‘พลภูมิ’ นำทีม ส.ก.เพื่อไทย แจ้งความ ‘ไอซ์ รักชนก’ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ปมโพสต์บิดเบือน - ใส่ร้าย
(5 ส.ค. 68) นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ฐานะแกนนำภาค กทม. พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และ ส.ก.พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ส.ก.เขตคันนายาว, นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ส.ก.เขตบึงกุ่ม. น.ส.มธุรส เบนท์ ส.ก.เขตสะพานสูง และ น.ส.นภัสสร พละระวีพงศ์ ส.ก.เขตบางกะปิ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางชัน เพื่อดำเนินคดีกับ น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคประชาชน ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
นายพลภูมิกล่าวว่า สาเหตุที่ ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยต้องเข้าแจ้งความในวันนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ส.ค. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “รักชนก ศรีนอก” กล่าวหา ส.ก.พรรคเพื่อไทยตัดโควตาคนนอกของพรรคประชาชนออก นอกจากนี้ยังโพสต์ชื่อและลิงก์เพจเฟซบุ๊กของ ส.ก.พรรคเพื่อไทยทั้ง 4 คนที่เข้าแจ้งความในวันนี้ ทำให้ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกสังคมเข้าใจผิด และถูกลดความน่าเชื่อถือในฐานะผู้แทนของประชาชน โดยเห็นว่าการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องกระทำบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ไม่ใช่เพื่อสร้างวาทกรรมโจมตีอย่างไร้ความรับผิดชอบ
นายพลภูมิกล่าวต่อว่า ตลอดเวลาที่ตนทำงานกับ ส.ก.พรรคเพื่อไทย ได้เห็นความทุ่มเท เห็นการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และการทำงานร่วมกับประชาชนในทุกปัญหา การบริหารงบประมาณในระดับเขตมีขั้นตอนที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องผ่านการกลั่นกรองในสภา ทุกคนทำงานภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่โดยไม่มีข้อครหาใดทั้งสิ้น แต่เมื่อมีบุคคลสาธารณะ เป็นถึง ส.ส.ออกมาใช้คำว่า “จับโป๊ะ จับโกง” และ “จะโกหกอะไรก็ได้” โดยไม่มีหลักฐาน นอกจากจะเป็นการดูหมิ่นผู้แทนท้องถิ่นแล้ว ยังบั่นทอนศรัทธาของประชาชนที่มีต่อสภากรุงเทพมหานครอย่างร้ายแรง เราไม่ได้ดำเนินคดีเพื่อตอบโต้ แต่เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของผู้ที่ทำงานหนักโดยสุจริต และเพื่อรักษามาตรฐานของการเมืองที่ตั้งอยู่บนความรับผิดชอบ ไม่ใช่วาทกรรมปลุกกระแสแบบฉาบฉวย
ด้านนายจิรวัฒน์กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้ทางทีมกฎหมายได้พิจารณาแล้วเป็นการสร้างความเสียหาย เพราะมีการกล่าวหาว่ามีการทุจริต ดังนั้นวันนี้จึงต้องมาแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.รักชนกจนถึงที่สุด เพราะเวลาที่ท่านเป็นนักการเมือง ไม่ใช่ว่าอยากจะพูดอยากจะกล่าวหาใครก็ได้ หรือพูดเอาสนุก พูดเอาเท่ การพูดหรือการโพสต์อะไรควรจะต้องมีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะผู้ที่เป็น ส.ส. เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่ง ส.ก.ทุกคนมีความตั้งใจในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ใช่ท่านเอาดีเข้าตัวอยู่คนเดียว
นายเนติภูมิกล่าวว่า สิ่งที่ตนรับไม่ได้คือการเหมารวมว่า คนพวกนี้จะโกหกอะไรก็ได้ ทั้งที่เราทุกคนทำงานภายใต้สายตาของประชาชนทุกวัน การโพสต์กล่าวหาลอยๆ แบบนี้ ทำให้คนไม่รู้ข้อเท็จจริงเกิดความเข้าใจผิด ตนไม่สามารถยอมได้ โดยเฉพาะการมาทำลายความตั้งใจของผมและทีมงาน
ด้าน น.ส.นภัสสรกล่าวว่า คำพูดที่ว่ากลัวโดนจับโกง เป็นถ้อยคำรุนแรงที่ไม่มีมูลความจริง พวกตนไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำทุจริตใดๆ และการเหมารวมว่าทั้งกลุ่ม ส.ก.เพื่อไทยมีพฤติกรรมเช่นนั้น ถือเป็นการใส่ร้ายอย่างไม่ยุติธรรม ตนขอยืนยันว่าเราจะใช้สิทธิตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาเกียรติและความศรัทธาจากประชาชนในพื้นที่ กลุ่ม ส.ก.ผู้เสียหายทั้ง 4 คนยืนยันว่าการดำเนินคดีครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อการโต้ตอบทางการเมือง แต่เพื่อปกป้องชื่อเสียง ศักดิ์ศรี และความถูกต้องในหน้าที่ของผู้แทนประชาชนในระดับท้องถิ่น พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่อยู่ในแวดวงการเมืองใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกด้วยความรับผิดชอบ และเคารพต่อข้อเท็จจริงในสังคมประชาธิปไตย
โดยก่อนหน้านี้ น.ส.รักชนก เคยโพสต์ โจมตี ส.ก.พรรคเพื่อไทย เรื่องความไม่โปร่งใสในการโหวตเพื่อตั้งกรรมการงบประมาณของกรุงเทพมหานคร