โหรดังเตือนแรง เตรียมรับอุบัติภัย เศร้าโศกร้ายแรงรอบใหม่
แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 592 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ เตรียมรับมืออุบัติภัย-เสียหาย-เศร้าโศกร้ายแรงรอบใหม่
ดังที่ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าปี 2568 นี้ เมืองจะเจอกับอุบัติเหตุ หรืออุบัติภัยครั้งใหญ่ระดับเป็นข่าวไปทั่วโลกถึงสี่รอบ
รอบแรกเกิดไปแล้วอย่างคลุมเครือแต่ลือลั่นโครมครามสนั่นเมืองและโลก - น่าอับอายขายหน้า เมื่อแผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนสะกาย เมียนมา เมื่อ 28 มีนาคม 2568 เวลา 13.20 น. แต่ตึก สตง. ไทยที่กำลังก่อสร้างที่กรุงเทพฯ กลับถล่มเหมือนเปื่อยเป็นตม ราบลงเป็นภูเขาเลากา มีคนตายเฉียดร้อย ยังไม่นับที่บาดเจ็บ หลังจากนั้นภัยพิบัตินั้นก็จางไปกับการเก็บกู้และดำเนินคดียาวเหยียด
ต่อไปนี้เป็นวาระรอบสองที่เคยบอกไว้เป็นกรอบกว้าง ๆ ให้เตรียมตัว – เตรียมใจกันไว้คือ ระหว่างประมาณ 29 กรกฎาคม – 23 สิงหาคม 2568 ก่อนหรือหลังประมาณเจ็ดวันนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นโหรแนวจิตนิยม – ไร้หลัก นึกอยากทำนายอะไรก็ทำนาย ผู้เขียนจึงขออนุญาตอ้างปรากฏการณ์ทางโหร (แม้จะเกรงใจท่านที่ไม่มีพื้นฐาน) อันเป็นที่มาของถึงอุบัติภัยรอบใหม่ ดังนี้
ปรากฏการณ์ใหญ่รออยู่ระหว่างกรกฎาคม 2565 – กรกฎาคม 2572 เป็นเวลาประมาณ 7 ปี คือ มฤตยูจร (0) เจ้าของภัยอาเพศ เดินในราศีพฤษภ ทับพระอังคารดวงเดิมดวงเมือง (๓) และยังเป็นดาวประจำชีพ (ตนุลัคน์) ของเมืองด้วย
ดาวคู่นี้เมื่อพบกันคือสื่อล่อคู่อุบัติเหตุใหญ่ที่จะเกิดอย่างอาเพศ หรือเป็นคู่ที่จะก่อความวิบัติให้อย่างฉับพลันทันด่วน บางคราวเหนือจินตนาการ แล้วนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงใหญ่ เช่น ตึกกำลังก่อสร้างกลายเป็นกองเศษหินปูทราย
มฤตยูจร (0) เดินในราศีพฤษภยังทับพระเกตุดวงเดิม (๙) ซึ่งดาวคู่นี้เป็นคู่คลุมเครือ – ไม่ชัดเจน – มึน ๆ งง ๆ เช่น แผ่นดินไหวที่มัณฑะเลย์ แต่ตึก สตง. ที่กรุงเทพฯ กลับถล่ม ฯลฯ
ตัวอย่างปรากฏการณ์มฤตยูเดินในราศีพฤษภที่ล่อเหตุอุบัติใหญ่ผุดขึ้นในเมืองในอดีต เช่น คราวกองทัพญี่ปุ่นบุกไทยเมื่อคราวสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือพันธมิตรเททิ้งระเบิดใส่กรุงเทพเมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่สอง หรือยุทธนาวีที่เกาะช้างของทหารเรือไทยฯลฯ ที่ล้วนเรื่องใหญ่ระดับอภิมหาอาเพศทั้งนั้น
เมื่อเกณฑ์คู่อุบัติเหตุอาเพศใหญ่และคู่คลุมเครือรออยู่ก่อนแล้วดังนี้ ต่อไปนี้รอบนี้ก็มีตัวจุดประกายให้เกิดเหตุการณ์เป็นลำดับ ๆ คือ
เกณฑ์รอผสมโรงระหว่าง 29 กรกฎาคม – 23 สิงหาคม 2568 ในดวงชะตาเมืองเกิดการสมาสัปต์หรือตรึงกันของดาวสองดวง คือ พระเสาร์กับพระอังคาร (พระเสาร์จร 7 เดินในราศีมีนทำมุมพิเศษถึงพระอังคารดวงเดิม ๓ ที่ราศีพฤษภ และพระอังคารจร 3 เดินในราศีกันย์ทำมุมพิเศษถึงพระเสาร์ดวงเดิม ๗ ในราศีธนู)
อาการดาวตรึงกันนี้ในทางโหรแล้ว เหตุการณ์แนวลบจะเกิดแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคู่ใด ไม่ต้องรอดาวอื่นมาจุดชนวน ยกเว้นดาวคู่มิตรตรึงกันจึงจะออกอาการบวก
พระเสาร์กับอังคารนี้ ทางโหรถือเป็นคู่ศัตรู เบาออกแนวคู่อุบัติเหตุ หรือเจ็บตายกะทันหัน จึงมั่นใจได้ก่อนล่วงหน้าเลยว่า ระยะระหว่าง 29 กรกฎาคม – 23 สิงหาคม 2568 (ก่อน – หลังเจ็ดวัน) อุบัติเหตุใหญ่ วินาศสันตะโรใหญ่รอเกิดแน่นอน หนีไม่พ้น
โดยช่องทางเกิดจะเป็นไปได้ทุกทาง ทั้งดิน – น้ำ – ลมหรืออากาศ หรือแก๊ส – ไฟหรือควันหรือระเบิด ที่ผู้เขียนขออ่านสัญญาณทางโหรคลำดูทางในรายละเอียดที่มีโอกาสจะผิดพลาดได้ คือ
ก. การเกิดรอบนี้ยังจะเป็นไปในลักษณะมึนงง คลุมเครือ เหมือนรอบที่แล้วที่แผ่นดินไหวมัณฑะเลย์ แต่ตึก สตง. ที่กรุงเทพฯ ถล่มทั้ง ๆ ที่ห่างจากจุดแผ่นดินไหว 1,100 กิโลเมตร ชนิดที่เห็นครั้งแรกแล้วยังคิดว่าไม่ใช่ตึกในประเทศไทยที่พัง (มฤตยูจร 0 เจ้าของภัยอาเพศทับพระอังคาร ๓ และพระเกตุ ๙ ดวงเดิม)
ข. ให้ระแวงไว้ก่อนว่า การเกิดรอบนี้น่าจะเกิดใกล้น้ำ หรือในน้ำ
ค. ถึงจะเกิดใกล้น้ำหรือในน้ำ แต่เกณฑ์เรื่องไฟ – ความร้อนก็เด่น เสี่ยงต่อการเกิด…ภัยไฟพิษ… (พระอังคารจร 3 ที่ราศีกันย์ถึงพระอาทิตย์ดวงเดิม ๑) ที่ราศีเมษ จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นไฟใกล้น้ำ? หรือเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นลม – แก๊ส? (พระอังคารจร 3 ที่ราศีกันย์เล็งราหู ๘ ดวงเดิมที่ราศีมีน)
ง. ปรากฏการณ์รอบนี้มีโอกาสเกิดกับคนหรือของรักของเมืองที่ต้องเฝ้าระวังให้ดี ตามโฉลก…ของรักอันใดประหยัด พึงระมัดจงดี… (ทักษาจรเมืองตกภูมิอาทิตย์) เช่นในอดีตสะพานพระรามหก สะพานพระพุทธยอดฟ้าฯ เคยถูกทิ้งระเบิด หรือเสียเรือหลวงธนบุรี เรือหลวงสงขลา และเรือหลวงชลบุรี ทหารเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 36 คน คราวยุทธนาวีที่เกาะช้าง ฯลฯ
จ. ปรากฏการณ์รอบนี้น่าจะนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากมาย มีความเศร้าโศกเสียใจไปทั่วเมือง (พระเสาร์ตรึงกับพระศุกร์เป็นคู่ศัตรูใหญ่) ตามโฉลก…อายุบ่ยืนเย็น มฤตภัยจะเร่งเกรง… (พระเสาร์จร 7 ทับพระศุกร์ดวงเดิม ๖) และ
และพระยม (บาล) หมายถึงความตายและการเจ็บหนักแบบต้องรักษาดูแลยืดเยื้อจะเล่นงานในเมือง ตามโฉลก…อุบาทว์พระยม จะย่ำจะยีอาตมา (พระศุกร์จร 6 ที่ราศีเมถุนเล็งพระเสาร์ดวงเดิม ๗ ที่ราศีธนู)
สุดท้าย แม้อยากเป็นโหรที่ทำนายแม่นยิ่งกว่าตาเห็น ผู้เขียนก็อดหวังไม่ได้ว่า คำทำนายนี้ผิดพลาดและคลาดเคลื่อน เหตุร้ายแรงจะไม่เกิดในเมือง
แต่ถ้าหนีไม่พ้น เพราะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ก็มีแต่คาถาแคล้วคลาดของหลวงปู่มั่นบทเดิมมาฝากให้ภาวนาไว้ให้ติดจิต คือ
นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ถ้ากรรมไม่หนักนักก็คงได้แคล้วคลาด
ฟองสนาน จามรจันทร์
11 กรกฎาคม 2568
ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรแสดงถึงอุบัติภัย-เสียหาย-เศร้าโศกร้ายแรงรอบ29กรกฎาคม-23สิงหาคม 2568
มฤตยูจร(0)เดินในราศีพฤษภระหว่างกรกฎาคม2565-กรกฎาคม2572 ทับพระอังคาร(๓)และพระเกตุ(๙)ดวงเดิม
พระเสาร์จร(7)เดินผิดปกติในราศีมีนถึงพระอังคารดวงเดิม(๓)และถึงพระเกตุดวงเดิม(๙)ระหว่าง19พฤษภาคม-23สิงหาคม2568
พระอังคารจร(3)เดินในราศีกันย์ถึงพระเสาร์ดวงเดิม(๗)ในราศีธนู-เล็งพระราหูดวงเดิม(๘)ในราศีมีน-ถึงพระอาทิตย์(๑)ดวงเดิมในราศีเมษระหว่าง29กรกฎาคม-2กันยายน 2568
พระเสาร์จร(7)เดินผิดปกติในราศีมีนทับพระศุกร์ดวงเดิม(๖)ระหว่าง19พฤษภาคม-23สิงหาคม2568
พระศุกร์จร(6)เดินในราศีมิถุนระหว่าง27กรกฎาคม-22สิงหาคม2568เล็งพระเสาร์ดวงเดิม