงบริเวณคอนโซลและแผงประตูหน้าปรับได้ 7 สี
แป้นคันเร่งและเบรกตกแต่งด้วยโลหะ
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ (แบบแยกโซน)
ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวที่สองและสาม
ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่สามแบบแยกส่วน
ระบบสั่งการเครื่องปรับอากาศจากกุญแจรีโมท
ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth)
ระบบสั่งการด้วยเสียง (เชื่อมต่อผ่าน AppleCarPlay® /Android Auto™)
ลำโพง 6 จุดลำโพงจาก Bose® รอบคัน 12 จุด
USB ชาร์จเจอร์ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)

ระบบความปลอดภัย
ระบบเบรก ABS และระบบควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว ESC
ระบบความคุมแรงเบรกขณะลงทางลาดชัน DBC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
ระบบช่วยรักษาสเถียรภาพการทรงตัวในกรณีลากจูง TSA (TRAILER STABILITY ASSIST)
เบรกมือแบบไฟฟ้า (EPB) พร้อมระบบ Auto Brake Hold
ระบบรักษาความสูงท้ายรถอัตโนมัติ (Self-levelizer)
ระบบป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง (Child Lock)
ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้างม่านถุงลมนิรภัย
ถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าผู้ขับขี่
เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด ELR ปรับระดับสูง - ต่ำ
เข็มขัดนิรภัยแถวที่ 2 แบบ 3 จุด ELR
เข็มขัดนิรภัยแถวที่ 3 แบบ 3 จุด ELRISO FIX สำหรับเบาะแถวที่ 2 และแถวที่ 3
ระบบแจ้งเตือนมีผู้โดยสารอยู่ด้านหลัง (Rear Occupant Alert)
เซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านหน้า และ ถอยจอดด้านหลัง (Parking Distance Warning)
กล้องมองหลัง (Rear View Monitor)
กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor)

ระบบความปลอดภัยขั้นสูง
ระบบรักษาความเร็วคงที่อัตโนมัติแบบแปรฝัน (Smart Cruise Control, Stop & Go)
ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Collision Avoidance Assist)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างและหลีกเลี่ยงการชน (Blind Spot Collision Avoidance Assist)
ระบบแจ้งเตือนและหลีกลี่ยงการชนขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Collision Avoidance)
ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Following Assist และ Lane Keeping Assist)
ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ Blind-Spot View Monitor (BVM)

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcomhttps://
www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ลองของแปลก! ทดสอบ KIA SORENTO PHEV