เปิดเหตุทำไม? ไทยถึงลงทุน ‘อุตสาหกรรมสิ่งทอ’ ที่กัมพูชา มาก
ไทย-กัมพูชา ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกัน แม้ว่าจะมีปัญหาข้อพิพาทเขตแดนทางบกกัน แต่ทั้งสองประเทศก็ต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และปากท้องของประชาชนผ่าน การค้า การลงทุน โดยเฉพาะแรงงานกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยทั้งไปเช้าเย็นกลับ และมาทำงานแบบอาศัยพักพิงในประเทศไทย ในส่วนภาคธุรกิจไทยก็มีการเข้าไปลงทุนยังประเทศกัมพูชามากพอสมควร ในหลากหลายธุรกิจ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอ ที่มีการเข้าไปลงทุนในหลายเมือง
วันนี้ #SPRiNG จะพาสำรวจ และเปิดเหตุผลว่า ทำไม? ไทยถึงลงทุน ‘อุตสาหกรรมสิ่งทอ’ ที่กัมพูชามาก โดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) , สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และ ASEAN Investment Report จัดทำโดย UNCTAD และ ASEAN Secretariat ระบุว่า ไทยเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมสิ่งทอที่กัมพูชาเนื่องจากปัจจัยสำคัญหลายประการ ดังนี้
•ต้นทุนแรงงานต่ำ
โดยกัมพูชามีค่าแรงขั้นต่ำต่ำกว่าไทย ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าสิ่งทอ เช่น เสื้อผ้า ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวดแรงงานในกัมพูชามีจำนวนมาก และพร้อมทำงานในภาคการผลิต
•สิทธิพิเศษทางภาษี
ทั้งนี้กัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า เช่น GSP และ EBA (Everything But Arms) จากสหภาพยุโรป ทำให้สามารถส่งออกสินค้าโดยไม่เสียภาษีนำเข้าไปยังหลายประเทศพัฒนาแล้ว ส่งผลให้สินค้าที่ผลิตในกัมพูชาสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้มากกว่าสินค้าที่ผลิตในไทย
•ใกล้ชิดกับไทย โลจิสติกส์สะดวก
การขนส่งวัตถุดิบจากไทยไปยังกัมพูชาสะดวกและใช้เวลาน้อย ทำให้นักลงทุนไทยสามารถควบคุมและบริหารจัดการโรงงานในกัมพูชาได้ง่าย เพราะอยู่ใกล้ประเทศ
•นโยบายเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติของกัมพูชา
รัฐบาลกัมพูชาส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีสิทธิประโยชน์ เช่น การยกเว้นภาษีนิติบุคคลในช่วงแรก และยังมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZs) ที่อำนวยความสะดวกในการตั้งโรงงาน
•กัมพูชามีประสบการณ์สูงเรื่องอุตสาหกรรมสิ่งทอ
กัมพูชามีประสบการณ์ด้านการผลิตสิ่งทอและเสื้อผ้าเพื่อการส่งออกมานาน โดยมีลูกค้าจากยุโรปและอเมริกา แรงงานมีทักษะในการตัดเย็บและผลิตสินค้าแฟชั่น
อย่างไรก็ตามไทยเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมสิ่งทอในหลายเมืองของกัมพูชา โดยเฉพาะเมืองที่มีศักยภาพด้านแรงงาน ค่าแรงต่ำ และการเชื่อมต่อด้านโลจิสติกส์ที่สะดวก เช่น พนมเปญ (Phnom Penh) ข้อดี คือ มีนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง เช่น Phnom Penh Special Economic Zone (PPSEZ) เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตสิ่งทอจำนวนมากของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงไทย ต่อมา คือ พระตะบอง (Battambang) ข้อดี คือ มีแรงงานจำนวนมากและต้นทุนค่าแรงต่ำ มีโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่เชื่อมโยงกับไทย และ สีหนุวิลล์ (Sihanoukville) เมืองท่าชายฝั่งสำคัญของกัมพูชาเหมาะแก่การผลิตเพื่อการส่งออก นอกจากนี้ยังเป็นเมืองมีโครงสร้างพื้นฐานด้านท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมใหม่
ทั้งนี้โดยรวมมีเม็ดเงินลงทุนไทยเข้าไปลงทุนอุตสาหกรรมสิ่งทอในกัมพูชา มูลค่าการลงทุนไทยในสิ่งทอที่กัมพูชาโดยประมาณในช่วงปี 2565–2568 คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 100–200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,600–7,200 ล้านบาทโดยครอบคลุมกิจการประเภท โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า, ผลิตผ้า, โรงฟอกย้อม ซึ่งเน้น ส่งออกไปยุโรป และสหรัฐฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง