“ก.ธ.จ.อยุธยา” ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการระดับท้องถิ่น 32 ล้าน พบปัญหาการใช้จ่ายงบไม่คุ้มค่า
คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ก.ธ.จ.) พร้อมด้วยที่ปรึกษา ก.ธ.จ.ด้านวิชาการ และคณะลงพื้นที่สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการ งบประมาณเงินอุดหนุนระดับท้องถิ่น รวมกว่า 32 ล้านบาท (32,209,000 บาท) พบบางพื้นที่ปฏิบัติผิดระเบียบและไม่เกิดความคุ้มค่า
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.68 นางศิริพร กฤชสินชัย รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ก.ธ.จ.) พร้อมด้วยนายชานนท์ สุวรรณาภินันท์ ที่ปรึกษา ก.ธ.จ.ด้านวิชาการ และคณะลงพื้นที่สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการ มีด้วยกัน 5 โครงการ โครงการปรับปรุงถนนลาดยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต และติดตั้งชุดเสาไฟถนนโคมไฟแอลอีดีพลังงานแสงอาทิตย์ แบบกล่องบรรจุแบตเตอรี่ พร้อมเลนส์ควบคุมทิศทาง โครงการปรับปรุงถนน โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรตำบลทับน้ำ – ตำบลบ้านม้า ฯลฯ งบประมาณเงินอุดหนุนระดับท้องถิ่นรวมกว่า 32 ล้านบาท (32,209,000 บาท) พบบางพื้นที่ปฏิบัติผิดระเบียบและไม่เกิดความคุ้มค่า
นางศิริพร กฤชสินชัย เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ว่า การลงพื้นที่สอดส่องครั้งนี้มี 4 อบต. ใน 4 อำเภอ เป็นโครงการสอดส่องต่อเนื่องตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2568 ระดับท้องถิ่น มีด้วยกัน 5 โครงการ เป็นงบที่ได้รับจัดสรรงบประมาณอุดหนุน ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงถนนลาดยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ยาว 1,555 เมตร กว้าง 6 เมตร และติดตั้งชุดเสาไฟถนนโคมไฟแอลอีดีพลังงานแสงอาทิตย์ แบบกล่องบรรจุแบตเตอรี่ พร้อมเลนส์ควบคุมทิศทาง บนถนนบ้านคลองแร่ หมู่ที่ 11 ถึงบ้านปากคลอง หมู่ที่ 4 จำนวน 10 ชุด มี อบต.ปลายกลัด อำเภอบางซ้าย รับผิดชอบ ภายใต้งบประมาณ 9,980,000 บาท โครงการปรับปรุงถนนของ อบต.น้ำเต้า อำเภอบางบาล งบ 9,980,000 บาท
รวมถึง โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรตำบลทับน้ำ - ตำบลบ้านม้า อบต.ทับน้ำ อำเภอบางปะหัน โดยติดตั้งชุดเสาไฟฟ้าปรับความสูงได้ด้วยเฟืองสะพาน พร้อมโคมไฟแอลอีดีพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 16 ชุด ใช้งบ กว่า 1 ล้านบาท และโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ บริเวณวัดบ้านม้า หมู่ที่ 3 และก่อสร้างหอถังเหล็กเก็บน้ำ งบกว่า 2 ล้านบาท และสุดท้ายคือโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าแสงสว่างด้วยชุดเสาไฟถนนปรับความสูงได้ด้วยเฟืองสะพานพร้อมโคมไฟถนน จำนวน 128 ต้น มี อบต.เสนา อำเภออุทัย รับผิดชอบ ด้วยงบ 8,960,000 บาท รวมงบประมาณทั้งสิ้นกว่า 32 ล้านบาท
ด้านนายชานนท์ สุวรรณาภินันท์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ดังกล่าวได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ ที่รับผิดชอบศึกษาข้อมูลและสร้างความรู้ความเข้าใจในระเบียบปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อตนเอง พร้อมคำนึงถึงการนำงบไปใช้ให้เกิดความคุ้มค่า ประชาชน ได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะการใช้บัญชีนวัตกรรม การติดตั้งเสาไฟฟ้าแสงสว่าง เช่น ไม่มีความเข้าใจถึงการนำเศษปูนที่ไม่มีการบดอัด แล้วนำไปถมเป็นไหล่ทาง การใช้งบในการการติดตั้งเสาไฟฟ้ามีราคาสูง และให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของตนเอง อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในทุกเรื่องควรทำคู่มือและปฏิบัติให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบตามมา