ชาวบ้านยังมั่นใจ ไปท่องเที่ยว ปราสาทตาเมือนธม | ห้องข่าวภาคเที่ยง

ห้องข่าวภาคเที่ยง - แม้จะมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บนปราสาทตาเมือนธม แต่ชาวบ้านของทั้ง 2 ประเทศ ก็ยังเดินทางไปท่องเที่ยวเหมือนเดิม เรื่องนี้จริง ๆ แล้ว เกิดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่โซเชียลเพิ่งนำมาแชร์ เป็นคลิปทหารกัมพูชาชี้หน้าต่อว่าทหารไทย ที่หน้าปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ สาเหตุเกิดจากคณะครูโรงเรียนบ้านปะนอยไถง ประสานมาชมปราสาทฯ มาถึงเวลา 14.52 น. หลังมอบสิ่งของถ่ายรูป จนเวลา 14.55 น. จะเข้าไปชมปราสาทฯ ทหารกัมพูชาเข้ามาทักท้วง เพราะจะปิดให้เที่ยวเวลา 15.00 น. ทหารไทยจึงโต้เถียงว่า ยังเหลืออีก 5 นาที ทำให้ทหารกัมพูชาไม่พอใจใช้วาจาและท่าทีที่ไม่เหมาะสม แต่สุดท้ายทั้ง 2 ฝ่าย ได้พูดคุยทำความเข้าใจกัน ก่อนจะแยกย้าย แต่เพิ่งจะมีคลิปออกมาแชร์ ล่าสุดเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาเมือนธม พบว่ายังมีชาวบ้านที่มาจากหลากหลายจังหวัด นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้ทหารที่ทำหน้าที่ดูแลปราสาทตาเมือนธม เพื่อเป็นขวัญกำลัง โดยกลุ่มชาวบ้าน บอกว่า ตอนแรกก็กลัวจะขึ้นมา แต่พอมาเห็นแล้วไม่น่ากลัวอย่างที่เห็นเป็นข่าว ส่วนที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ วันนี้ฝ่ายไทยเปิดด่านตามปกติแบบมีเงื่อนไข 07.00 น. รับเฉพาะผู้ป่วยและนักเรียน ทำให้ตอนนี้การค้าชายแดนเงียบเหงา นักท่องเที่ยวไม่กล้าเดินทางมาเที่ยว ที่พัก รีสอร์ต ร้านอาหาร ได้รับผลกระทบทั้งหมด ผู้สื่อข่าวเราไปพูดคุยกับผู้จัดการรีสอร์ตหรูที่อยู่ติดชายแดน ปกติที่นี่จะใช้จัดประชุมระหว่างไทย-กัมพูชา และจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาพัก เพื่อเดินทางไปเที่ยวปราสาทนครวัด-นครธม ในกัมพูชา แต่ทุกวันนี้เงียบเหงา ก็ขอเชิญชวนให้มาเที่ยว เพราะแท้จริงแล้วบรรยากาศที่ด่านชายแดนช่องสะงำ สงบสุข ปลอดภัย และยังน่าเที่ยวอยู่ ตอนนี้ปรับตัวเข้าร่วมโครงการเที่ยวคนละครึ่ง และลดราคาพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวที่มาพักด้วย ขณะที่ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ พูดถึง ผลกระทบแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกกระทบด้านการค้าชายแดน เฉพาะที่สุรินทร์ ไม่สามารถส่งออกสินค้าไปกัมพูชา เสียหายเฉลี่ยเดือนละกว่า 200-300 ล้านบาท อีกส่วนกระทบด้านแรงงาน ตอนนี้ยังเหลือแรงงานชาวกัมพูชาทำงานอยู่ตามกิจการต่าง ๆ ทั้งก่อสร้าง ร้านอาหาร และโรงงาน กว่า 1 พันคน บัตรผ่านแดนจะหมุดอายุในอีกไม่ถึง 10 วัน บัตรอายุ 30 วัน ต้องเดินทางกลับ หากเกินกำหนด จะมีค่าปรับถึงวันละ 500 บาท ทำให้เกิดความสับสนทั้งจากแรงงานและผู้ประกอบการ ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อ เพราะยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนจากภาครัฐ หอการค้าจึงทำหนังสือไปยังกองกำลังสุรนารี เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาแล้ว ส่วนที่ชายแดน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ยังคงมีคนไทยที่ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลักลอบข้ามแดนเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ 3 คน 2 คน แรก คือนายสุเนตร อายุ 47 ปี และนายภานุพงศ์ อายุ 37 ปี ถูกจับกุมขณะมุดลวดหนามข้ามแดนกลับมา ทั้งคู่ อ้างว่า ถูกคนรู้จักหลอกว่าจะพาไปทำงานรายได้ดี แต่เมื่อไปถึงกลับถูกนำไปขังไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ปอยเปตนานถึง 2 วันโดยไม่ได้ทำงาน เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีและเงินที่พกมาเริ่มหมด จึงตัดสินใจพากันหลบหนีออกมา อีกคนข้ามตามมาติด ๆ ถูกจับเหมือนกัน คือ นายทศวรรษ อายุ 35 ปี คนนี้ถูกจับขณะปีนรั้วทางรถไฟกลับเข้าไทย เจ้าตัวอ้างว่าถูกหลอกผ่านเฟซบุ๊กให้ไปทำงานแอดมินฯ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกบังคับให้เป็น บัญชีม้าสแกนหน้า และเมื่อสแกนใบหน้าเสร็จ ก็จะถูกหัวหน้าชาวจีน และไทยรุมทำร้ายร่างกายทุกวัน เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ จนล่าสุดถูกปล่อยทิ้ง ทำให้ต้องหาทางหนีกลับไทย เจ้าหน้าที่นำตัวทั้งหมดไปตรวจสอบ และดำเนินคดีต่อ กดติดตามช่อง CH7HD News ได้ที่ : https://cutt.ly/YTch7hdnews ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://news.ch7.com #ห้องข่าวภาคเที่ยง #ข่าวช่อง7 #CH7HDNEWS ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero