“สหรัฐ” จ่อขยายสงบศึกการค้า “จีน” อีก 90 วัน รอทรัมป์ตัดสินใจ
รมว.พาณิชย์ สหรัฐ เผยโอกาสสูงที่จะขยายข้อตกลงภาษี ก่อนเส้นตาย 12 ส.ค. ขณะทรัมป์เตรียมตั้งภาษีใหม่ 15–20% สำหรับประเทศที่เจรจาไม่สำเร็จ
วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 05.58 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายโฮเวิร์ด ลัทนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ข้อตกลงขยายระยะเวลาหยุดยิงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนออกไปอีก 90 วัน มีแนวโน้มสูง โดยระบุว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
“โอกาสที่จะเป็นแบบนั้นมีแน่นอน แต่ให้เป็นหน้าที่ของประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจ” ลัทนิคกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อวันจันทร์ หลังมีรายงานว่าทั้งสองประเทศกำลังพิจารณาขยายข้อตกลงภาษีเดิมที่ใกล้หมดอายุในวันที่ 12 สิงหาคม
โดยถ้อยแถลงของลัทนิคมีขึ้นหลังจากการเปิดฉากเจรจารอบใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยมีนายเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน และนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เป็นหัวหน้าคณะเจรจาของทั้งสองฝ่าย
ก่อนหน้านี้ สหรัฐและจีนเคยบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการลดภาษีตอบโต้ระหว่างกัน รวมถึงผ่อนคลายการควบคุมการส่งออกสินค้าบางประเภท เช่น แร่หายากและเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อบรรเทาความตึงเครียดในตลาดการเงินโลก ขณะที่รัฐบาลทรัมป์เดินหน้าผลักดันนโยบายภาษีขนานใหญ่
ข้อตกลงเดิมมีกำหนดหมดอายุในวันที่ 12 สิงหาคม ทำให้การเจรจารอบล่าสุดมีเป้าหมายเพื่อขยายเวลาและเปิดพื้นที่สำหรับหารือประเด็นที่ยังมีความขัดแย้ง โดยเฉพาะภาษีนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับยาเฟนทานิล และความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนซื้อพลังงานจากรัสเซียและอิหร่านซึ่งอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
ทั้งนี้การเจรจากับจีนมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลทรัมป์กำลังเตรียมบังคับใช้ ภาษีตอบโต้ (reciprocal tariffs) กับประเทศคู่ค้าอีกหลายสิบประเทศทั่วโลก โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม
แม้สหรัฐฯ จะประกาศภาษีดังกล่าวตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ได้ชะลอการใช้จริงเพื่อเปิดช่องให้ประเทศต่าง ๆ เจรจาลดภาษี อย่างไรก็ตาม มีข้อตกลงเพียงไม่กี่ฉบับที่ประสบผลสำเร็จ แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะขยายเส้นตายเดิมจากกลางเดือนกรกฎาคมมาเป็นต้นเดือนสิงหาคม
ลัทนิคเปิดเผยว่าประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มส่งหนังสือแจ้งอัตราภาษีอย่างเป็นทางการไปยังประเทศที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ และจะมีการออกหนังสือเพิ่มเติมไปยังกว่า 150 ประเทศในเร็ว ๆ นี้ โดยอัตราภาษีที่กำลังพิจารณาอยู่ในช่วง 15%–20%
“ท่านประธานาธิบดีมีไพ่ทั้งหมดอยู่ในมือ และเขาจะเป็นผู้กำหนดว่าอัตราภาษีจะเป็นเท่าไหร่ และแต่ละประเทศจะต้องเปิดตลาดให้สหรัฐฯ มากน้อยแค่ไหน” ลัทนิคกล่าว
อ้างอิง : bloomberg.com