3 บิ๊กแคปฯ โชว์กำไร Q2 สวย พบ GULF - THAI - SCC รับรู้กำไรพิเศษเพียบ!
ตลาดหุ้นไทย ไตรมาส 2/68 กำไรสุทธิเติบโต 31% แต่ถ้าไม่รวม GULF และ THAI ที่มีกำไรพิเศษก้อนใหญ่ จะอยู่ที่ 2.63 แสนล้านบาท เติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ตลาดหุ้นไทย กำไรหลักในไตรมาส 2/68 ขยายตัวจำกัด แต่กำไรสุทธิเติบโต 31%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 16% จากไตรมาสก่อน เป็น 3.4 แสนล้านบาท แต่ถ้าไม่รวม GULF และ THAI ที่มีกำไรพิเศษก้อนใหญ่ จะอยู่ที่ 2.63 แสนล้านบาท เติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 4% จากไตรมาสก่อน
บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/68 มีกำไรสุทธิ 63,871 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,043% เทียบงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,585 ล้านบาท เนื่องจากมีกำไรจากการรวมธุรกิจจำนวน 56,120 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการควบรวมระหว่าง GULFI และ INTUCH นอกจากนี้ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่กระทบบริษัทใหญ่และกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากตราสารอนุพันธ์รวม 651 ล้านบาท
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าผลการดําเนินงานไตรมาส 2/68 มีกําไรสำหรับงวดอยู่ที่ 17,337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 368% ซึ่งรวมรายการพิเศษ 15,170 ล้านบาท โดยกำไรพิเศษ ได้แก่ กำไรจากการปรับโครงสร้างที่เกี่ยวกับ PT Chandra Asri Pacific Tbk. (CAP) รวม 16,712 ล้านบาท แต่บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายจากการปรับโครงสร้างการดำเนินงานและธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวม -1,542 ล้านบาท
โดยกําไรสำหรับงวดที่ไม่รวมรายการพิเศษสําหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2568 อยู่ที่ 2,167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% จากไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยผลการดําเนินงานที่ดีขึ้นในไตรมาสนี้ เป็นผลจากเงินปันผลรับตามฤดูกาลจาก การลงทุนในธุรกิจอื่น (SCG Investment) ผลการดําเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจซีเมนต์ แอนด์กรีนโซลูชันส์ รวมถึง ธุรกิจแพคเกจจิ้ง
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ประเมินว่าบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) THAI มีกำไรเติบโตจากกำไรพิเศษและต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง
THAI รายงานกำไรสุทธิใน 2Q25 ที่ 1.212 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3,860% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 23% จากไตรมสก่อน ) กำไรที่เพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากรายการพิเศษและผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น รายการพิเศษประกอบด้วยกำไร 4.98 พันล้านบาทจากการแปลงสัญญาเช่าซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER จำนวน 4 ลำ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1.19 พันล้านบาท และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ 746 ล้านบาท
หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักอยู่ที่ 6.78 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 465% จากงวดเดียวกันปีก่อน และลดลง 34% จากไตรมาสก่อน) กำไรที่เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั้งในส่วนของเชื้อเพลิงและส่วนที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงที่ลดลง และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงอย่างมาก การลดลง จากไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากฤดูกาล โดยรวมแล้ว THAI ได้แลกอัตราผลตอบแทนต่อผู้โดยสาร (PX yield) กับ Load Factor ที่สูงขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด เนื่องจากสายการบินเริ่มเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร