"รมว.กลาโหมสวีเดน"ย้ำ ไทยมีสิทธิใช้ "Gripen" ป้องปราม-ป้องกันตนเอง ชี้เป็นยุทโธปกรณ์ชั้นยอด
วันที่ 26 สิงหาคม 2568 นาย พอล จอนส์สัน (Pål Jonson) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังจากที่ กองทัพอากาศไทย ลงนามในสัญญาจัดซื้อ เครื่องบินขับไล่ Gripen E/F รุ่นใหม่ โดยยืนยันว่า ไทยมีสิทธิในการใช้เครื่องบินขับไล่ Gripen เพื่อ การป้องปราม (Deterrence) และ การป้องกันตนเอง (Self-Defense) ภายใต้กรอบของ กฎหมายระหว่างประเทศ
นายจอนส์สันระบุว่า บริษัท SAAB จะดำเนินการ รีลีสระบบ Tactical Data Link (TDL) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลแบบ Network Centric Warfare ครอบคลุมการประสานงานระหว่างเหล่าทัพ พร้อมทั้งให้สิทธิ์ด้าน ลิขสิทธิ์ทางปัญญา (Intellectual Property Rights) และเชื่อมต่อระบบไปยัง SAAB 340 AEW รวมถึงสนับสนุนทุนการศึกษาในเฟสแรกจำนวน 9 ทุน ครอบคลุมหลายสาขา โดยเฉพาะด้าน กิจการอวกาศ
สำหรับการปฏิบัติการของ Gripen ในภารกิจด้านความมั่นคงบริเวณ ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ผ่านมา นายจอนส์สันย้ำว่า Gripen แสดงศักยภาพสูงทั้งในด้านการ ป้องปราม และ ป้องกัน โดยเฉพาะความแม่นยำในการปฏิบัติการที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดเครื่องบินขับไล่ประเทศอื่น ๆ ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ SAAB ว่าได้ส่งมอบยุทโธปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงให้กับลูกค้า
รมว.กลาโหมสวีเดนกล่าวเพิ่มเติมว่า การเลือกซื้อ Gripen E/F ของไทยเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสวีเดน และสะท้อนว่า ไทยถือเป็นหนึ่งในลูกค้าที่ดีที่สุดของ SAAB ในการทำธุรกิจต่อเนื่องในอนาคต พร้อมขอบคุณไทยที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของสวีเดน
นอกจากนี้ นายจอนส์สันยังแสดงความหวังว่า ไทยและกัมพูชา จะร่วมมือกันหาทาง ลดความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดยใช้กลไกของ คณะผู้สังเกตการณ์ และ คณะมอนิเตอร์สถานการณ์ของอาเซียน เพื่อคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้งสองประเทศ