โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

Google Maps ไร้สถานะในศาล! เหตุใดใช้พิสูจน์ "พรมแดน" ไม่ได้

Thai PBS

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thai PBS
Google Maps เครื่องมือแผนที่ยอดนิยม แม้เป็นตัวช่วยชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ แต่กลับไม่มีอำนาจทางกฎหมาย สำหรับการใช้งานอย่างเป็นทางการ! เจาะลึกเหตุผล พร้อมกรณีตัวอย่างที่ข้อมูลเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในคดีความ

จากประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น กรณีปรากฏในแอปพลิเคชัน Google Maps ว่ามีการย้ายหมุดและแนวเส้นสมมติฐานเขตแดนบริเวณปราสาทตาเมือนธม จากฝั่งประเทศไทยไปอยู่ยังฝั่งกัมพูชา ทำให้เกิดความกังวลในหมู่ประชาชนว่าจะเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อนำไปอ้างอิงฟ้องศาลโลกหรือไม่

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมายืนยันว่า การกำหนดสถานที่และเส้นเขตแดนในแอปพลิเคชัน Google Earth และ Google Maps ไม่มีผลทางกฎหมายใด ๆ ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ เนื่องจากบริษัทใช้ข้อมูลจากภาคเอกชนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการประชาชนทั่วไปใช้ประโยชน์ในการเดินทาง ซึ่งในหลายจุดอาจพบความคลาดเคลื่อนจากสถานที่จริง โดยเฉพาะเส้นสมมติเขตแดน

Google Maps หนึ่งในเครื่องมือแผนที่ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก แม้จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลในการนำทางและค้นหาข้อมูลในชีวิตประจำวัน แต่กลับไม่มีอำนาจทางกฎหมายสำหรับการใช้งานอย่างเป็นทางการ เช่น การพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือการวางแผนที่ดิน ทว่าข้อมูลและภาพจากบริการนี้ก็เคยถูกนำมาใช้และได้รับการยอมรับเป็นหลักฐานในคดีทางกฎหมายบางกรณี

ทำไม ? Google Maps จึงไม่มีอำนาจทางกฎหมาย

แหล่งที่มาและความถูกต้อGoogle Maps ได้รวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายดาวเทียม Street View ผู้ให้บริการข้อมูลบุคคลที่สาม และเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น แม้ว่าข้อมูลจะมีการอัปเดตบ่อยครั้ง และมีความแม่นยำสูงสำหรับการนำทางและการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ก็อาจไม่สอดคล้องกับบันทึกทางการเสมอไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือในพื้นที่ชนบทและห่างไกล

ในขณะที่ แผนที่ของรัฐบาลมักสร้างขึ้นจากข้อมูลที่รวบรวมโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น การสำรวจทางธรณีวิทยา ภาพถ่ายดาวเทียม และแหล่งข้อมูลทางการอื่น ๆ ทำให้มีความแม่นยำสูงสำหรับรายละเอียดทางกฎหมาย ที่ดิน และภูมิประเทศ จึงเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับการใช้งานอย่างเป็นทางการ นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ข้อมูลของ Google Maps ไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้โดยตรง

วัตถุประสงค์และการใช้ Google Maps ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานของผู้บริโภคทั่วไป โดยเน้นที่การนำทาง รายชื่อธุรกิจ สภาพการจราจร และจุดที่น่าสนใจ ในขณะที่แผนที่ของรัฐบาลมักใช้เพื่อวัตถุประสงค์อย่างเป็นทางการ เช่น การวางผังเมือง การบริหารที่ดิน การเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม และเอกสารทางกฎหมาย

อำนาจทางกฎหมาย แผนที่ของรัฐบาล มีอำนาจทางกฎหมายอย่างชัดเจน และถูกนำไปใช้ในบริบทที่เป็นทางการต่าง ๆ เช่น เมื่อเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์สิน จะอ้างอิงจากแผนที่ที่ออกโดยหน่วยงานราชการ ไม่ใช่แผนที่เชิงพาณิชย์ใด ๆ ในทางตรงกันข้าม Google Maps ไม่มีอำนาจทางกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่ควรนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย การพิพาทเกี่ยวกับที่ดิน หรือการวางแผนที่ต้องการรายละเอียด และความถูกต้องแม่นยำทางกฎหมายสูง

คำเตือนในข้อกำหนดการให้บริการ ข้อกำหนดการให้บริการเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้งาน Google Maps ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า

เมื่อคุณใช้ข้อมูลแผนที่ของ Google Maps ข้อมูลการจราจร เส้นทาง และเนื้อหาอื่น ๆ คุณอาจพบว่าสภาพจริงแตกต่างจากผลลัพธ์และเนื้อหาบนแผนที่ ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณของคุณเองและใช้ Google Maps ด้วยความเสี่ยงของคุณเอง

กรณีตัวอย่างความขัดแย้งเรื่องพรมแดนระหว่างประเทศ

หลายครั้ง Google Maps มักตกอยู่ในความขัดแย้งเรื่องพรมแดนระหว่างประเทศต่าง ๆ เนื่องจากเป็นบริการแผนที่ยอดนิยม โดยปกติแล้ว Google จะต้องระบุพื้นที่พิพาทให้กับประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือระบุว่าเป็นพื้นที่ที่มีข้อพิพาท ซึ่งมักจะสร้างความไม่พอใจให้กับประเทศที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างเหตุการณ์ที่ Google Maps เข้าไปเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเรื่องพรมแดน เช่น "ไครเมีย" รัสเซียและยูเครน เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง Google ได้ใช้กลยุทธ์แสดงผลที่แตกต่างกันไปตามตำแหน่งของผู้ใช้ ผู้ใช้ Google Maps ในยูเครนจะเห็นไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน ขณะที่ผู้ใช้ในรัสเซียจะเห็นไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ส่วนผู้ใช้จากประเทศอื่น ๆ จะเห็นว่าภูมิภาคนี้เป็นพื้นที่พิพาท โฆษกของ Google ชี้แจงว่าบริษัทใช้กฎระเบียบท้องถิ่นในการกำหนดพรมแดน

Google Maps เป็นหลักฐานทางกฎหมาย

แม้จะไม่มีอำนาจทางกฎหมายโดยตรง แต่ข้อมูลจาก Google Maps ก็สามารถเป็น "หลักฐานประกอบ" ในบางคดีความได้ ตัวอย่างเช่น การไขคดีฆาตกรรมปริศนาในสเปน ที่ Google Street View ได้บันทึกภาพสำคัญที่แสดงให้เห็นบุคคลหนึ่งกำลังนำศพที่อยู่ในถุงสีขาวใส่ท้ายรถโรเวอร์สีแดง ภาพดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการคลี่คลายคดีฆาตกรรมของชายที่หายตัวไปและพบศพในสภาพถูกตัดเป็นชิ้น ๆ ในเวลาต่อมา ซึ่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม Google Maps เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และข้อมูลบางอย่างอาจถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนในกระบวนการยุติธรรมได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้มีสถานะหรืออำนาจทางกฎหมายเทียบเท่ากับแผนที่หรือเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการโดยตรง ซึ่งเป็นข้อควรระวังสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลแผนที่เพื่อวัตถุประสงค์ที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย

แหล่งที่มา: Manifold Data Mining Inc , Google , Listverse , BCC

เรียบเรียง : ศศิมาภรณ์ สุขประสิทธิ์ นักศึกษาฝึกงาน โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อ่านข่าวเพิ่ม :

แม่ชี-สามเณรี-ภิกษุณี รู้จักเส้นทางธรรม "สตรี" ในพุทธศาสนา

จ่อทิ้งร้าง! “ท่าเรือ-พิพิธภัณฑ์ 007” จ.พังงา จังหวัดของบฯ สร้าง โบ้ยให้ท้องถิ่นดูแล

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thai PBS

วิดีโอ

เอกชนห่วงเจรจาภาษีสหรัฐฯ ไทยอาจถูกกดดันหนัก

19 นาทีที่แล้ว

เพาะพันธุ์เชิงเศรษฐกิจ กรมอุทยานฯ กำหนดราคาขาย "เหี้ย" ตัวละ 500 บาท

29 นาทีที่แล้ว

สถานกงสุลใหญ่ ขอคนไทยในฟูกูโอกะติดตามข่าวใกล้ชิด หลังเกิดแผ่นดินไหวกว่า 1,000 ครั้ง

32 นาทีที่แล้ว
วิดีโอ

โรงเรียนเพิ่ม 3 มาตรการ คุมเข้มความปลอดภัย

36 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าว สังคม อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

“บิ๊กเต่า” เร่งตรวจเส้นทางเงินเจ้าอาวาสวัดม่วง - ลูกศิษย์วัดเข้าให้ข้อมูล

Thai PBS

"ในหลวง-พระราชินี" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ครม.ใหม่เฝ้าฯ ถวายสัตย์

Thai PBS

Google Maps ไร้สถานะในศาล! เหตุใดใช้พิสูจน์ "พรมแดน" ไม่ได้

Thai PBS
ดูเพิ่ม
Loading...