สส.ปชน. ชี้ "ภาษีทรัมป์" กระทบชาวไร่ข้าวโพด แนะ งดนำเข้าจากสหรัฐ
นายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แสดงความเห็นกรณีรัฐบาลโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้นำการเจรจาการค้าไทยสหรัฐ กล่าวต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568
ระบุภายใต้ข้อตกลงระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา ไทยจะนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐอเมริกาประมาณ 30% หรือประมาณ 3 ล้านตัน ซึ่งเกือบทั้งหมดจะเป็นข้าวโพดตัดต่อพันธุกรรม หรือข้าวโพด GMOs ว่าการตกลงของรัฐบาลไทยในครั้งนี้ จะสร้างผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด โดยพรรคประชาชนมีข้อเสนอต่อไปนี้
(1) การนำเข้าข้าวโพด 30% หรือประมาณ 3 ล้านตัน จะกระทบต่อราคาข้าวโพดและรายได้ของเกษตรกรในประเทศอย่างแน่นอน หากไม่มีมาตรการรองรับที่แข็งแกร่งพอ และยังอาจกระทบทางอ้อมต่อราคาพืชอาหารสัตว์อื่นๆ ด้วย นอกจากนี้ การนำเข้าข้าวโพด GMOs ยังต้องมีมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพและการตรวจสอบย้อนกลับที่โปร่งใสและชัดเจน
(2) รัฐบาลต้องเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด และผู้ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานข้าวโพดอย่างเปิดเผยโดยด่วนที่สุด เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดและผู้ที่เกี่ยวข้องมาก่อนเลย
(3) หลังจากการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนแล้ว รัฐบาลควรมีการตั้งคณะกรรมการไตรภาคีระหว่างเกษตรกร (ผู้ปลูกข้าวโพด) ผู้ประกอบการ (ข้าวโพดและอาหารสัตว์) และรัฐ หรือ ภาคี Farm-Feed-Food Fair Coalition เพื่อผนึกกำลังกันและสร้างความเป็นธรรมในการเจรจาและหาข้อยุติต่างๆ ทั้งกลไกภายในประเทศ และการเจรจากับสหรัฐอเมริกาต่อไป
(4) การนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐอเมริกาจำเป็นจะต้องมีการเตรียมมาตรการรองรับที่ดีพอ รัฐบาลต้องกำหนดกรอบเวลาที่เหมาะสมสำหรับการปรับตัวของเกษตรกรในประเทศ
โดยไม่ควรนำเข้าในช่วงปีการเพาะปลูก 2568/69 โดยเด็ดขาด และหากจะมีการนำเข้าต่อไป ก็ควรกำหนดช่วงห้ามนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงที่เกษตรกรในประเทศเก็บเกี่ยวเพื่อป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกร และในช่วงแรกควรให้มีการนำเข้าผ่านองค์การคลังสินค้าเท่านั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อการรับซื้อข้าวโพดในประเทศ
(5) รัฐบาลควรจัดเตรียมมาตรการและงบประมาณในการสนับสนุนการเพิ่มผลิตภาพการผลิตข้าวโพด และลดต้นทุนการปลูกข้าวโพดในทันที โดยใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลเตรียมไว้มาให้การสนับสนุนแบบมีเป้าหมาย (หรือ Strategic subsidies) เพื่อเตรียมความพร้อมให้เกษตรกรสามารถปรับตัว รับมือ และแข่งขันได้ดีขึ้นในอนาคต
(6) รัฐบาลควรจัดทำระบบรายงานสาธารณะ หรือ Public Dashboard ที่เปิดเผยทั้งราคาข้าวโพด หมู ไก่ ผลผลิตทางการเกษตร ปริมาณสต็อกวัตถุดิบอาหารสัตว์ และต้นทุนปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย อาหารสัตว์ แบบรายสัปดาห์ เพื่อให้ทั้งระบบโปร่งใส ช่วยเฝ้าระวัง และเตือนภัยได้อย่างทันการณ์
นอกจากนี้ รัฐบาลควรประเมินผลกระทบต่อเกษตรกรจากการนำเข้าและมาตรการต่างๆ ในแต่ละปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงกลไกให้มีความเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด
(7) รัฐบาลควรพิจารณารูปแบบกลไกแบ่งปันผลประโยชน์ตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างเป็นธรรม กรณีที่สินค้าปลายน้ำมีต้นทุนถูกลง ราคาสูงขึ้นมาก ก็ควรแบ่งกำไรส่วนหนึ่งกลับไปช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ซึ่งเป็นผู้ผลิตต้นน้ำด้วย
นายณรงเดชกล่าวด้วยว่า นอกจากผู้ปลูกข้าวโพดแล้ว แม้แต่ชาวนาก็จะได้รับผลกระทบ เพราะข้าวโพดนำเข้าจะกดราคารำข้าวและปลายข้าวที่เอาไปทำอาหารสัตว์
ที่ผ่านมา รมว.คลัง เพียงพูดกว้างๆ แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดแต่ละภาคเศรษฐกิจ จึงเห็นว่าควรเปิดเผยส่วนนี้โดยเร็ว เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในภาคเศรษฐกิจนั้นเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้