‘เฟย-ท็อป’ เจอดีกลางป่า ทริปหลอนผีหลอก-UFO โผล่!- เคลียร์สัมพันธ์ ‘ก้อย อรัชพร’ แค่เพื่อนซี้!
กลายเป็นสองหนุ่มสุดฮอตลุคแบดๆ ที่ครองใจแฟนๆ สำหรับ "เฟย-ภัทร เอกแสงกุล" และ "ท็อป-ทศพล หมายสุข" ที่ล่าสุดควงคู่มาออกรายการ "คุยแซ่บShow" เผยถึงมิตรภาพความสนิทสนมตั้งแต่สมัยประกวดหนุ่มคลีโอ จนมาแจ้งเกิดอย่างเปรี้ยงปร้างในภาพยนตร์ "4 King ภาค 2" แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความแบด ทั้งคู่คือสายรักธรรมชาติผู้ชื่นชอบการเดินป่า จนต้องเจอเรื่องราวสุดเหลือเชื่อ ทั้งสิ่งลี้ลับกลางป่า และกระทั่ง "UFO"! พร้อมเคลียร์ชัดสถานะ ท็อป กับ "ก้อย อรัชพร" ว่าเป็นจริงแค่ไหน
เฟย เผยว่า “ในเรื่องความสนิทกับท็อป จริงๆ แล้วผมเป็นรุ่นน้องเขา อายุห่างกัน 6 ปี แล้วเฟยเดินป่ามานานแล้ว แล้วรู้สึกว่าไม่ได้กลับไปเดินมานานแล้ว ทำงานในวงการมานาน จนมันไม่มีเวลาไปเจอธรรมชาติ แล้วเราก็เหมือนไปถ่ายรายการด้วยชื่อว่า ปล่อยxไป ซึ่งเสน่ห์ของการเดินป่า มันเป็นการเก็บประสบการณ์ ระหว่างทางที่ไปกับเพื่อน สำหรับเฟยทั้งชีวิตไม่เคยเจอเรื่องลี้ลับ แต่มาเจอในทริปนี้ ทริปทูเล ที่ไปกับท็อป ปกติเราไปตั้งแคมป์ มันก็มีก๊วนอื่นไปตั้งเหมือนกัน แล้วเราขึ้นไปถ่ายรายการด้วย มีดารา เราก็อยากให้ขึ้นไปน้อยๆ สรุปพอไปถึงยอดดอย ไม่มีคนเลย
ผมคงคิดว่าเจ้าป่าเจ้าเขาเขาคงไม่มีตัวเลือกอื่นให้เลือก ก็คงต้องเลือกพวกเรา ซึ่งสิ่งที่เราเจอคือเจอกันที่เต็นท์ เพราะว่าเรานอนแยกกันหมด ซึ่งเรื่องของแต่ละคนที่เจอก็คนละแบบ รูปแบบของการสั่นเต็นท์ เขย่าเต็นท์ ผมโดนเป่าหัว ผมโดนตั้งแต่คืนแรก เป็นลมเป่าอัดกระหม่อม แต่ที่มันลึกลับกว่า คือ UFO เริ่มจากผมยืนมองดาว เพราะตอนนั้นเราอยู่บนดอย ถามว่าเมื่อก่อนเราเชื่อไหม เราก็ปากหมาแซวเล่น แต่ตอนนั้นที่เรามองดาว แล้วก็สะกิดท็อปว่า เฮ้ย…สวยดีว่ะ สักพักก็มีเหมือนแสงไฟ วิ่งแปลกๆ ผมก็ชี้ ยูเอฟโอชัวร์ วิ่งไปแล้วก็หยุด วิ่งไปแล้วก็หยุด เป็นแสงดาวสีขาวๆ และก็หายไปเลย ไม่ใช่ดาวตก ซึ่งมันว้าวตรงที่บินกลับ ซึ่งเห็นประมาณ 6-7 คน รอบนี้เป็นยูเอฟโอ รอบต่อไปก็เป็นผีแล้วไง”
ท็อป เผยว่า “เวลาที่เฟยเรียกว่าพี่ท็อป น้ำตาจะไหล เพราะน้อยมากที่จะเรียก (ยิ้ม) คือเรารู้จักกันมาตั้งแต่อยู่ในกองประกวดหนุ่มคลีโอ แล้วเราสนิทกันตอนเดินป่า เพราะว่าคำว่าป่าห่างไกลจากผมมาก จริงๆ เฟยเป็นคนมาชวน เฟยเป็นคนชอบกิจกรรม ชอบเอ็กซ์เวนเจอร์ ชอบไปทำกิจกรรมกลางแจ้งอะไรแบบนั้น เฟยมันมาถามว่า มีโปรเจกต์อยากไปเดินป่ากับเพื่อน ท็อปก็คิดว่าเราอายุเพิ่มขึ้นทุกวัน ถ้าเราไม่ไปเดินป่าตอนนี้ แล้วเราจะไปตอนไหน แล้วตอนนั้นผมกลับมาออกกำลังกายครั้งแรกแบบจริงจัง ก็เลยไป แล้วตั้งแต่ผมเรียนจบมา ผมก็ทำงานอย่างเดียวเลย เพื่อสร้างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ และการที่จะออกไปนั้นมันคือธรรมชาติ เราเป็นคนเมือง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เขาจะไม่มาหาเรา เราไปเดินธรรมชาติ ไปเห็นสิ่งใหม่ๆ ที่ในเมือง ไม่ได้เจอ มันเป็นการรีเฟรชตัวเอง
ส่วนเรื่องลี้ลับของท็อปก็เจอที่ทูเล ได้ยินเสียงเดิน ตอนแรกก็คิดว่าเป็นหมา เพราะตอนเราเดินขึ้นไป มันก็มีน้องหมาเดินตามมา อีกอย่างเราก็ไม่เคยนอนในที่โล่ง ที่ลมแรง มันเหมือนเสียงเดิน คืนที่สองแล้วเจอตอนที่เรายังไม่ได้นอน รอบกองไฟ ผมได้ยินเสียงเพื่อน เดินหน้าเต็นท์ สรุปผมจะแซว เพราะเปิดหน้าเต็นท์ไม่เห็นใคร ซึ่งทุกคนอยู่รอบกองไฟ
สำหรับความฮอตของเราทั้งคู่ จากการแจ้งเกิดโฟร์คิง 2 คือตอนแรกพวกเขาไปสัมภาษณ์ในรายการ ผมเป็นพิธีกร ผมก็เลยบอกกับทีมงานของเขาไปว่า อยากเล่น ถ้าเขาทำภาค 2 แล้วพอผ่านไปปีหนึ่ง เขาโทรมาถามว่ายังสนใจเล่นหนังไหม และเส้นทางการเป็นนักแสดงของผม อาชีพนี้ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดเหมือนอาชีพอื่น ว่าถ้าทำแบบนี้ จะสำเร็จตามเป้า มันมีหลายองค์ประกอบ มันไม่ใช่แค่เราคนเดียว ทั้งโอกาส จังหวะ และสิ่งที่ทำได้นั้น มันดีไหม และเราทำได้ดีมากพอในวันนั้นไหม ส่วนคำที่เราเคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าวงการบันเทิงมันไม่รุ่ง จะกลับไปทำเกษตร คือไม่ใช้คำว่ากลับไป แต่ใช้คำว่าเริ่มต้น เพราะเรา ก็สนใจในการทำเกษตร และตอนนั้นในเมืองมันวุ่นวาย
นอกจากบทแบดๆ ผมก็อยากเล่นบทที่เป็นคอมเมดี้ อยากเล่นเป็นชีวิตตัวเองจริงๆ อยากเล่นตลก (เฟย: หลังๆ เขาเล่น แต่บทร้ายๆ ร้ายมาก แต่จริงๆ ชีวิตเขาเป็นคนตลก) ตลกมาก จนบางทีเพื่อนก็บอกติดโง่ไปนิดหนึ่ง ส่วนเฟยเขาเป็นคนรักหวาน เป็นคนโรแมนติก
ส่วนเรื่องคู่จิ้น “ก้อย อรัชพร” เอาให้เป็นเพื่อนกันก่อนดีกว่าไหมครับ ถามว่าก้อยคือสเปกไหม นิสัยของก้อยคือสเปก ซึ่งสเปกของผมคือหนึ่งเลยต้องรักครอบครัว สองเป็นคนทำงานเก่ง จริงๆ ก็คือเป็นคนใกล้ๆ กัน แฮงเอาต์กัน”