ไม่เคยทรยศงู! 'ชัลฮาโนกลู' โต้คำพูด 'เลาตาโร่' สร้างความแตกแยก
ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ออกมาตอบโต้คอมเมนต์ของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ โดยบอกว่าสิ่งที่เขาพูดออกมานั้นสร้างความแตกแยกแทนที่จะทำให้เกิดความสามัคคี และยืนยันไม่เคยทรยศ อินเตอร์ มิลาน
มาร์ติเนซ ให้สัมภาษณ์หลัง อินเตอร์ ตกรอบจากศึกชิงแชมป์สโมสรโลกว่านักเตะคนไหนที่ไม่อยากอยู่กับทีมต่อต้องย้ายออกไป
แล้ว เบปเป้ มารอตต้า ก็ให้สัมภาษณ์ณตามหลังมาว่าคนที่กัปตันของ "งูใหญ่" เอ่ยถึงนั้น่าจะเป็น ชัลฮาโนกลู ที่กำลังตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีม
นั่นทำให้แข้งชาวตุรกีต้องโพสต์ตอบโต้คอมเมนต์เหล่านั้นทั้งในภาษาตุรกี, อิตาลีและอังกฤษ โดยบอกว่าเขาให้ความเคารพเพื่อนร่วมทีมและประธานสโมสรเสมอ แต่ก็ต้องได้รับความเคารพกลับมาด้วย
"หลังจากพบอาการเจ็บในแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ เรายังตัดสินใจว่าผมจะเดินทางไปอเมริกาพร้อมกับทีม" ชัลฮาโนกลู โพสต์บนโซเชียล มีเดีย
"การไปอยู่ตรงนั้นเป็นเรื่องสำคัญกับผมต่อให้ผมลงสนามไม่ได้ ผมอยากอยู่ใกล้ชิดกับทีมเพื่อคอยเป็นกำลังใจ"
"โชคร้ายที่ระหว่างการซ้อมในอเมริกา ผมพบกับอาการเจ็บบริเวณอื่น ผลการตรวจก็ชัดเจนว่าเป็นอาการกล้ามเนื้อฉีก เพราะอย่างนั้นผมถึงลงสนามในทัวร์นาเมนต์นี้ไม่ได้ ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้เลย มันไม่มีเรื่องอะไรแอบแฝง"
"เมื่อวานเราแพ้และมันน่าเจ็บปวด ผมรู้สึกเศร้าใจ ไม่ใช่เพียงแค่เพราะผมเป็นนักฟุตบอล แต่ยังเป็นเพราะผมแคร์กับทีมนี้จริงๆ"
"ถึงแม้จะมีอาการเจ็บ ผมโทรหาเพื่อนร่วมทีมบางคนหลังจบเกมเพื่อเป็นกำลังใจ เพราะนั่นคือสิ่งที่คุณทำเมื่อคุณแคร์"
"แต่สิ่งที่กระทบผมที่สุดคือคำพูดที่ตามมาหลังจากนั้น เป็นคำพูดที่โหดร้าย เป็นคำพูดที่ทำให้แตกแยก ไม่ใช่เป็นหนึ่งเดียวกัน"
"ผมไม่เคยมองหาข้อแก้ตัวในเส้นทางอาชีพของผม ผมแสดงความรับผิดชอบเสมอ ผมลงสนามแม้จะมีอาการเจ็บปวด"
"และในช่วงเวลาอันยากลำบาก ผมพยายามที่จะเป็นต้นแบบ ไม่ใช่ด้วยคำพูดแต่เป็นการกระทำ"
"ผมเคารพทุกความเห็น แม้จะมาจากเพื่อนร่วมทีม แม้จะมาจากประธานสโมสร แต่ความเคารพเกิดขึ้นจากฝั่งๆเดียวไม่ได้ ผมแสดงความเคารพให้เห็นเสมอทั้งในและนอกสนาม"
"และผมเชื่อว่าในฟุตบอลนั้นความเข้มแข็งที่แท้จริงมาจากการให้ความเคารพต่อกัน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่บอบบางที่สุด"
"ผมไม่เคยทรยศสีเสื้อนี้ ผมไม่เคยบอกว่าผมไม่แฮปปี้กับ อินเตอร์ ที่ผ่านมาผมก็ได้รับข้อเสนอ แม้แต่ข้อเสนอที่สำคัญมากๆ แต่ผมก็เลือกอยู่ต่อ"
"เพราะผมรู้ว่าชุดแข่งนี้มีความหมายต่อผมอย่างไร และผมคิดว่าสิ่งที่ผมเลือกก็เป็นตัวบ่งบอกแล้วนะ"
"ผมเคยได้รับเกียรติให้เป็นกัปตันทีมชาติ และนั่นทำให้ผมเรียนรู้ว่าผู้นำที่แท้จริงคือคนที่ยืนเคียงข้างเพื่อนร่วมทีม ไม่ใช่คนที่โทษใครสักคนเมื่อมันเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด"
"ผมรักกีฬานี้ ผมรักสโมสรนี้ และผมรักสีเสื้อนี้ที่ผมทุ่มเททุกสิ่งให้อยู่ทุกวัน"
"อนาคตเหรอ? เราจะได้ทราบกัน แต่ประวัติศาสตร์จะจดจำเพียงแค่คนที่ยืนหยัดขึ้นมา ไม่ใช่คนที่ส่งเสียงดังที่สุด"