ต่างชาติยังมั่นใจไทย 7 เดือนแรกปี 68 เงินลงทุนพุ่ง 1.6 แสนล้านบาท
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 22.00 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทนนทบุรี 26 ส.ค. – กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย การลงทุนของต่างชาติใน 7 เดือนแรกของปี 2568 ยังเติบโต สะท้อนความเชื่อมั่นในไทย เงินลงทุนต่างชาติสูงถึง 1.6 แสนล้านบาท แม้เผชิญความท้าทายจากปัญหาชายแดน-ภาษีทรัมป์
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ตลอด 7 เดือนแรกปี 2568 (มกราคม – กรกฎาคม) ประเทศไทยยังคงดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติอย่างต่อเนื่อง รวมมูลค่ากว่า 159,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 75% จากช่วงเดียวกันของปี 2567 แม้จะเผชิญแรงกดดันจาก ความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา และ มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ (“Trump Tariff”) ทั้งนี้ 7 เดือนแรกปี 2568 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุน 583 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 123 ราย (27%)
ญี่ปุ่น ยังคงครองแชมป์ด้วยเม็ดเงินลงทุน 69,817 ล้านบาท (112 ราย) ในธุรกิจหลัก ได้แก่
- การค้าระหว่างประเทศ
- ศูนย์กระจายสินค้าทันสมัย
- พัฒนาซอฟต์แวร์
- รับจ้างผลิตพลาสติกคอมพาวด์ อุปกรณ์เกษตร และชิ้นส่วนยานยนต์
ตามมาด้วย สหรัฐอเมริกา (3,238 ล้านบาท / 85 ราย), สิงคโปร์ (22,872 ล้านบาท / 74 ราย), จีน (20,029 ล้านบาท / 73 ราย) และ ฮ่องกง (11,467 ล้านบาท / 64 ราย)
นางอรมนระบุว่า พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังคงเป็นจุดดึงดูดสำคัญ โดยมีนักลงทุนต่างชาติ 176 ราย เพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อน คิดเป็น 46% ของเม็ดเงินลงทุนทั้งหมด หรือกว่า 73,186 ล้านบาท
ประเทศที่ลงทุนใน EEC มากที่สุด ได้แก่:
ญี่ปุ่น 26,937 ล้านบาท (44 ราย)
จีน 14,442 ล้านบาท (43 ราย)
ฮ่องกง 5,264 ล้านบาท (18 ราย)
ประเทศอื่น ๆ 26,543 ล้านบาท (71 ราย)
ธุรกิจหลักที่ลงทุนใน EEC ได้แก่:
- โครงการออกแบบและติดตั้งระบบท่าเทียบเรือ LNG
- ศูนย์ข้อมูล Data Center
- วิศวกรรมออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์
- ผลิตภัณฑ์เคมีและอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง
ในเดือนกรกฎาคม 2568 เพียงเดือนเดียว มีนักลงทุนต่างชาติ 81 ราย เข้ามาลงทุนในไทย มูลค่ารวม 47,954 ล้านบาท ส่วนใหญ่จาก ญี่ปุ่น, ฮ่องกง และ สหรัฐอเมริกา โดยธุรกิจหลักที่ลงทุนคือ:
- การค้าระหว่างประเทศ
- ขุดเจาะปิโตรเลียม
- พัฒนา Enterprise Software
- รับจ้างผลิตโลหะและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์
นางอรมน กล่าวว่า แม้ไทยจะเผชิญปัจจัยท้าทายจาก สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่ยังมีความตึงเครียด รวมถึงก่อนหน้านี้มีแรงกดดันจากมาตรการภาษีทรัมป์ (Trump Tariff) ของสหรัฐฯ แต่นักลงทุนต่างชาติยังคงมองเห็น ศักยภาพโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบกับภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายมาตรการ
นอกจากนี้ การลงทุนยังสร้างการจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย 7 เดือนแรกปี 2568 มีการจ้างงาน 4,085 คน เพิ่มขึ้น 90% จากปีก่อน.-512-สำนักข่าวไทย